เมื่อ 2 เดือนก่อน เห็นรูป จากเพจ ท่องเที่ยวอยู่เพจนึง


ยอดหินกูบ เขาสอยดาวใต้ จ.จันทบุรี


โหววว.. ทะเลหมอกเมืองจันท์ สวยว่ะ! หารีวิวอ่านๆๆ 

เดินขึ้นเขา ตื่นเช้าดูทะเลหมอก นอนใต้ซอกหิน

มันต้องมีไรมากกว่านั้นสิ ด้วยความอยากรู้ อยากเห็น อยากลองสัมผัสฟิลแบกเป้ปีนเขาสักครั้ง

 

- - - - - - - - - -
ผ า หิ น กู บ
- - - - - - - - - -

 

ไปถามพี่ที่อยู่เมืองจันท์ “ผาหินกูบ” คือที่ไหน เคยไปมั๊ย ....

" พี่จะวางทริปไป 21-22 พ.ย.นะ สนป่าวววว … ? "

 

ไปสิคะ รอไร !! เอาวะ มีเวลาฟิตร่างกายตั้ง 2 เดือน



นัดรวมพล ออกจากบ้าน 04.00 น. เพราะพี่ในทีมนัดกันไว้ที่หน่วยฯ 08.00 น.

4 ชั่วโมง ขับรถ+แวะกินข้าวเช้า น่าจะถึงหน่วยฯ  8 โมงเช้าพอดี ชิลๆ


ตั้งพิกัด GPS ใครจะมาเที่ยว ขอแนะนำให้ตั้งพิกัดดีๆนะฮะ 

“ผาหินกูบ” ไม่เจอจ้ะ ไม่ต้องตั้ง 555 

“เขตพิทักษ์ป่าทุ่งเพล” ไม่เจอจ้ะ ไม่ต้องตั้ง 555 

“หน่วยรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว” เจอ!! ก็จริง แต่อย่าตั้งนะ พี่เลยมาแล้ว 5555 

ไปไกลด้วย ไปเขาสอยดาว เลยไปเกือบ 20 กิโลได้ 555

ตั้งพิกัด  》》 วัดทุ่งเพล 《《 ไปเลยนะจ๊ะ ไม่ต้องตั้งอย่างอื่น 


หลังจากหลงทาง ก็เลยเอามาฝาก


การเดินทาง 

ขับมาตามเส้นสุขุมวิท ถึง ไฟแดงสามแยกปากแซง

เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนจันทบุรี-สระแก้ว มุ่งสู่ เขาสอยดาว  ขับตรงยาวประมาณ 23 กม.

ซ้ายมือ เจอป้ายทางเข้าวัดทุ่งเพล (จะเห็นป้ายเล็กๆ ว่า ทางไปจุดชมวิวผาหินกูบ)

ขับไปตามป้ายเลยฮะ มีตลอดทาง ประมาณ 9กิโลได้

จนถึงป้ายสุดท้าย เลี้ยวซ้าย เข้าทางขรุขระไปอีก 2กม. ก็ถึงหน่วยฯ

(รถโหลดเตี้ย ติดสเกิ้ด ไม่ต้องเอามานะ หึหึ!! พี่โดนมาแล้ว ครืดใต้ท้องรถ น้ำตาแทบไหล)




08.30 น. ถึงหน่วยฯ นึกว่าสายซะแล้ว ยังฮะ !! 

รอ รอ ต้องรอสมาชิกมาครบทุกกลุ่มถึงขึ้นได้ กลุ่มเราก็ปาไป 16 คนละ อ่อ.. ทีมเราสีเทานะฮะ





แล้วมองไปรอบๆ แม่เจ้า!! จะนอนหมดมั๊ย..?? รวมแล้วประมาณ 4กลุ่ม เกือบ 40 คนได้ 

(พี่ที่จองเล่าให้ฟังว่า กลุ่มที่จะมาขึ้นเสาร์ที่แล้วเค้าขอเลื่อนมาขึ้นเสาร์นี้ด้วย)

อ่อ.. ที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นแค่ สัปดาห์ละครั้ง ขึ้นวันเสาร์ ลงเขาเช้าวันอาทิตย์

