น่านป๊ะ ภูลังกา ดอยผาผึ้ง บ้านมณีพฤกษ์ บ่อเกลือ ศรีนวล ลอดจ์ ดอยเสมอดาว

สวัสดีครับผมขอแชร์ เรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยวในแบบของผมครับนะครับ หลังจากที่ได้หาของมูลมาเยอะแยะ หลากหลายสถานที่ ก็เลยมาจบที่ จังหวัดน่าน ครับ ได้ที่ไปแล้วก็หาที่พักต่อ ลาพักร้อน  จองตั๋วเครื่องบิน  ครบ กำนดการเดินทางจะเป็นประมาณนี้ครับ 

 ขึ้นเครื่องวันที่ 19/11/2017 เช้า 07.00 น.

19/11/2017 พักที่ ภูลังกา

20/11/2017 พักที่ ดอยผาผึ้ง บ้านมณีพฤกษ์ 

21/11/2017 พักที่ บ่อเกลือวิว

22/11/2017 พักที่ ศรีนวล ลอดจ์ 

23/11/2017 พักที่ ดอยเสมอดาว

24/11/2017  ขึ้นเครื่องบินกลับ 11.30 น.

ก็จะประมาณนี้ครับ แผ่นการเดินทาง ลาพักร้อน ตั๋วเครื่องบิน ผมดำเนินการเสร็จตั้งแต่เดือน มรกราคม 2017 นะครับ

ส่วนที่พักผมแนะนำให้โทรไปสอบถามก่อนว่าจองได้ช่วงไหน  จองได้เลยใหม เพราะบางที่อาจเต็มในเวลาที่เราต้องการไป เช่น บอกว่าเปิดจองเดือน กันยายน ผมโทรไปวันที่ 1 กันยายน เต็มครับ (แล้วเปิดจองเดือนกันยายน คือ)  แต่ไม่เป็นไรครับ ว่ากันไป แล้วก็การจองก็ติดต่อค่อนข้างอยากเพราะอยู่บนดอยไม่ค่อยมีสัญญาโทรศัพท์ ผมใช้วิธีโทรบ่อยๆ ครับโทรเข้าไป จนกว่าจะได้

การเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดผมใช้มอเตอร์ไซค์ทั้งหมดครับ โอเคครับ เพ้อเจ้อมากก็นานละ ไปแว๊นกันเลย

ใช้มอเตอร์ไซค์พร้อม

 

19/11/2017 พักที่ ภูลังกา

เส้นทางการเดินทางผมใช้ google map ล้วนๆ ครับ ขับไปเลื่อย ไม่ต้องรีบ ค่อยๆ ไป เสพ สิ่งตางๆ ที่สายตามองเห็น สัมผัส สิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา จากเมือง ผ่านหมู่บ้าน ผ่านทุ่งนา ผ่านต้นไม้ ผ่านภูเขา ผ่านลำธาร (แล้วก็ผ่านไปเลย ไม่ใช้)

ในที่สุดก็มาถึงครับ ใช้เวลาก็ประมาณสามชัวโมงกว่าๆ (ผมแวะไปเลือยนะครับ) เส้นทางก็โหดพอสมควร ครับ

ถ่ายจากหน้าห้องพักครับ

เช็คอินเก็บของกินข้าว ไปถ่ายรูปกัน

กลางวันก็ไม่คอยมีอะไรให้ถ่ายมากครับ ตกเย็นก็มีอาหารให้เลือกรับประทานกันเยอะครับหลายอย่าง ตามสะดวกเลยผมจัดหมู่กะทะครับ ส่วนเรืืองราคานั้นก็ ตามรู้ๆ กันอยู่ เครืองดื่มถ้าเป็นไปได้ก็ซื้อข้างล่างขึ้นไปแล้วกันครับ กินเสร็จ นอนครับ สิ่งที่ผมรอคือพรุ้งนี้เช้า

ตื่นๆๆๆ ส่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือ

 

เหมือนอยู่บนสวรรค์ (ยังกะเคยไปนะ) 555 

พระเอกของเขาขึ้นมาแล้วๆๆๆๆ

แค่นี้ผมก็โอเคมาก กับที่ผมขับรถมาสามชัวโมงกว่าๆ  ถ่ายจนสะใจแล้วก็เก็บของ กินข้าวครับ เดินทางกันต่อ ผมออกจากที่นั้นก็ประมาณ  09.00 น ครับ ไปแว๊นกันต่อ 

