บ้านนอกเข้ากรุงอีกแล้ว คราวนี้ชวนเพื่อนคนกรุงไปเที่ยวเมืองกรุงด้วยกันตั้งใจจะไปเดินเที่ยวในย่านเก่า เราออกจากศรีราชาเจ็ดโมงครึ่ง ถึงอนุสาวรีย์ประมาณเก้าโมงครึ่ง นัดเจอคุณเพื่อนที่นั่นสองคน คุณเพื่อนบอกให้มาขึ้นรถเมล์สายแปดตรงป้ายรถฝั่งราชวิถี ลงสุดสายตรงสะพานพระพุทธยอดฟ้า สีเขียวเข้มเป็นเอกสักษณ์ เดินข้ามสะพานกันมาเจอป้ายบอกทางวัดซางตาครู้ส

อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิต้นทางการเดินทาง

ขึ้นรถเมล์สาย 8

 สุดสาย Fast 8 

สะพานพระพุทธยอดฟ้า 

มีป้ายบอกบ้านนอกไม่หลงทาง

เขามอ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร

ก่อนถึงวัดซางตาครู้ส เราถึงวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารก่อน วัดนี้เราเคยมาแล้ว เข้าไปในพระบรมธาตุมหาเจดีย์ด้วยใครไปแนะนำให้เข้าไปชมค่ะ สวยมากๆ คราวนี้เลยแวะในจุดที่ไม่เคยแวะในวัด คือเขามอ เป็นภูเขาจำลองขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางสระน้ำ มีเต่า สามารถให้อาหารเต่าได้ อากาศแม้จะร้อนอบอ้าว แต่พอได้เข้าเขามอก็เย็นสบายดี เราใช้เวลาอยู่ที่เขามอประมาณหนึง ก็ออกเดิน เพราะเริ่มหิว 

ระหว่างทาง

ทางเข้าเขามอ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร

เต่าเยอะมาก ให้อาหารได้ค่ะ มีบริการขายอาหารอยู่ตรงทางเข้า

เขามอ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร

วัดซางตาครู้ส

เดินมาอีกนิดหน่อยก็ถึงวัดซางตาครู้ส หรือวัดกุฎีจีน เป็นโบสถ์ของชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก สร้างตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกและเรอเนอซองส์

เดินตามป้าย

เห็นหลังคาโบสถ์ เดินไปไม่หลง

วัดซางตาครู้ส ด้านหลัง

ภายในวัดซางตาครู้ส สถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกและเรอเนอซองส์

กระจกสีสวยๆภายในวัด

วัดซางตาครู้ส ด้านหน้า ติดกับแม่น้ำ

ขนมจีนไก่คั่วยายตี้ (เจ้าเก่า)

เดินออกมาหน้าวัดติดกับแม่น้ำด้านซ้ายมือจะเห็นร้านอาหารเล็กๆ ด้วยความที่เราทั้งสามคนหิวกันมากเดินดุ่ยเข้าไปเลย สั่งอาหารที่ขึ้นชื่อขนมจีนไก่คั่วมากิน เราสั่งเป็นชุด มีขนมจีนไก่คั่ว ซาโมซ่า และเครื่องดื่ม อร่อยมากทุกอย่าง เครื่องดื่มรสชาติหวานกลมกล่อม กินเสร็จเดินดูป้ายร้านเลยรู้ชื่อร้านว่าขนมจีนไก่คั่วยายตี้ (เจ้าเก่า) แนะนำให้แวะกิน ถ้ามาที่นี่ อร่อยจริงจัง กลับมายังพร่ำเพ้อถึงขนมจีนไก่คั่วอยู่ อากาศค่อนข้างร้อน เราเลยพักกันอยู่สักพักสร้างพลังใจให้ออกเดิน 

