สวัสดีครับ รีวิวแรกเลย อิอิ เริ่มเลยและกันครับ . . .
. . . ปกติเป็นคนชอบเที่ยวภูเขามากกว่า แต่เกิดความคิดอยากเที่ยวทะเลใต้ (แอบคิดช้าไปนิดเพราะเริ่มเข้าฤดูฝนแล้ว 555) ไปเที่ยวใต้ทั้งทีเลยจัดหนักๆจัดยาวๆไปเลย หลังจากปรึกษาหารือกับเพื่อนๆแล้ว ผลสรุปว่าเราจะไป สุราษฎร์ธานี!!! กันครับ เพราะว่าพวกเราอยากไปสองที่ คือ เขื่อนรัชชประภา และ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง หลังจากวางแผนการเดินทาง ทริปนี้จึงกลายเป็นทริป 5 วัน 4 คืน ครับ (จัดหนักจัดยาวจริงๆ 555) เดินทาง 9 - 13 มิถุนายน 2559 แผนการเดินทางคร่าวๆของเราเป็นอย่างงี้ครับ

กรุงเทพ > สุราษฎร์ธานี > เขื่อนรัชชประภา > เกาะสมุย > หมู่เกาะอ่างทอง > สุราษฎร์ธานี > กรุงเทพ

ซึ่งเราวางแผนก่อนเดินทาง ได้จอง
-  แพ็คเกจ 2 วัน 1 คืน ของ แพคีรีวาริน
-  รถตู้บริษัทพันทิพย์จาก สนามบินสุราษฎร์ธานี ไปกลับ ท่าเรือเขื่อนรัชชประภา
-  ที่พักในเกาะสมุย
-  ที่พักบนเกาะวัวตาหลับ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง
-  ที่พักในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี

ค่าใช้จ่ายทริปนี้เอาเป็นว่าทั้งทริปรวททุกอย่างหมดไปหมื่นหนึ่งพอดีครับ (นี่ไปเที่ยวนอกสบายๆเลยนะ 555)

ภาพถ่ายทุกรูปในรีวิวนี้ ผมใช้ Nikon D750 กับเลนส์ 24-120 f4 ตลอดทั้งทริปครับ
แต่งภาพด้วยโปรแกรม Lightroom

รีวิวนี้จะเน้นแต่ภาพแล้วกันเนอะครับ พิมเนื้อหาไปเรื่อยๆ ยาวหน่อยนะครับ อิอิ 

วันที่ 9 มิถุนายน 2559 

. . . เราออกเดินทางด้วยเครื่องบินไฟลท์เช้า 8.45น. จากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินสุราษฎร์ธานีครับ  

แสงยามเช้าเหนือแม่น้ำเจ้าพระยาสวยสุดๆไปเลยครับ >///< 

. . . หลังจากลงเครื่องบินประมาณ 10 โมงเช้า ระหว่างรอรถตู้เราได้เดินไปจองแพ็คเกจ One Day Trip จากเกาะสมุยไปหมู่เกาะอ่างทองครับ แล้วเราก็ได้ขึ้นรถตู้ของบริษัทพันทิพย์เวลา 10.30 เพื่อเดินทางไปท่าเรือรัชชประภาครับ 

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครับ พวกเราก็มาถึงท่าเรือเขื่อนรัชชประภา (แอบเลทเล็กน้อยโดนแพโทรตาม 555) มาถึงพวกเราก็ลงเรือกันเลยครับ อิอิ

วิวในเขื่อนรัชชประภามันเหมือนเราหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่งเลยครับ เพราะมันสวยยยยยยยยยมากๆๆ 

เขาสามเกลอ "กุ้ยหลินเมืองไทย"

ระหว่างทางไปแพ เรือก็แวะที่เขาสามเกลอเพื่อให้เราถ่ายภาพครับ จุดนี้ใครๆก็ต้องถ่ายภาพ 555

. . . พวกเราเลือกพักที่แพคีรีวาริน เหตุผลเพราะ เป็นไม่กี่แพที่สามารถพาไปจุดชมวิวไกรสรได้ และราคาต่อหัวก็อยู่เรตกลางๆที่ค่อนข้างถูก ซึ่งแพคีรีวารินตั้งอยู่ถัดจากแพ 500 ไร่ เลย

ถ้าคุณไม่ลองออกไปเปลี่ยน "หน้าต่างห้องนอน" ก็คงไม่เจอ !!!

. . . ไปนอนเที่ยวสบายๆไม่ใช่ทางของพวกเราเท่าไร ตอนบ่ายในแพ็คเกจของแพจะว่างให้เรานอนเล่น เล่นน้ำตามใจชอบ แต่พวกเราเลือกที่จะเสียตังเพิ่มแล้วนั่งเรือเพื่อไปเดินป่าขึ้นเขา เพื่อไปชมจุดชมวิวไกรสรครับ หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงของแพแล้ว เราก็ออกเดินทางตอนบ่ายสองครึ่งครับ

ทางเข้า มีป้ายบอกระยะทางเดิน 1.5 กิโลเมตร (ชิวๆๆ หราาาาาาาาาา?? 555)