 

20/11/2017 พักที่ ดอยผาผึ้ง บ้านมณีพฤกษ์ 

เส้นทางก็เอาเรื่องอยู่ครับ ถ้าใครขับมอเตอร์ไซค์ไม่แข็ง ผมไม่แนะน้ำให้ขึ้นไป ให้คนพาขึ้นไปดีกว่าครับ แต่มันใจก็ไม่ว่ากันครับ จัดไป ไม่ต้องรีบค่อยๆ ขับไปเพราะเราไม่เคยใช้เส้นทาง เวลาในการเดินทางก็ อยู่ที่ ประมาณ สามชัวโมงกว่าๆ อยากแวะตรงไหนก็แวะไปเลื่อย ตามเคย

บ้านมณีพฤกษ์ เป็นหมุ่บ้านเล็กของชาวเขาเผ่าอะไรผมก็จำไม่ได้ละ 555 ภาษาที่ใช้กันก็ไม่ใช่ภาษาไทย แต่ก็ยังพอพูดไปได้  ไปถึงก็เก็บของเข้าที่พักเรียบร้อย เซอร์ไพรส์ชุดใหญ่ ฝนตกครับพี่น้อง ตกจริงจังมาก นอนรอฝนหยุดก็ประมาณ 1 ชัวโมง

ถ่ายก่อนฝนตก

ฝนหยุดก็ไปถ่ายรูปกันที่ในหมู่บ้านครับ จนค่ำ ก็กลับมาทานข้าวกันที่ทางที่พักจัดไว้ให้ อาหารก็จะเป็น ใข่เจียว ผัดผัก น้ำพริก ประมาณนี้ แต่อร่อยมาก(หิวรึป่าว) หมดเติมได้ หัวละไม่แพงครับ พร้อมอาหารเช้า ต้องการอะไรแจ้งเจ้าของเค้าได้เลย ที่นี้จะมืดเร็ว แล้วหนาวมากครับ กำหนดการของผมพรุ้งนี้คือ นั่งรถขึ้นไปที่ดอยผาผึ้ง 05.30 น. ติดต่อไว้แล้วเที่ยวละ 700 บาท 

ตื่นเช้าอาบน้ำแต่งตัว(เหมือนนอนอยุ่ในช่องฟิตแล้วอาบน้ำ) โอ้ยหนาวๆ  รอคนมารับก็ยังไม่มาซักที ผมโทรไปตาม สรุปคือ นอนไม่ตืน มันยังไงๆ มารับด่วน ไม่เกิน10 นาที่ มาละ  ไปๆๆ ยังไม่ถึง 200 เมตร ขึ้นไม่ได้ครับ

เนื่องจากว่าเส้นทางที่ฝนเพิ่งตกไปเมื่อวาน รถโฟวิล จิงไม่สามารถขึ้นได้ ต้องกลับลงมาเปลี่ยนเป็นรถ รถอีแต๊ก เป็นไงละ รถหลักแสน ขึ้นไม่ได้ ต้องรถหลักหมื่นนี้ ของจิง เหมาะกับผมมากๆ

 

 

ตามภาพเลย

ผมเสียเวลากับการเปลี่ยนรถ อีกทั้งเส้นทางโหดมากๆ ก็เลยไปถึงก็ 08.30 แล้ว ไม่ทันพระอาทิตขึ้นครับ แต่ยังไงก็ยังสวยไปอีกแบบครับ ถึงซะที

 

ชื้นใจ

 

ไปให้สุด แล้วหยุดที่ เอาไปซัก ลุยๆๆ 

 

ไปถึงก็ถ่ายรูปกัันเต็มที่ครับ สมกับที่ดั้นด้นขึ้นไป แนะนำให้ไปช่วงเดือนธันวาคม จะสวยมากๆ แต่ผมเลือกไปช่วงนี้เพราะคนไม่คอยเยอะครับ(จริงๆแล้วใช้คำว่าไม่มีคนดีกว่า) ถ่ายเสร็จก็กลับซิครับ  ลงมาถึงก็อาบน้ำกันเข้าต้มทีพี่เขาเตรียมไว้ให้แล้ว 

สำหรับที่นี้หนาวได้ใจ ถึงจะไม่เห็นพระอาทิตขึ้น เราก็ยังได้ นั่งรถรถอีแต๊กสุดมัน ได้วิวสวยๆ อีกแบบหนึงครับ เอาละไปกันต่อเลย ผมออกเดินทางจากที่นี้ก็ประมาณ 10.00 น.ครับ