เมนูร้าน

ขนมจีนไก่คั่ว

ซาโมซ่า

กุฎีจีน

เราเดินไปตามซอกซอยข้างวัด ไปดูเขาทำขนมกุฎีจีนกัน ไปร้านแรก เดินไปลึกหน่อยชื่อร้านธนูสิงห์ ที่นี่มีร้านกาแฟด้วย แต่เราเห็นคนเยอะ เราเลยผ่าน เราขออนุญาตเจ้าของเข้าไปดูการทำขนม เจ้าขออนุญาตแต่มีข้อแม้ว่าห้ามถ่ายรูปเตา ถ่ายได้แป๊บก็เดินออกมา ไปดูเขาทำขนมบ้านป้าเล็กกันดีกว่า ที่นี่ถ่ายรูปได้ตามสบาย เรากับเพื่อนเลยอุดหนุนซื้อขนมฝรั่งกุฎีจีนกันไปพอสมควร

ทางเข้าชุมชน

ร้านธนูสิงห์

ร้านธนูสิงห์

กลับออกมา ไปร้านป้าเล็ก อยู่ต้นซอย

มีสตรีทอ๊าตโชว์เบาๆ

กำลังแพคขนมกันอยู่

กระบวนการผลิต

ศาลเจ้าเกียนอันเกง

เราเดินกลับออกมาทางหน้าวัดซางตาครู้ส เดินลัดเลาะริมน้ำเพื่อไป   ศาลเจ้าเกียนอันเกง เป็นศาลเจ้าแม่กวนอิม ที่ศาลเจ้านี่ เป็นที่ที่เราชอบที่สุดในทริปนี้ เพราะเป็นศาลเจ้าที่ดูสงบ สะอาดสะอ้าน สร้างด้วยไม้ มีการแกะสลักไม้อย่างสวยงาม เราสามารถถ่ายรูปด้านนอกวัดได้ แต่ภายในวัดห้ามถ่ายค่ะ เราไหว้เจ้าแม่กวนอิมขอพร ทำบุญตามกำลังที่มี

เดินออกมาตรงหน้าวัดฝั่งติดแม่น้ำ

เดินเลียบแม่น้ำ

มาถึงแล้วศาลเจ้าเกียนอันเกง

ศาลเจ้าเกียนอันเกง

ศาลเจ้าเกียนอันเกง

ด้านหน้าศาลเจ้าเกียนอันเกง

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

ออกจากศาลเจ้า เดินลัดเลาะไปวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นโอกาสอันดี เพราะพามิตรสองคนที่ดีเสมอมามาไหว้พระหลวงพ่อโต (พระพุทธไตรรัตนนายก) ด้วยกัน ซึ่งเป็นพระประธานในวิหารหลวง ที่วัดนี่ลมโชยพัดเย็นสบาย

เลี้ยวซ้ายออกมาจากศาลเจ้า

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

หลวงพ่อโต (พระพุทธไตรรัตนนายก)

ยอดพิมาน

เราเดินออกมาจากวัดมาขึ้นเรือข้ามฟาก ไปท่าเรือยอดพิมาน ความร้อนยังคงเล่นงานพวกเราสามคนอย่างต่อเนื่องเพื่อนเราตัวแฉะไปด้วยเหงื่อ เลยนั่งพักเอาแอร์ที่ร้านกาแฟในยอดพิมาน อีกอย่างก็หาจุดที่เราจะไปกันต่อด้วยว่าต้องไปไหน นั่งพักจนตัวเย็น นั่งเรือไปลงที่ท่าเรือริเวอร์ซิตี้ สี่พระยา เสียค่าเรือคนละ 40 บาท ในเรือมีไกด์อธิบายสถานที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ นอกจากให้ความรู้สถานที่ต่างๆ แล้ว ยังคอยบอกว่าถึงท่าเรือไหนแล้ว ให้นักท่องเที่ยวเตรียมตัวลง 

