Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
สกลนคร...สวยสุดซึ้งสาวภูไท จังหวัดสกลนคร (Sakon Nakhon Province) จ.สกลนคร
    • Posts-1
    สิทธา •  June 05 , 2020

    [Backpackerz'] บันทึกการเดินทาง 77 จังหวัด : สกลนคร

         เป็นเวลากว่า10เดือน ที่ผมต้องจากประเทศไทยเพื่อไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ถึงผมจะปรับตัวอยู่ที่สหรัฐอเมริกาได้ก็ตามเถอะ มันก็ยังคิดถึงประเทศไทยอยู่ดี ได้แต่คิดว่า ถ้ากูกลับไปนะ กูจะเที่ยวแม่งให้หายอยากเลย      

         ช่วงเวลาที่เหลือที่ผมอยู่ประเทศไทยก่อนที่จะเดินทางไปแลกเปลี่ยน ผมใช้เวลาในการอ่านรีวิวต่างๆที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการไปแบ็คแพ็คต่างจังหวัดด้วยตัวเอง ไม่พึ่งรถ และใช้งบไม่มาก จนมาสะดุดตากับรีวิว #พาไปสกลที ที่ช่วงนั้นเพจท่องเที่ยวหลายเพจเอามาแชร์กัน เพราะว่าผู้เขียนท่านนั้นได้เล่าว่า เขาเดินทางไปเที่ยวจังหวัดสกลนครด้วยงบ 500 บาท รวมค่าตั๋วเครื่องบินแล้วด้วย น่าทึ่งใช่ไหมละ      

         ก่อนจะไปอเมริกา ผมได้สอยตั๋วโปร0บาทของสายการบินหางแดงเอาไว้ให้เพื่อนๆรวม5คน โดยจ่ายเงินไปแค่ 1900 บาทเท่านั้น!! เท่ากับว่าไปกลับแค่380บาทเอง ซึ่งปลายทางของพวกเราในคราวนี้ก็แน่นอนว่าคือ จังหวัดสกลนคร เมืองใหญ่แถบอีสานตอนบน ใช่แล้วครับ ผมเล่นจองกันข้ามปีเลย หลังจากที่ผมกลับจากแลกเปลี่ยน ก็มานัดแนะกับเพื่อนกันอีกครั้งว่าเราจะเดินทางกันยังไง      

         เผอิญว่าตั๋วโปรที่ผมกดมันเป็นวันจันทร์กับอังคาร ทำให้พวกเราที่ตอนนั้นกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.6 ต้องลาหยุดกันคนละ2วัน ซึ่งก็มีไอภูคนเดียวที่ลาไม่ได้ ทริปนี้จึงมีสมาชิก 4 คน      

         แต่ก็ไม่เป็นปัญหา ทุกคนมารวมตัวกันที่บ้านผมได้ตอนเย็นวันอาทิตย์ และเช้าวันรุ่งขึ้น จะเป็นทริปแรกของพวกเราที่ได้เดินทางออกสู่ต่างภูมิภาค...ด้วยตัวเอง      

    • Posts-2
    สิทธา •  June 05 , 2020

    พระธาตุเชิงชุม

      26 มิถุนายน 2560           

         พ่อผมมาส่งพวกเราสี่คนที่ท่าอากาศยานดอนเมืองตั้งแต่หกโมงเช้า หลังจากลาผู้ใหญ่แล้ว ผมก็พาเพื่อนขึ้นไปชั้น3ของตึกผู้โดยสารภายในประเทศ      

         จากการที่ผมไปแลกเปลี่ยนมาทำให้ผมพอที่จะเอาตัวรอดในสนามบินเวลาที่จะต้องเดินทางคนเดียวได้ แต่เพื่อนอีกสามคนยังไม่มีใครเคยขึ้นเครื่องบินเลย งานนี้ผมเลยต้องแบกนิดๆ55555      