เพื่อรักษษระบบนิเวศน์ 1 สัปดาห์ ธรรมชาติคงฟื้นตัวแล้ว

แอบถามเจ้าหน้าที่ บอกปกติขึ้นเขาที จำกัดไม่เกิน 30 คน รอบนี้เยอะสุด

เอาล่ะสิ!! จะนอนหมดมั๊ย... 5555


สัมภาระส่วนใหญ่แบกเองนะ ลูกหาบจะฝากของกิน อาหารที่เอาขึ้นไปทำข้างบน กับเต้นท์ได้นิดหน่อย

เอาเต้นท์ติดมา เพราะกลัวนอนไม่พอ คนเยอะละเกินรอบนี้

แต่ละคนเริ่มจัดแจงเตรียมสัมภาระพร้อม

เป็นการแบกเป้เดินป่าปีนเขาแบบจริงจัง ครั้งแรกในชีวิต

 

09.00 น. แดดเริ่มมา รอ รอไร? รอใคร!? พี่ลูกหาบ ยังไม่มา 5555




และแล้วก็ถึงเวลา

09.30 น. ออกเดินทาง เจ้าหน้าที่นำทางไปก่อนเลย

กลุ่มเรา ออกกลุ่มแรกฮะ เดินเรียงกันไป 16 คน

ตลอดเส้นทาง น่าจะเป็นป่าดิบชื้น อากาศไม่ค่อยถ่ายเทนะ เลยทำให้เราเหนื่อยง่าย

มีทากเป็นระยะๆ แล้วก็เป็นไปตามคาด เราเดินหลังสุดสิฮะ 


ปล.ภาพทุกภาพ รวมๆมาจากหลายกล้องในทีม สวยบ้าง เบลอบ้างไม่ว่ากันนะฮะ เหนื่อยจนมือสั่น 55555

15 นาทีผ่านไป  

.

.

เริ่มหลุดกลุ่มฮะ

.

.

เริ่มโดนกลุ่ม 2 แซงไปละฮะ

.

.

กลุ่ม 3 ไปละฮะ 

.

.

เริ่มเหนื่อย เริ่มหอบ! คือเส้นทางไม่คิดว่าจะเป็นงี้ไง คือก่อนมาไม่รู้เลย

แต่ยังเนินไม่มาก แต่ก็พาขาล้าได้เลยนะ 

เส้นทางไม่ให้กำลังใจพี่บ้างเลย

30 นาทีต่อมา น้ำดื่ม ที่เตรียมมา 2ขวดเกลี้ยง!! 



1 ชั่วโมงผ่านไป ก็จะเจอป้ายแรก หน่วยฯ-น้ำตกอ่างเบง 1.4 กม. 

เอ้า!! "เดินเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก เดี๋ยวก็ถึง" ประโยคนี้ ใช้ได้ตลอดทาง 555


หลังจากเดินมาได้ ชั่วโมงกว่าๆ ตะคริว(รอบที่ 1) ก็มา เหนื่อยหอบอยู่ ตะคริวยังมาเยือนอีก ให้ตายสิ!!

 


มันเกือบจะล้ม มันเหนื่อยมันล้า เหมือนแทบขาดใจ

‎เดินมาจนท้อ ไม่เจอจุดหมายปลายทางที่ฝัน

จะกลับดีไหมถ้าเดินต่อไปยากเย็นขนาดนั้น ยังถามใจ


เดินร้อง ท่อนเดียวตลอดทาง !! ความเชื่อ - Bodyslam



“น้ำตกอ่างเบง-หินเพิง 1 กม.”  

ถ้าเจอป้ายนี้ แปลว่าเราเดินมาได้ 2 กิโลละ

ขาไปไม่ได้แวะลงไปน้ำตก เพราะทำเวลา มาแวะขากลับ

เดินเบี่ยงออกจากป้ายแค่ 50 เมตร 



เราก็เดินต่อ เส้นทางยังคงเดิม ป่าขนาบข้าง

ใครใส่แขนสั้นก็โดนเกี่ยวกันไปตามสเต็บ 

สักพักจะได้ยินเสียงน้ำตกตลอดทาง

เป็นการเดินเรียบริมน้ำ ริมจริงๆ ทางก็แคบด้วย ถ้าเซก็ร่วงเหวเลยค่ะ 




“ หิ น เ พิ ง “


11.30 น. “หินเพิง” จุดเติมน้ำ ล้างหน้าล้างตา น้ำใส ไหลเย็น เห็นตัวปลา 

ขวดเปล่า 2 ขวดที่มี เติมให้เต็ม !!