เรือข้ามฟากจากวัดกัลยาณมิตร

ยอดพิมาน

ยอดพิมาน

หายร้อนแล้วเตรียมขึ้นเรือเดินทางต่อ

ในเรือ ค่าโดยสาร 40 บาท

โบสถ์กาลหว่าร์

เราลงที่ท่าเรือริเวอร์ซิตี้ สี่พระยา เพื่อไปโบสถ์กาลหว่าร์ หรือ วัดแม่พระลูกประคำ เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก แบบสถาปัตยกรรมกอทิก สวยงามมาก เมื่อไปถึงศาสนสถานทุกที่ แม้จะต่างศาสนา แต่สิ่งที่เราและเพื่อนทำทุกครั้งคือทำความเคารพยกมือไหว้ และไม่ส่งเสียงดังค่ะ

มาโบสถ์กาลหว่าร์ขึ้นท่านี้

ทางเดินไปโบสถ์กาลหว่าร์

โบสถ์กาลหว่าร์

โบสถ์กาลหว่าร์

โบสถ์กาลหว่าร์

โบสถ์กาลหว่าร์

ศาลเจ้าโจวซือก๋ง

สถานที่ถัดไปที่เราไปเยือนคือศาลเจ้าโจวซือก๋ง เป็นศาลเจ้าเก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของชาวจีนฮกเกี้ยนในประเทศไทย ตั้งอยู่ในย่านตลาดน้อย ห้องโถงภายในเป็นที่ประดิษฐานของ “หลวงปู่โจวซือกง” ที่นี่เราได้ฝากดวงไว้กับหลวงปู่ด้วย ขอพรอธิษฐานให้พบเจอแต่สิ่งดีดี ที่นี่นอกจากเราก็ยังมีชาวต่างชาติเข้ามาชมเป็นระยะๆ

ระหว่างทางเดินไปศาลเจ้าโจวซือก๋ง

เขาว่าดัง แต่ท้องเราไม่มีพื้นที่จะใส่

ระหว่างทางเดินไปศาลเจ้าโจวซือก๋ง

ทางเข้าศาลเจ้าโจวซือก๋ง

ระหว่างทางเดินไปศาลเจ้าโจวซือก๋ง

ศาลเจ้าโจวซือก๋ง

หลวงปู่โจวซือกง

หลวงปู่โจวซือกง

ฝากดวงไว้กับหลวงปู่โจวซือกง

สวนลุมพินี

ออกจากศาลเจ้า เราไปที่พักที่เราจองไว้สำหรับค้างที่กรุงเทพฯ คืนนี้ อยู่ย่านตลาดน้อยเช่นกัน ชื่อ Oldtown Hostel ไปเช็คอิน เอาของไปเก็บ แล้วก็นั่งพักคุยกับเพื่อนเพื่อเดินทางต่อ สรุปไปสวนลุมพินี เพื่อนบอกว่า อยากไปถีบเรือเป็ด เราเลยออกจากที่พักนั่งรถเมล์ไปสวนลุม ไปทำตามภารกิจที่ตั้งใจ คือ การถีบเรือเป็ด 555 นอกจากนั้นก็เดินออกกำลังกายกันด้วย 1 รอบ สนุกดี ที่สวนลุมคึกคัก มีอีเว้นท์ตลอดทางเลย เราเลยพลอยคึกคักไปด้วย