         เครื่องบินหางแดงพาเราบินลัดฟ้าสู่ท่าอากาศยานสกลนคร ใช้เวลาเพียงชั่วโมงเดียวเท่านั้น พอเราถึงแล้วเราก็เดินออกไปขึ้นชัตเติลบัสสำหรับเข้าเมืองทันที ค่ารถชัตเติลบัสคนละ 80 บาทครับ รถจะเข้าไปส่งเราในเมือง      

         ทริปจังหวัดสกลนครนี้ผมค่อนข้างตามรีวิวที่ผมอ่านมา เพราะว่ายังไม่ค่อยกล้าที่จะสดเกินไป เดี๋ยวหลุดออกจากเส้นทางแล้วจะกลับไม่ได้55555 แต่ตอนนี้ไม่กลัวแล้วครับ ยิ่งเดินทาง ยิ่งได้ประสบการณ์      

         สกลนครได้ชื่อว่าเป็นนครแห่งธรรมะ ไม่ใช่ธรรมะธรรมดานะครับ แต่เป็นเมืองแห่งธรรมะถึงสามอย่าง ได้แก่ พุทธธรรม ธรรมชาติ และวัฒนธรรม เมืองนี้ถึงจะเป็นเมืองรองแต่ความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ถือว่าสู้กับจังหวัดอื่นได้เลยทีเดียวครับ    

     

         รถมาส่งเราที่ บขส.1 ซึ่งเป็นบขส.เก่า ตั้งอยู่ในเขตเมือง ที่นี่จะเป็นที่จอดรถสองแถวและรถหวานเย็น ส่วนรถทางไกลจะต้องออกไปขึ้นที่ บขส.2 ด้านนอกเมืองครับ      

         เป้าหมายแรกของพวกเราในวันนี้ เราจะไปสถานที่ที่เป็นตัวแทนของธรรมข้อหนึ่ง พุทธธรรม ซึ่งก็คือวัดพระธาตุเชิงชุม วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสกลนคร เราก็เปิดแผนที่แล้วเดินเท้าจากบขส.เก่าไปที่วัดกันเลย ชิวๆกิโลครึ่ง เดินเล่นชมเมือง    

     

         สภาพผมตอนกลับจากอเมริกาใหม่ๆคือโคตรอ้วน5555555      

         เดินไปคุยไปเราก็มาถึงจนได้ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ปูชนียสถาน และแลนด์มาร์คของจังหวัดสกลนคร      

         วัดพระธาตุเชิงชุมเป็นเจดีย์ก่ออิฐทรงบัวเหลี่ยม ซึ่งพบมากในจังหวัดแถบนี้ ที่ฐานเจดีย์มีซุ้มประตูสี่ด้าน ด้านในวัดมีวิหารอันเป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระองค์แสน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสกลนคร แน่นอนว่าเมื่อพวกเรามาถึงก็ต้องถ่ายรูปหมู่กับแลนด์มาร์คเก็บไว้      

          ถ่ายรูปกันเสร็จเราก็นั่งพักเอาแรงกัน แล้วก็เดินไปที่บ่อน้ำด้านหลังไม่ไกลจากวัดมาก คือ สระพังทอง สระน้ำที่เคยใช้สำหรับชลประทาน แต่ปัจจุบันถูกพัฒนาให้เป็นสวนสาธารณะแล้ว ผมไม่ได้ถ่ายรูปสระมาด้วยเพราะจำได้ว่าวันนั้นร้อนมาก เลยนั่งหลบแดดกินข้าวอยู่ร้านอาหารตามสั่งใกล้ๆ อีกอย่างตอนนั้น10โมงกว่า ประตูทางเข้าไปสระก็ยังไม่เปิดด้วย      