 . . . ลักษณะทางเดิน ช่วงแรกจะเป็นป่าชื้น ป่าไผ่ มีดินและใบไม้เปียกๆ หายใจค่อนข้างลำบาก พอช่วงหลังจะเป็นเขาหินแหลมเดินค่อนข้างยาก(แนะนำใส่รองเท้าผ้าใบครับ 555) และทางเดินไม่ค่อยชัดเลย ต้องปีนหินไปมา (พวกผมเลยหลงป่าไปทีหนึ่ง เพราะเดินผิดทาง 55555 ควรมีคนนำทางพาเดินนะครับ) อีกอย่างคือช่วงหลัง ยุงเยอะมากครับ กัดกันตอนบ่ายๆนี่เลย แนะนำเตรียมยากันยุงไปด้วยครับ หลังจากผ่านทุกความยากลำบาก ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เราก็เจอวิวนี้อยู่ตรงหน้าครับ ต้องบอกว่ามัน Amazing THAILAND จริงๆ ฟินสุดๆ !!! (ถ้าถามว่าเราเริ่มเดินจากตรงไหน ก็คือปลายน้ำที่เห็นอยู่ทางซ้ายมือครับ 555) 

จากจุดชมวิวไกรสรเราจะเห็น แพคีรีวาริน ด้วยครับ

. . . หลังจากกลับมาจากไปจุดชมวิวไกรสร จะมาถึงแพคีรีวารินประมาณ 5 โมงเย็นพอดี ได้เวลาเล่นน้ำพอดีครับ 555 ที่แพมีเรือคายัคให้พายฟรีครับแต่ต้องมัดจำเงิน 500 บาท 

. . . หลังจากเล่นน้ำ อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็ไปรับประทานอาหารเย็นครับ ที่นี่อาหารเติมได้เกือบทุกอย่างเลยนะครับ ยกเว้นปลาทอด ด้วยความหิวไม่ได้ถ่ายรูปเลย 555 และต้องบอกว่าอาหารอร่อยทุกอย่างครับ อิอิ 

. . . ที่แพคีรีวารินมีไฟตลอด 24 ชม. นะครับ แค่ไม่มีแอร์ พอ 4-5 ทุ่ม ผมก็เลยออกมาระเบียงตั้งใจจะถ่ายดาวและทางช้างเผือก พอเดินออกมาระเบียงห้องก็เจอจังๆเลยครับ 555 ต้องบอกว่าถ่ายทางช้างเผือกมาหลายที่แล้วหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยเห็นทางช้างเผือกชัดและรู้สึกใกล้ขนาดนี้ เลยถ่ายรัวๆๆ สนุกและฟินมากครับ 555

วันที่ 10 มิถุนายน 2559

. . . หลังจากเมื่อคืนถ่ายดาวอย่างเมามันส์ พอตื่นมาตอนเช้าเดินออกไประเบียง แบบว่าขอเก็บวิวนี้กลับบ้านได้มั้ย!!! ตื่นมาเจอแบบนี้ทุกวันคงฟินมากๆครับ 555

. . . ตอนเช้าแพคีรีวารินมีบริการพาไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและนั่งเรือเล่นตอน 6.30 นะครับ วิวยามเช้าระหว่างนั่งเรือก็สวยมากๆๆ 

. . . หลังจากรับประทานอาหารเช้า เราก็เก็บของเตรียมเช็คเอ้าท์ตอน 9.30 เตรียมนั่งเรือกลับไปยังท่าเรือเขื่อนรัชชประภาครับ 

 . . . พอถึงท่าเรือเขื่อนรัชชประภาเราก็นั่งรถตู้ของบริษัทพันทิพย์เหมือนเดิมครับ เพื่อเดินทางเข้าไปในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ก่อนออกจากเขื่อนรถตู้ก็พาเราไปแวะจุดชมวิวของเขื่อนรัชชประภา และ สะพานแขวงที่ภูเขารูปหัวใจครับ 

. . . หลังจากขึ้นรถตู้จากเขื่อนรัชชประภามาลงที่ตัวเมืองสุราษฎร์ธานีใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเราก็ลงที่บริษัทพันทิพย์เลยครับ และซื้อตั๋วรถบวกเรือ ของบริษัทซีทรานเพื่อเดินทางไปเกาะสมุย ก็เดินทางไปครับ รถทัวหนึ่งชั่วโมงเพื่อไปท่าเรือดอนสัก แล้วขึ้นเรือเฟอรี่นั่งอีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งครับ ด้วยความที่เมื่อคืนนอนดึกถ่ายดาว ตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้นอีก ระหว่างทางหลับรัวๆครับ 555555 ไม่ได้ถ่ายรูปอะไรเลย เหอะๆๆ 

. . . วาปมาขึ้นท่าเรือหน้าทอน ที่เกาะสมุยเลยครับ 555555 พวกเราก็เดินไปขึ้นสองแถวหน้าท่าเรือเพื่อไปโรงแรมที่จองไว้ครับ เราจองห้องจาก agoda ไว้ที่ The Living Pool Villas Samui ซึ่งอยู่หาดเฉวง หลังจากเช็คอินแล้วเราก็ไปเดินเล่นที่ หาดเฉวงครับ แสงก็กำลังจะหมดพอดี