2 ชั่วโมง ผ่านแล้ว 3 กิโล เหลืออีก 5 กิโล นั่งทำใจแปบ !!






" หินเพิง-หินแปดเหลี่ยม 1.3 กม. "

เอ้า!! ไปต่อสิรอไร มีพี่ลูกหาบนำทางฮะ คราวนี้

คุยกันไปมา พี่เค้าก็คือเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่นี่แหละ

ลูกหาบไม่พอ ก็ต้องมาหาบให้ ไม่งั้นพวกเราตายแน่ 55555 

พี่เค้าให้กำลังใจดีนะ "ไม่ไหวก็พัก" อยู่รอพวกเรา ตลอดทาง

เพราะ 5 กิโลนี้ ขึ้นเนินล้วนๆ ชันตลอด แต่อากาศถ่ายเทดีกว่า 3 กิโลแรก


12.22 น. เดินมาได้ 1 ชั่วโมง จากหินเพิง ตะคริว(รอบที่2) อีกแล้วครับท่าน 

นวดกันไปสิ จะรอดมั๊ยนี่ .....

หลังจากนวดคลายเส้นกันแล้ว สายตาเหลือบไปเห็น 

หันไปถามพี่ลูกหาบ "พี่คะ... นี่ต้นอะไรอ่าาา ใหญ่จัง"

"ต้นจำแพก" ไม่รู้เรียกถูกป้ะนะ ฟังพี่เค้าไม่ค่อยชัด


จากนั้นก็ออกเดินทางกันต่อ

และแล้ว 12.46 น. ตะคริวรอบที่3 ก็มา ปวดมากกกกกก ล้มทั้งยืนคราวนี้


คือรู้สึกได้ว่า ชั่วโมงกว่าละ ระยะทางกิโลกว่าๆ ไม่ถึงแปดเหลี่ยมสักทีวะ 

พี่ลูกหาบยังคงให้กำลังใจตลอดทาง

 

"ใกล้ถึงแล้วครับ อีกนิดเดียว"

"เดี๋ยวไปพักทานข้าวกันที่นั่น จะได้มีแรง ก่อนเจอทางโหด ของจริง" 

 

หะ!! นี่ยังไม่จริงอีกหรอ ตะคริวกินไป 3 รอบละนะ น้ำตาจะไหล!!! 

 

 

“ หิ น แ ป ด เ ห ลี่ ย ม ” 




13.10 น. และแล้วเราก็มาถึง สีเทาทีมเรา เฮ้!!

ครึ่งทางละฮะ (3ชม.ครึ่ง ได้ 4โลก่า)

กินข้าว พักขา ยืดเส้นยืดสายกันไป

เติมน้ำอีกรอบ ขวดที่ 5-6 และฮะ ไม่มีอาการปวดฉิ๊งฉ่อง คงไปกับเหงื่อหมดสินะ 


"พี่คะ อีกไกลมั๊ยคะกว่าจะถึงข้างบน"

"ไม่น่าเกิน 4-5 โมงเย็นครับ"

เข่าอ่อนเลยค่ะ!!

 

หันไปมองป้าย

“หินแปดเหลี่ยม-หินแหลม 1.1 กม.”  

เอาวะ!! บอกตัวเอง สู้ๆ ภาวนาอย่าตะคริวอีกแล้วกัน ลุ้นทุกย่างก้าวที่เดิน

ระหว่างทางที่จะถึงป่าไผ่

บร๊ะเจ้า!! กระเป๋าเป้ขาด งานเข้าละทีนี้ เริ่มล่ก ขอถึงข้างบนก่อนก็ไม่ได้ 

น้ำตาจะไหล อีก ไม่เกิน 2 ชม.ก็ถึงแล้ว 


" หัวหน้าครับ รับกระเป๋าอีกสักใบไหวมั๊ยครับ!! " เสียงพี่ลูกหาบตะโกน   

หันไปมองพี่หัวหน้า โหยยยยย ใจชื้นเลยทีนี้ 


ไม่รู้จะขอบคุณยังไง .... ถ้าไม่ได้ พี่ฉัตรชัย งานนี้ตายแน่ๆ

ขอบคุณมากนะคะหัวหน้าเจ้าหน้าที่ วีรบุรุษขี่ม้าขาว

แต่เราก็ไม่ได้เดินตัวปลิวนะ ยังเอาถุงนอนมาถือเอง และก็แบ่งของในกระเป๋าพี่ฉัตรชัยมาช่วยถือ

ได้เวลาปีนเขากันต่อ!!