          เสร็จแล้วเราก็เดินกลับมาหน้าวัดเพื่อที่จะเดินทางไปสถานที่ต่อไป ซึ่งเราจะต้องกลับไปที่บขส.เก่า ระหว่างที่คิดว่าเราจะกลับไปยังไงก็มีรถสองแถวสายหนึ่งขับผ่านหน้าวัด มุ่งหน้าไปทางบขส. เราก็โบกขึ้นทันที ลุงคนขับเก็บเงินคนละ 10 บาท ตอนนี้เรากลับมาถึงบขส.เก่าจนได้

    • Posts-3
    สิทธา •  June 05 , 2020

    หนองหาร

         เราจะต้องใช้บริการรถสองแถวสาย สกล-ท่าแร่ เพื่อไปยังธรรมที่สอง ธรรมชาตินั่นเอง รถสองแถวสายสกล-ท่าแร่จะจอดอยู่ที่บขส.เก่านะครับ ค่ารถคนละ10หรือ15บาทที่แหละ ไม่มั่นใจ      

         รถสองแถวมุ่งหน้าออกนอกเมืองไปทางราชภัฏสกลนคร ก่อนจะเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนิตโย ผ่านสนามบินสกลนครที่เรามาถึงในตอนเช้า ไม่ถึง 20 นาทีก็พาเรามาส่งที่ อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ อุทยานบัวที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ      ถ้ามุ่งหน้าออกจากสกลนคร อุทยานบัวจะอยู่ด้านซ้ายมือ แต่ด้วยความที่ไม่รู้ของผม ผมพาเพื่อนข้ามถนนมาอีกฝั่ง เพราะคิดว่าอุทยานมันอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งจริงๆแล้วอีกฝั่งคือ หนองหาร ทะเลสาบขนาดใหญ่ของจังหวัดสกลนคร      

      

         ด้วยความที่มันมีดอกบัวเหมือนกัน ผมเลยไม่เอะใจว่ามาผิดที่ ถึงในใจจะพึมพำว่าทำไมดอกบัวมันน้อยจัง55555 แต่ไม่เป็นไรครับ ฝั่งนี้เป็นจุดชมวิวหนองหารสุดลูกหูลูกตา การได้มานั่งพักเล่นๆกันตรงนี้ก็ชิวไปอีกแบบ      

         เราเข้าไปนั่งพักกันศาลาริมน้ำที่อยู่ลึกเข้าไป ด้านในจะมีสะพานสำหรับเดินเข้าไปสู่ใจกลางของหนองน้ำ ผมมองด้วยสายตาก็คงเป็นกิโลแน่ๆ ไอนพกับไออิงเลยขอนั่งพักอยู่ที่เดิม ส่วนผมกับทิวก็เดินเข้าไปดูด้านใน      

         สะพานนี้ยาวมาก เดินผ่านมาหลายศาลาแล้วก็ยังไม่สุดทาง ผมเลยชวนไอทิวเดินกลับ เพราะกลัวว่าถ้าไปไกลกว่านี้จะเดินกลับกันไม่ไหว    

     

         คือที่นี่มันก็พอมีบัวอยู่บ้างนะครับ แต่ก็คงไม่เท่ากับฝั่งอุทยานบัวหรอก เสียดายจริงๆน่าจะรู้ตั้งแต่แรก555555      ผมกลับมาหาข้อมูลแล้วว่าฝั่งที่เป็นอุทยานบัวจะมีส่วนจัดแสดงพันธุ์บัว และนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของดอกบัวด้วย ถ้ามีโอกาสมาคราวหน้าผมจะไม่พลาดแน่นอน      

         นั่งพักกันจนเที่ยงกว่าแล้ว เราสี่คนก็เดินออกไปรวมตัวกันตรงทางเข้า เพื่อที่จะข้ามถนนไปรอรถสองแถวสายเดิม มุ่งหน้าไปสู่ธรรมที่สาม วัฒนธรรมนั่นเอง

