เที่ยวรถไฟสายน้ำตก

เมื่อเพจการรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศเปิดให้บริการขบวนนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ก็เข้าไปจองได้ที่ https://www.dticket.railway.co.th/DTicketPublicWeb/home/Home
และเลือกวัน และจำนวนผู้โดยสาร  แต่พอเลือกไป ไม่มีที่ว่างที่ติดกันสำหรับสมาชิก แต่ก็อยากพาเด็กน้อยนั่งรถไฟเที่ยว  ไปไหนดีล่ะ  แล้วก็เห็นว่ามีนั่งรถไฟเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อย เลยลองคลิกจองทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีประชาสัมพันธ์เหมือนกับเขื่อนป่าสัก แต่ก็โทรถามรายละเอียดอีกทีเหมือนกัน โทรเลย 1690 จองและจ่ายตังค์ (ไป-กลับ 120 บาท) และแล้วก็ได้ตั๋วเรียบร้อย เตรียมตัวออกเดินทาง ออๆ รถไฟสายท่องเที่ยวมีบริการเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

 

รถไฟเริ่มจากกรุงเทพ (สถานนีหัวลำโพง) เราเลือกที่จะขึ้นที่สถานีบางซ่อน เพราะใกล้บ้าน
ในตั๋วระบุเวลารถไฟออกจากสถานี 06.59 น. 

สถานีรถไฟบางซ่อน มีทั้งรถไฟฟ้าฉึก ๆ รถไฟฟ้าสายสีม่วง แล้วก็รถไฟฟ้าสายสีแดง 


เช้า ๆ อากาศดี๊ดี แต่ทั้งชานชาลา มีแค่ 3 คน 55555+

 รถไฟก็มาแล้วววววววววววววววว   ประมาณ 7 โมงตรง
  ดูที่นั่งที่ระบุตั๋ว คันที่ ... เลขที่นั่ง .... แล้วก็นั่งได้เลย 

เราจองตั๋วและจ่ายตังค์ออนไลน์ ระบบก็จะส่งตั๋วเข้าอีเมล์ จริง ๆ เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ต้องปริ้นก็ได้ แค่แสดงหลักฐานบนมือถือก็ได้ แต่เราเอาความชัวร์ ปริ้นมาเลย
พอเจ้าหน้าที่มาตรวจว่าเรานั่งถูกที่ไหม เค้าก็จะเจาะรู เป็นการระบุว่าตรวจแล้ว ^__^

คนเต็มขบวนเลยนะ แล้วเจ้าหน้าที่บนรถไฟ ก็หยิบโทรโข่งมาประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวน้ำตก แล้วก็บอกเราด้วยว่า ที่จองรถไฟไปน้ำตกเพราะพลาดจากเขื่อนป่าสักใช่ไหม ตอบเลยว่า ใช่ค่ะ 5555+ (ปล. ขออภัยภาพเบลอ ๆ หน่อย)

ถึงแดดจะแรง แต่มีลมเย็น ๆ ของฤดูหนาวมาปะทะหน้าเลยไม่ร้อนมาก

ประมาณ 7.50 น. ถึงสถานีรถไฟนครปฐม จุดจอดแรก เจ้าหน้าที่ประกาศว่า ให้กลับมาที่รถไฟเวลา 8.25 น. แนะนำว่าให้ซื้อของกินมากินบนรถไฟ เพืื่อเป็นการประหยัดเวลา จากที่เดินเล่น ถ่ายรูป ซื้อของกินที่ตลาด แล้วก็ไหว้พระที่องค์พระปฐมเจดีย์  

เวลาเดินมาตรงสะพาน ต้องมองดี ๆ นะ เขาจะแบ่งช่องสำหรับรถมอไซด์ กับช่องที่ให้คนเดิน ดูดี ๆ ล่ะ
เพราะเราพลาดมาแล้ว  มัวแต่ดูมือถือ เขินเลย ^__^

 

ผู้คนที่เยอะ ๆ นั้นก็มาจากรถไฟขบวนเดียวกับเรานี่แหละ 

ของกินระหว่างทางเดินไปไหว้องค์พระปฐมเจดีย์

อันนี้เราเรียกขนมไข่เหี้ย ที่เป็นลูกกลม ๆ แล้วมีเกร็ดน้ำตาลอ่ะ  แล้วก็ขนมใส่ไส้

 

ผัดหมี่ ผัดไท

 

ผัก ผลไม้ 

 

และนี่ข้าวหลาม ที่เค้าว่าอร่อยมาก แต่เราไม่ได้ซื้อลองอ่ะ ไว้ไปใหม่แล้วค่อยว่ากัน ^^

 

สุดท้ายมื้อเช้าของเราก็คือ ข้าวเหนียวไก่ทอด

 

ระหว่างรอรถไฟ ก็ถ่ายรูปเล่นที่สถานนีหน่อย เพราะบรรยากาศเช้านี้ ดี๊ดี 

 