 

21/11/2017 พักที่ บ่อเกลือวิว

บ่อเกลือ ตั้งอยู่ใน อ. บ่อเกลือ อยู่ห่างจากตัวเมืองน่าน ประมาณ 80 กิโลเมตร มีชื่อเสียงในด้านการทำเกลือบนภูเขาที่ไม่มีที่ใดเหมือน เกลือสินเธาว์เพื่อ บริโภคและจำหน่ายเป็นรายได้อีกทางหนึ่ง บ่อเกลือนี้มีมาแต่โบราณและนำไปจำหน่ายยังกรุงสุโขทัย เชียงใหม่ เชียงตุง หลวงพระบาง รวมถึงสิบสองปันนา จีนตอนใต้เมื่อก่อนนี้จะมีบ่อเกลือหลายบ่อ แต่เดี๋ยวนี้ได้แห้งไปหมด เหลืออยู่เพียงสองบ่อเท่านั้น โดยการทำเหลือจะหยุดทำในช่วงเช้าพรรษาและจะทำ อีกครั้งในช่วงออกพรรษา ซึ่งในบริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านต่าง ๆอีก 8 หมู่บ้าน บ้านบ่อหลวงมีบ่อเกลือสาธารณะอยู่ 2 บ่อ ชาวบ้านจะเรียกว่า บ่อเหนือ และบ่อใต้ บ่อเหนืออยู่ริมแม่น้ำบางส่วนบ่อใต้ห่างออก ไปราว 500 เมตรติดเชิงเขาท้ายหมู่บ้าน และด้วยอำเภอบ่อเกลือ มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม โอบล้อมด้วย ขุนเขาเขียวขจี บ่อเกลือจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดน่านที่รอคอยนักเดินทางเข้ามาสัมผัสกลิ่นไอของธรรมชาตและตำนานการทำเกลือบนที่สูง

สำหรับผมเส้นทางไปบ่อเกลือนี้โหดมาก ขาขึ้นไปต้องขึ้นต่อเนื่องตลอด ไม่ค่อยมีจังหวะ ให้ขับลงเขาซักเท่าไร ก่อนขึ้นให้ติมน้ำมันไว้ให้เต็มถังนะครับ เนื่องจากว่ารถที่ผมใช้เป็นเกียรออโต้ มันเลยเปืองน้ำมันมากเพราะเส้นทางขึ้นเขาลากยาวมาก

แวะถ่ายรูปภูเขากะลำปี

พอถึงอุทยานแห่งชาติดอยภูคา  ซึ่งก็ประมาณครึ่งทางละ จะแวะถ่ายรูปก็ได้ครับ จากน้ำมันเต็มถังเหลือแค่ขีดแดงแล้วหมดก่อนถึงแน่ๆ ผมกังวนมากเพราะไม่รู้จะไปเติมที่ไหน ไม่รู้ทำไงเหมือนกัน ฝันให้ไกลไปให้ถึง ตายเอาดาบหน้าครับ ขับไปซักพัก มีชาวบ้านเปิดขายน้ำมันเป็นขวด จัดเลยลวดพี่ 2 ขวด เต็มถัง 80 บาท สะบายใจละ ถึงแน่ๆ ไปต่อๆ 

 

ถึงแล้วๆ ใช้เวลาก็สามชัวโมงกว่าๆ เหมือนเดิมเพราะขึ้นเขาตลอด

 

ไปถึงก็เช็คอิน เก็บของ ไปหากินข้าวถ่ายรูปกัน  เดียวผมลงรูปให้ยาวๆ เลย เพ้อเจ้อมาเยอะละ

 

 

เดินทาง ถ่ายรูป มาทั้งวันละได้ได้เวลาชิว ละ กลางคืนบรรยากาศเงียบ สงบเหมาะกับการแวะพัก พักผ่อนครับ จะมีร้านอาหารตรงข้างลำธาร ร้านหนึงตรงข้างสะพานเข้าบ่อเกลือ นั่งชิวได้ บรรยากาศดีมาก จัดซิครับรอไร ได้ที่แล้วก็นอนพักผ่อนครับพรุ้งนี้ต้องตื่นเช้า 

ตื่นๆ ตอนเช้าจะมีหมอกปกคุมทั้งหมู่บ้าน ทำให้อากาศเย็นสะบายมากๆ  เหมาะกันนั่งกินกาแฟ อุ่นๆ หอมๆ มากๆ