    • Posts-4
    สิทธา •  June 05 , 2020

    ชุมชนท่าแร่

         รอแล้วรอเล่ารถก็ยังไม่มา ตอนนั้นเราตัดสินใจที่จะเดินไปตามทางเรื่อยๆ รถมาเมื่อไหร่ก็โบกขึ้นตอนนั้น ปรากฏว่าเดินมากิโลกว่าๆเกือบจะครึ่งทาง เจ้าสองแถวก็โผล่มาพอดี เห้อ!!มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มา เดินเหนื่อยแทบแย่      

         รถสองแถวสายเดิมพาเรามาส่งที่แยกท่าแร่ และนี้ก็คือธรรมที่สาม ชุมชนคาทอลิคหมู่บ้านท่าแร่ ตำบลท่าแร่ หมู่บ้านที่มีประชากรที่นับถือศาสนาคริสต์มากที่สุดในประเทศไทย ผมเมื่อลงจากรถก็สัมผัสได้ถึงความเป็นคริสต์ทันที เพราะพวกเราเรียนโรงเรียนคาทอลิคกันมาคนละไม่ต่ำกว่า6ปี บ้านเรือนแถวนี้มีสถาปัตยกรรมที่ค่อนข้างจะแตกต่างจากตัวเมืองสกลนคร ตึกแถวเป็นสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสผสมเวียดนาม บ้านเรือนมีการแขวนดาวคริสต์มาสไว้หน้าบ้าน ทุกๆปี ที่นี่จะมีเทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส เป็นขบวนยิ่งใหญ่อลังการในวันคริสต์มาส จากการที่ผมเรียนโรงเรียนคริสต์มา ดาวนี่น่าจะหมายถึงการเสด็จลงมาประสูติของพระเยซูในโลกของมนุษย์นะครับ      

         ก่อนอื่นเราข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามก่อนเพื่อแวะเซเว่นเติมน้ำให้ร่างกายตัวเอง ระหว่างนั้นความบันเทิงก็เกิดขึ้นขณะที่กำลังเปิดตู้หยิบน้ำอยู่นั้น ไอทิวก็ลงไปนอนกับพื้นแล้วก็ร้องขึ้นมา      

         "ไอเหี้ยตะคริวกิน!!"      

         มันก็ลงไปนอนกับพื้นตรงนั้นเลยครับ พนักงานหลังร้านเห็นจากวงจรปิดวิ่งออกมากันหมดเลย555555 ผมจับมันดัดตะคริวอยู่สักพักถึงลุกขึ้นมาได้      

         ตอนนี้มันน่าจะยังเดินไม่ไหว ผมให้มันนั่งพักก่อนอยู่ตรงหน้าเซเว่นนั่นแหละ โดยมีไออิงเฝ้า ส่วนผมกับนพเดินเข้าไปในซอยข้างเซเว่นโดยมีเป้าหมายบางอย่าง      

         ผมเดินตามแผนที่มาจนเจอ โบสถ์อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล โบสถ์รูปทรงคล้ายเรือขนาดใหญ่ ที่สร้างไว้เพื่อระลึกถึงการเข้ามาตั้งถิ่นฐานของคริสตชนในหมู่บ้านนี้ คาดว่าน่าโบสถ์นี้น่าจะเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีมิสซาของคนที่นี่แหละนะ      

         ผมถ่ายรูปเสร็จก็ออกไปรับไอสองคนที่หน้าเซเว่นที่เดิม ตอนนี้เวลาบ่าย3กว่า ถือว่าสถานที่ที่ลิสต์มา วันนี้เก็บครบแล้ว ผมพาเพื่อนกินข้าวกันแถวๆท่าแร่ แล้วจึงมุ่งหน้าไปที่พักทันที ที่พักเราอยู่แถวๆราชภัฏสกลนคร นั่งสองแถวสายเดิมย้อนกลับไปลงที่แยกบ้านธาตุ แล้วเดินไปที่พัก ระหว่างทางที่เดินผมก็ดูเพื่อนส่องสาวราชภัฏไปเรื่อยๆ55555 สวยสุดซึ้งสาวผู้ไทไหมละมึง      