  รถไฟมาแล้ว เตรียมตัวขึ้นรถไฟกัน

รถไฟสามารถขึ้นไป 2 ทางนะคะ (กดปุ่มสีเขียว ตรงประตู) เราเลือกขึ้นอีกฝั่งที่แทบจะไม่มีคนเลย เราเลยได้รูปสวย ๆ ที่เหมือนมีแค่เรา

 

   

 

ล้างมือด้วยสเปรย์แอลกอฮอล์ แล้วทิชชู่เปียก แล้วก็จัดการเลยค่ะ 

 

วิวระหว่างทางสดชื่น และสวยดีนะ

 

จุดจอดที่ 2 สะพานแควใหญ่ เวลาประมาณ 10 โมง เจ้าหน้าที่ให้เวลา 30 นาที กับการเดินเล่น ถ่ายรูป 

 

ขอลงจากขบวนรถไฟเป็นคนท้าย ๆ หน่อย อยากถ่ายรูปสวย ๆ 

  สะพานข้ามแม่น้ำแคว (เป็นสะพานเหล็ก) เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ของเส้นทางรถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดา และนิวซีแลนด์ สมทบด้วยกรรมกรชาวจีน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า และอินเดีย ที่เป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า  
ปล. ขอบคุณข้อมูลจากสำนักงานท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี

 

แม้ว่าคนจะเยอะ แต่เราก็พยายามหามุมสวย ๆ 

 

แม่น้ำแคว

 

มีนี้โค้งน้ำสวยจัง

 

ทางรถไฟสายมรณะ เป็นสะพานโค้งเลียบแม่น้ำแควน้อย ยาวประมาณ 400 เมตร อยู่บริเวณถ้ำกระแซ เป็นช่วงที่รถไปลดความเร็วในการวิ่งลง แทบจะกลั้นหายใจ ทั้งหวานเสียว ทั้งกลัว แต่ไม่เป็นไรค่ะ แอบได้ยินเจ้าหน้าที่บอกว่า มีการบำรุงรักษาสะอาดอย่างต่อเนื่อง มีความปลอดภัยแน่นอน

 

ใช้เวลาซักพักก็มาถึงเป้าหมายนั่นคือ น้ำตกไทรโยคน้อย  เวลาประมาณ  12.15 น. และเจ้าหน้าที่บอกว่าให้กลับมาที่รถไฟเวลา 14.45 น.  
ปล. เฉพาะรถไฟขบวนนำเที่ยวเท่านั้นที่มาถึงจุดนี้ 

 

ก่อนจะเข้าไปเล่นน้ำตก หรือเดินเล่น มีเจ้าหน้าที่ตั้งโต๊ะลงทะเบียน พร้อมคัดกรองอุณภูมิ ตามมาตรการป้องกันโรคโควิด -19

รถไฟหัวจักรไอน้ำ ซี 56 หมายเลข 702 ผลิตในประเทศญี่ปุ่น นำมาใช้ปี พ.ศ. 2489 - 2519

 

น้ำตกช่วงฤดูหนาว (ที่ไม่หนาว) น้ำก็จะน้อย ๆ หน่อย ลงเล่นได้เลยนะ

ถ้าใครชอบเล่นน้ำแนะนำให้เอาชุดมาเปลี่ยนเลยค่ะ 

 

ผู้ปกครองต่างมาเฝ้าลูกหลานเล่นน้ำ พร้อมกับกินข้าวกินปลาไปด้วยเลย

 

ใกล้เวลานัดหมาย เลยเดินมาซื้อของฝาก แล้วก็ขนมของกินไว้กินบนรถ

 

ขากลับ เราก็เดินมาต้นขบวนขามา และท้ายขบวนขากลับ  
เจ้าหน้าที่ให้เราออกมาถ่ายรูปด้านท้าย ๆ ได้ แต่ต้องระวัง ๆ ด้วยนะ 

 

จุดจอดที่ 4 ขากลับ คือ สถานีรถไฟกาญจนบุรี มาถึงเวลาประมาณ 16.30 น.
มีเวลาเดินเล่น ช๊อปปี้งที่ตลาดรถไฟ 30 นาที

 

 

    17.00 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ กัน

  

วิวพระอาทิตย์ตกสวยมากเลย

มาถึงสถานีรถไฟบางซ่อน ประมาณ 19.00 น.

 

ขอบคุณเจ้าหน้าที่การรถไฟด้วยนะคะ 

 

   12 ชั่วโมง ของเด็กน้อย ตั้งแต่เช้ายันมืด ครั้งแรกกับการนั่งรถไฟ และชอบมากกับการเล่นน้ำตก อยากต่อเวลาให้นานกว่านี้หน่อย ^^ ขอบคุณที่เดินทางไปเที่ยวกันนะคะ  ไว้ไปกันอีกนะ ^_^