เก็บของ กินข้าว เช็คเอ้าท์ ออกจากที่นี้ก็ประมาณ 09.00 น. เดินทางต่อครับผม

 

22/11/2017 พักที่ น่าน ศรีนวล ลอดจ์ 

หลังจากเข้าป่า ขึ้นดอย มาหลายวันละ กลับเข้าเมืองบ้าง

ขับมาประมาณ สองชัวโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้ว มาก็ไปหาสิ่งดีๆ เข้าตัวกันก่อนเลยครับ

พระบรมธาตุแช่แห้ง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวน่าน วัดพระบรมธาตุแช่แห้งตั้งอยู่ที่บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงตึ๊ด กิ่งอำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน อยู่ห่างจากตัวเมืองไปราว 2กม. เส้นทางสายน่าน-แม่จริม สันนิษฐานว่ามี อายุราว 600 ปี พญาการเมืองโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1891 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้มาจาก กรุงสุโขทัย องค์พระธาตุมีีความสูง55.5 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 22.5 เมตร บุด้วยทอง เหลืองหมดทั้งองค์ เป็นโบราณสถาน ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของล้านนา ทุกปีจะมีงานนมัสการ พระบรมธาตุแช่แห้ง ระหว่างวันขึ้น 11 ค่ำ ถึง 15 ค่ำเดือน 6 ทางเหนือ ซึ่งจะอยู่ราวปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคมของทุกปี พระบรมธาตุแช่แห้งปูชนียสถานที่สำคัญของเมืองน่าน มีอายุกว่า 600 ปี ตามพงศาวดาเมืองน่านกล่าวว่าพญาการเมืองโปรดเกล้าให้ สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้มาจากเมืองสุโขทัยระหว่างปี พ.ศ.1891-1901 สถาปัตยกรรมด้านโบสถ์ของวัดพระธาตุแช่แห้ง 

 

สำหรับที่นี้จะมี จะมีพระธาตุ วัด สถาปัตโบราณให้ถ่ายเยอะครับ ชอบแบบไหนเลือกถ่ายกันได้เลย สำหรับอากาศก็บอกเลยว่า ร้อนตับแรบครับ ไม่เหมือนที่คิดไว้ 555 ไม่เป็นไร ลุยๆ

ถ่ายรูปเนื่อยแล้วเช็คอินที่พัก เก็บของ อาบน้ำ วันนี้ผมนอนที่ ศรีนวล ลอดจ์ จองไว้แล้ว ไม่แพง บรรยากาศ ดี ประทับใจครับ  ทำอะไรเสร็จแล็วประมาณ 17.30  ออกมาถ่ายรูปต่อครับ 

ยังไงก็ต้องไปถ่ายครับที่นี้

ยาวๆ ไปเลยครับ

 

เหนื่อยละ หลังจากนั้นความหิวก็เข้ามา ความตั้งใจคือ จะไปถนนคนเดินเซิด google map หา พาวนไป วนมา สรุป มันอยู่ข้างๆ ตรงที่ผมยืนแล้วเปิด google map นั้นแหละ (แล้วให้วนไปเพื่อ) เสียเวลาวนไปวนมา แล้วกลับมาที่เดิม แถมถนนคนเดิน วันนี้ไม่มีครับ จบกัน 

สรุปไปกินข้าวที่ร้าน ร้านเฮือนฮอม อาหารอร่อย ลองไปกันได้  อิ่มๆ  ซื้อกับแก้มกับห้องแปบ

ถ่ายไปเลื่อย กับถึงห้องก็ต่ออีกนิดหนึงครับ แล้ว สลบไปเลย ตื่นอีกทีก็ เช้าละ อาบน้ำกินข้าวกัน  เก็บของเช็คเอ้าท์ ออกจากที่นั้นก็ประมาณ 08.30 น.  เดินทางต่อ

 

23/11/2017 พักที่ ดอยเสมอดาว

 

ใช้เวลาเดินทางไม่เหมือนที่คิดไว้ครับ เดินทางแค่ชัวโมงกว่าๆ เส้นทางก็สะบายมากๆ แปบเดียวก็ถึงละ