       

         พอถึงที่พักก็หลับกันสบายเลยครับ หลับตั้งแต่4โมงเย็น ตื่นมาหาข้าวเย็นกิน แล้วมานั่งคุยกับเจ้าของที่พัก เป็นคุณลุงคุณป้า เราก็เล่าให้เขาฟังว่าตั้งใจมาเที่ยวสกลนคร จองตั๋วกันข้ามปีเลย คุยไปคุยมาก็เพลินดีครับ ฟังสำเนียงที่ไม่ค่อยคุ้นแต่ก็อบอุ่นเหมือนคุยกับคนที่บ้าน คุณลุงอาสาจะไปส่งเราที่สนามบินในวันพรุ่งนี้ด้วย ขอบพระคุณมากครับบบ      

         เช้าวันต่อมาก็ถึงเวลาที่จะต้องลาเมืองสกลแล้ว เราเช็คเอาท์กันประมาณ7โมงเช้า คุณลุงก็ไปส่งพวกเราทั้งหมดที่สนามบินสกลนคร ผมกล่าวขอบคุณคุณลุงก่อนจะออกเดินทางกลับกรุงเทพ      

         "ไว้จะกลับมาเที่ยวสกลนครอีกนะครับ" เกินคำว่าประทับใจจริงๆครับทริปนี้      

    • Posts-5
    สิทธา •  June 05 , 2020

         จบไปแล้วครับสำหรับทริปจังหวัดที่ 5 ของผม เมืองสกลนครสร้างความประทับใจให้ผมไม่น้อยเลยทีเดียว ที่ผมแปลกใจที่สุดเห็นจะเป็นสำเนียงท้องถิ่น ผมว่ามันเป็นอีสานที่ไม่เหมือนอีสานอะ อย่างเวลาอยู่สระบุรี(แถวๆทับกวาง) จะได้ยินคนพูดอีกสำเนียงนึง แต่อยู่สกลกลับไม่ใช่สำเนียงที่คุ้นหู อีกสิ่งนึงที่ผมพลาดไปในทริปนี้ก็คือ ผมลืมไปกินข้าวเกรียบปากหม้อ!! มาทั้งทีดันลืมซะได้      

         ทริปนี้ผมถอดมาจากรีวิว #พาไปสกลที ของคุณ CHAILAIBACKPACKER ขอบคุณมากนะครับสำหรับข้อมูลและแรงบันดาลใจ แต่สกลนครยังมีที่เที่ยวอีกมากครับ ทั้งพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ วัดป่าสุทธาวาส วัดถ้ำผาแด่น วัดพระธาตุนารายณ์เจงเวง และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งจังหวัดสกลนครมีร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ครับ ใครสะดวกลองใช้วิธีนี้ดูนะครับ สกลนครมีเที่ยวบินมาวันละ4เที่ยวครับ กดตั๋วโปรมาได้เลย หรือใครไม่สะดวกเครื่องบิน นั่งรถทัวร์จากกรุงเทพมาลงบขส.ใหม่ก็ได้ครับ คุณอาจจะไปได้หลายที่มากกว่าผมในวันนั้นอีกก็ได้ ผมมั่นใจว่าคุณจะชอบเมืองแห่งธรรมะแน่ๆ แต่จะเป็นธรรมข้อไหน มันขึ้นอยู่กับคุณแล้วหละ        

         เรื่องเล่านี้ตัดมาจากบันทึกการเดินทาง 77 จังหวัดของผม ฝากเข้าไปกดให้กำลังใจด้วยนะครับ ขอบคุณครับบ

         https://writer.dek-d.com/JunctionMan/story/view.php?id=1975952&fbclid=IwAR1Rmf9fkQ-4DNPUi6Un5TR07K-Z5i5-Uxmc5Smoi4qpFOR72Nk7h-RO204