เขียนรีวิวนี้เพื่อคนมีเวลามากหน่อยที่จะมุ่งหน้าลงภาคใต้ โดยปกติก็ขับรถกันยาวๆ เลย สำหรับผมมีเวลาเหลือ เลยลองแวะไปเรื่อยๆ ซึ่งเป้าหมายจริงๆ คือจังหวัดระนอง แต่ครั้งนี้แวะนอนทางผ่านสักสองคืน น่าจะดีกว่าวิ่งยาวไประนองเลย ก็ได้เห็นได้เจออะไรหลายๆ อย่างเอามาแบ่งกันชม เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการแวะเที่ยวกันนะครับ

      เริ่มที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประตูหลังบ้านของภาคกลาง เขามาถึงตัวเมืองประมาณสองทุ่ม จองที่พักไว้เป็นโฮสเทลเล็กๆ ชื่อ "บ้านกลางซอย" ราคาห้องละ 500 บาท พร้อมอาหารเช้า มีห้องเพียงสามห้อง การดูแลเหมือนมาพักบ้านญาติ อยู่ใกล้สถานีรถไฟประจวบฯ ใกล้ บขส ครับ เช้าตื่นขึ้นแต่เช้าก็ไปเดินไปชายทะเล แล้ววนกลับมาตลาดโต้รุ่งที่มากินข้าวกันตอนกลางคืน เลยมาจะเป็นสถานีรถไฟ เป็นเมืองที่เงียบสงบดีมาก ทั้งๆ ที่เป็นช่วงเทศกาล ชอบๆแปดโมงเช้าก็เดินทางกันต่อ ออกเลียบทะเลมาทางกองบิน 5 แวะอ่าวมะนาว เดินเล่นถ่ายรูป  ขับรถมาจนถึงหว้ากอ บริเวณสถานแสดงพันธ์ุสัตว์น้ำ ก็พาเด็กๆ เข้าไปเดินชมสักพัก ก็สวยงามใช้ได้ครับ ออกจากหว้ากอก็ลัดเลาะเข้าสู่ถนนเพชรเกษม มุ่งลงใต้ต่อไปแล้วก็แวะกันที่บางเบิด ขับขึ้นเขาไปไหว้พระที่ พระมหาธาตุภักดีประกาศ เขาธงชัย มาจนสุดขอบประตูหลังบ้านของภาคกลางที่บางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็บ่ายมากแล้ว ซื้อข้าว ส้มตำ น้ำตก ไก่ย่าง เอาไปนั่งกินที่ชายทะเลอ่าวสมบูรณ์กัน และขับรถเที่ยวอ่าวแม่รำพึงด้วย

       เข้าสู่ประตูสู่ภาคใต้จริงๆ แล้ว คือจังหวัดชุมพร ส่วนตัวผมว่าประตู่สู่ภาคใต้น่าจะมีสองบานนะ คือไปทางระนองทางนึง กับไปทางหลังสวนชุมพรทางนึง ทั้งสองเส้นมุ่งลงใต้เช่นกัน ชุมพรคนท่องเที่ยวก็ไม่มากเหมือนฤดูร้อน เช่น ช่วงสงกรานต์ ผมพักโฮสเทลเล็กๆ เป็นมินิบาร์ ชื่อ BAR HORIZON ชั้นบนใต้หลังคามีห้องพักหนึ่งห้อง พักได้ 4 คน ราคา 500 บาท มีการแฟ โอวัลติน ตอนเช้าด้วย บรรยากาศดีทีเดียว เข้าที่พักแล้วเราก็ไปเขามัทรี และไปกินข้าวเย็นกันที่หาดภราดรกลับเข้าที่พัก ห้องพักน่านอนมาก เช้าก็ดื่มกาแฟแล้วค่อยเดินทางกันต่อ

ผ่านมาทางทับหลีก็ต้องข้าวมันไก่ทับหลี เพราะนอกจากซาลาเปาทับหลีแล้วก็มีข้าวมันไก่นี้ที่ขึ้นชื่อและแวะกันอีกที่ ร้านกาแฟคุ้นลิ้น ห้วยค้างคาว บรรยากาศห้าดาวเลยครับ

ถึงวัดวารีบรรพต ก็แสดงว่าเข้าสู่ตัวเมืองระนองแล้ว วัดรูปแบบพม่า มีชาวพม่ามากราบไหว้กันเยอะพอสมควรออกจากวัดก็ขับเลยตัวเมืองไปที่ ศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนหงาว เดินชมธรรมชาติกัน ซึ่งที่นี่จากข้อมูลจัดเป็นป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดของประเทศ มีพืชและสัตว์หายากหลายชนิด ใครมีโอกาสลองแวะเข้าไปเที่ยวชมได้ ขับรถย้อนกลับมาตามเส้นทางเข้าเมืองจะผ่านวัดบ้านหงาว ก็ควรแวะนะครับ มีหลวงพ่อดีบุก พระประธานที่ทำจากดีบุก องค์เดียวในโลก อุโบสถก็สร้างได้สวยงามด้านหลังวัดก็มีเส้นทางขึ้นไปสู่ดอยหงาวดาวดึงส์ เดินขึ้นด้วยบันได 343 ขั้น ขึ้นไปตีระฆังให้ดังถึงสวรรค์กันเลยห่างจากวัดไม่กี่ร้อยเมตรก็เป็นภูเขาหญ้า ตอนนี้ก็บ่ายแล้ว ผู้คนก็มานั่งพักผ่อนกันค่อนข้างเยอะผมออกจากจุดนี้ก็พาครอบครัวไปแช่น้ำร้อนที่ บ่อน้ำร้อนพรรั้งต่อก่อนจะเข้าเมืองก็เป็นโชคดีของเราที่วันที่เข้าเมืองระนองเป็นวันที่มีถนนคนเดินพอดี และถนคนเดินก็อยู่ข้างที่พักเราด้วย       ก็จบรีวิวประตูสู่ภาคใต้เพียงเท่านี้ เป้าหมายของเราคือมารอดำน้ำทะเลพม่าในวันรุ่งขึ้น ระหว่างทางก่อนสู่ทริปดำน้ำก็สร้างความประทับใจให้กับครอบครัวของเรามากมาย ก็อยากให้นักเดินทางทุกท่านลองเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างเส้นทางดูนะครับ มีอะไรจะสอบถามเพิ่มเติมถามมาได้นะครับ ขอให้สนุกมีความสุขกับการท่องเที่ยวครับ