บ้านเรือนในชุมชนตลาดน้อย

Oldtown Hostel ที่พักของบ้านนอกเช่นเรา

Oldtown Hostel

เอาของมาเก็บที่พัก Oldtown Hostel

ใน Hostel

นั่งรถเมล์สาย 45 ไปสวนลุม

สวนลุมพินี

ปั่นเรือเป็ด

คุณเขาอยู่ที่นี่เยอะ เดินสบายใจเชิ้บๆ

สวนลุมพินีท่ามกลางตึกใหญ่ในกรุงเทพฯ

เยาวราช

จากนั้นคุณเพื่อนคนสวยอีกคนโทรมาว่าจะตามมาสมทบ จะขับรถมารับที่สวนลุมไปเยาวราชไปหาของกินกัน เราว่าสวนลุมคึกคักแล้ว เยาวราชคึกคักกว่า คนเยอะมาก ทัวร์จีนมาลง ฝรั่งจีนนั่งแทะกุ้งหอยปูปลากันสนุกเลย เรากับเพื่อนก็หาที่นั่งกิน ร้านดังเราไม่แวะ เรารอต่อคิวไม่ไหว เราว่าที่เยาวราชร้านไหนก็อร่อย ไม่อร่อยอยู่ไม่ได้ เรานั่งร้านเล็กๆ สั่งผัดหมี่กระเฉด อร่อยมากๆ ยังมีอีกหลายเมนู แต่ทุกอย่างก็อร่อยหมด 

เยาวราช

เยาวราช

ที่พัก Oldtown Hostel

อิ่มท้องกันแล้ว คุณเพื่อนขับรถมาส่งที่พัก  นั่งคุยกันอยู่พักใหญ่ๆ หัวเราะกันสนุก ได้เวลาพอสมควร ก็ต้องบ๊ายบายกันแล้ว (ทริปวันนี้เราและเพื่อนลงเงินคนละ 300 บาท จ่ายค่ากินค่ารถ ใช้ได้หมดพอดี) บ้านนอกต้องอาบน้ำเข้านอน เราหลับไม่รู้เรื่องเลย เพราะเดินมาก เหนื่อยด้วย เรานอนหอรวมหญิงแบบ 6 ที่นอน ค่าที่พักก็ถูกมา 290 บาท (ถ้าห้องใหญ่กว่านี้ราคาก็จะถูกลงค่ะ) ทุกคนที่นอนเป็นชาวต่างชาติหมด ยกเว้นเรา คนไทยแต้ๆ 

ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย/ศาลเจ้าฮ้อนหว่อง

ตื่นมาตอนเช้าฝนก็ตกเราเลยนอนต่ออีกแพ๊พ พอฝนซาเราก็ออกเดินไปที่เดิม แถวริเวอร์ซิตี้ เก็บตกสถานที่บางอันที่เราเดินผ่านไป อีกอย่างก็หาข้าวเช้ากินด้วย ที่แรกเลย ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย เราเข้าไปดูได้นิดเดียว ด้านหลังตึกเท่านั้น น่าจะเป็นเพราะวันหยุด เขาเลยไม่ให้เข้าไปดู จากนั้นเราเดินไปศาลเจ้าฮ้อนหว่องที่ นี่มีเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยะ ที่ถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ทางเดินเข้ามีสตรีทอ๊าตเบาๆ น่ารักๆ ด้วย

ที่เช่าจักรยาน ตรงริเวอร์ซิตี้

ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย

ทางเข้าศาลเจ้าฮ้อนหว่อง

สตรีทอ๊าตระหว่างทางเข้าศาลเจ้าฮ้อนหว่อง

สตรีทอ๊าตระหว่างทางเข้าศาลเจ้าฮ้อนหว่อง

ระหว่างทางเข้าศาลเจ้าฮ้อนหว่อง

ศาลเจ้าฮ้อนหว่อง

เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยะ

ภายในศาลเจ้าฮ้อนหว่อง

สตรีทอ๊าต

สตรีทอ๊าต

กลับบ้าน

ระหว่างเดินกลับที่พัก เห็นมีตลาดเลยแว๊บไปชม อยู่ตรงข้ามกับวัดมหาพฤฒาราม สอยสตอเบอรี่พันธุ์ 80 มาครึ่งโล หมดไป 100 บาท กลับมากินที่ Hostel อาบน้ำเก็บของเสร็จก็เช็คเอ้าท์ ไปอนุสาวรีย์ นั่งรถกลับศรีราชาด้วยความอ่อนเพลีย (เพราะเดินมาก) จบทริปสุดคุ้ม แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้าค่ะ

ซื้อสตอเบอรี่กินก่อนกลับบ้าน

เอาสตอเบอรี่มากินที่ Hostel ที่พัก ก่อนกลับบ้าน

แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้า