ระหว่างทางปีนเขาไป หินแหลม เราจะเจอ ป่าไผ่ สวยงามมากฮะ เขียวชะอุ่ม จริงๆ


จาก "หินแหลม-ทางลงถ้ำ 1.4 กม."



14.20 น. เข้าสู่ "หินแหลม" แล้วสินะ เราจะเจอหินใหญ่ๆเต็มไปหมด 

ให้เราได้เดินเลาะปีนป่ายเชือกกันสนุกสนาน ทางนี่ก็โคตระชันได้อีก





15.45 น. ลอดถ้ำ เอาล่ะ !! เจอถ้ำแล้ว ก็ใจชื้นได้เลย ว่าใกล้ถึงแล้ว อีกอึดใจนึง

ใครมีไฟฉายก็ควักขึ้นมา เพราะทางมันมืด 



หลังจากนั้นก็ปีนเขาต่อกันไปอีก ประมาณครึ่งชั่วโมง 


ก่อนถึงยอดหินกูบ เราจะเจอจุดเติมน้ำจุดสุดท้าย รอช้าทำไม จัดไปอีก 2 ขวดฮะ

ไม่เคยดื่มน้ำเยอะขนาดนี้เลยในชีวิต ครั้งแรก!

 

และแล้ว ก็ ถึง

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

" ย อ ด ผ า หิ น กู บ "

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

 

16.20 น. Mission complete กับระยะทาง 8 กิโล

ใช้เวลาปีนเขา 6 ชั่วโมง 15 นาที

ขึ้นมาเป็นกรุ๊ปสุดท้ายค่ะ 5555555

เห็นวิวแบบนี้แล้ว หายเหนื่อย! พูดเลย



หลังจากที่เดินเล่น ถ่ายรูปสักพัก ทีมเราก็หาทำเลที่นอนใหม่

ขึ้นไปนอนแถวข้างบนกูบ ยกที่นอนใต้กูบให้น้องๆกลุ่มอื่นนอนกัน



เก็บสัมภาระเสร็จ ก็เริ่มก่อไฟ กางเต้นท์ เพราะกลุ่มเราเอาเต้นท์กันมา รู้อยู่แล้วฮะ ว่านอนใต้กูบไม่พอ 5555 


สักพักพี่ๆ ก็ชวนไปถ่ายรูป ดูดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ที่ "ผาหมี"

"ตรงไหนคะพี่ .....?"

"ตรงนั้นไง"



" โอ้ว!! ต้องปีนป่ายอีกแล้วใช่มั๊ยพี่ "

เอาวะ!! จังหวะนี้เหนื่อยยังไงก็ไป มาถึงแล้วนี่ ต้องเอาให้คุ้ม!!

.

.

ไปดูตะวันลับขอบฟ้าที่ผาหมีกันเถอะ

ก็ใช่ว่า จะเดินไปชิลๆ สบายๆนะ ยังคงต้องปีนเหมือนเดิมฮะ

 


ก่อนดวงตะวันจะลาลับขอบฟ้า ต้องรีบมาเก็บบรรยากาศ

เอาตรงๆทริปนี้ .... อย่าเรียกว่าเดินขึ้นเขา เรียกว่าปีนดีกว่า

เป็นการปีนเขาที่สนุกและโหดดี

ถ้าถามว่า.. เหนื่อยมั๊ย เหนื่อยมากกกกกก

6ชั่วโมงกว่า ดื่มน้ำไป 7-8 ขวดได้

เพราะสัมภาระ กระเป๋าต้องแบกเอง


แต่พอขึ้นมาถึงตรงนี้ พูดเลยว่า หายเหนื่อย!!

เก็บภาพยามเย็นดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า


จริงๆ ไม่ต้องหาอะไรทำหรอก แค่นั่งหายใจเฉยๆ ก็มีความสุขแล้ววว