ทำไงละคราวนี้ข้างบนกลางวันร้อนมากครับ ไม่มี ไรทำ  ก็เลยขับรถเล่นไปเลื่อยๆ 

ขับเลยไปจากดอยเสมอดาวไม่ไกลครับ

ผมว่างถึงขนาดว่าขับรถลงมาเลยจนถึงหมู่บ้านแล้วขับขึ้นไปใหม่ แต่ก็ได้รูปสวยครับ จัดไป

 

ได้เวลาพระอาทิตย์ตกแล้วๆ ดอยเสมอดาว ดูพระอาทิตย์ได้ทั้งขึ้นและตกนะครับ สวยยอดมากๆ

ถ่ายรูปเสร็จ ก็อาบน้ำ แต่งตัว ห้องน้ำที่นี้เป็นห้องน้ำรวมแยกชาติหญิงครับ สะอาด แนะนำให้อาบไม่เกิน หกโมงเย็นครับ หนาว เริ่มหิวแล้ว อาหารก็ไม่ต้องห่วงเลยครับ โทรสังได้เลยมีหลายร้านเดียวเขามาส่ง หมูกะทะ อีกแล้วครับท่าน เตาย่าง กับ ตะเกียง ก็มีให้เช่าครับ แต่ไม่มีเครืองดื่ม แอลกอฮอล์  อากาศตอนกลางหนาว ลมแรงมากๆ ห้ามส่งเสียงดังเกินสามทุ่มนะครับ กินอิ่มแล้วก็พักผ่อนครับ

ส่วนผมตื่นเต็นมากครับ รู้มาว่าที่นี้ ดาวสวยมากๆ ต่อไปนี้จะเป็นการถ่ายดาวครั้งแรกของผมครับ ถ่ายอยู่ สองสามชัวโมงไม่แน่ใจ ไม่หลับไม่นอนกันเลยทีเดียว

อ่าว งงๆ งงกันดิ นี้เหลอที่บอกถ่าย สองสาม ชัวโมงได้แค่นี้ บอกเลยว่า ได้แค่นี้จิงๆ ครับ ผมพยายามสุดแล้ว 5555+

 พระเอกของงานมาแล้ว ผมรอก่อนคนอื่นเค้าเลยได้ที่ดีๆ เพราะตอนเช้าคนจะเยอะมากๆ  แต่บอกเลยว่าหนาวมากๆ

 

 

เอาละครับถ่ายรูปเสร็จ ก็เก็บของ เอาเตา กับตะเกียง ไปคืนครับ เค้าใจให้เอาบัตรประชาชนมันจำไว้นะครับ 

ทำธุระอะไรเรียบร้อยแล้วก็ไปกินข้าว ขับรถกลับ น่านครับ ซื้อของฝาก อะไร เรียบร้อย เอารถไปคืน ไปสนามบินเดินทางกลับบ้านย่างปลอดภัยครับ บอกตรงๆ วันนี้ผมยังไม่ได้อาบน้ำครับ 5++++  จบทิปครับ

 

สำหรับทิปนี้ก็ สนุกครับ ทุกๆสถานที่จะมีเสน่ไม่เหมือนกัน และถึงแม้จะจะเป็นสถานที่เดียวกันแต่คนละช่วงเวลา ก็มีเสน่ไม่เหมือนกันครับ ใครอยากลองแบบผมบ้างก็จัดเลยครับ ไม่ต้องรวย ไม่ต้องมีเงินเยอะก็เทียวได้ครับแต่ต้องมีการว่างแผน ผมใช้วิธีแบบนี้ครับ ผมวางแผ่นทุกอย่างไว้ตั้งแต่เดือนแรกของปีเลยว่า จะไปไหน ไปกี่วั้น พักที่ไหน ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไร พอได้งบที่ต้องใช้แล้วผมก็เอามาหารว่าอีกกี่เดือนกว่าจะถึงวันที่ต้องไป ก็หารไป มันก็จะได้ยอดเงินที้ต้องเก็บของแต่ละเดือนไป จากนั้นก็เริ่มเก็บไปทุกเดือนๆ แบบนี้ครับ ผมงบน้อยก็ค่อยๆเก็บกันไป  ใครจะเอาไปใช้บ้าง ไม่ว่ากันครับ ขอบคุณมิตรภาพต่าง ที่ได้เจอระหว่างการเดินทาง ขอบคุณธรรมชาติ ที่มีสิ่งสวยงามให้ได้ชื่นชมกันเสมอ ขอบคุณแดดที่คอยแผดเผาระหว่างการเดินทางอยู่ตลอดเวลาไม่เคยทิ้งกันเลย ขอบคุณครับ