Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
แบกเป้ไปลุย "ภูทับเบิก ภูทับโบก!!" ภูทับเบิก (Phu Tub Berk) จ.เพชรบูรณ์
    • Posts-1
    เอ็น เอ เอ็ม •  January 25 , 2016

    “เพชรบูรณ์จ๋า รอเราก่อนนะ ปิดเทอมนี้เจอกัน”
    นี่เป็นปณิธานที่ตั้งใจไว้นานแล้ว ว่าหยุดงานรอบนี้จะไปภูทับเบิก
    สายลม หมอกหนาๆ อากาศเย็น ต้นไม้เขียวๆ นี่แหละเว้ย vacation time ของเรา ^^

    ไม่รีรอ ชวนพี่น้อง เพื่อนฝูง ใครจะไปด้วยกันยกมือขึ้น!! 
    ตอนแรกสมาชิกของเรามีประมาณ 5 คน เวลาผ่านไปสุดท้าย เหลือ 2 คน (เราและเพื่อนอีกคน)
    เคยคุยไว้แต่แรกแล้วว่า “ถ้าคนอื่นไม่ไปมึ- ต้องไปกะกุนะ เหลือ 2 คนก็จะไป แต่ถ้ามึ- ไม่ไป กุก็จะไปคนเดียว”
    ทริปนี้วางแผนกันนานนะ แต่ไม่มีการเตรียมตัวอะไรทั้งสิ้น ที่ไปช้าเพราะรอเพื่อนว่างนี่แหละค่ะ
    ไอ้เราเองก็ติสต์ มีเวลาว่าง อ่านรีวิวแล้วไฟมันลุก ชิงทริปตัดหน้าแบกเป้ไปกาญฯมันซะเลย

    สรุปตกลงกันได้คือจะออกเดินทางกันคืนวันที่ 25 ถึงเช้า 26 แล้วเที่ยวกัน ค้าง 1 คืน กลับ 27
    (เหตุที่ไปวันนี้เพราะหวังว่าเป็นวันธรรมดาหลังหยุดยาว คนคงซาลงเยอะค่ะ)
    จากนั้นเราก็เริ่มอ่าน ศึกษาข้อมูลเล็กๆน้อย รีวิวการเดินทางไปภูทับเบิกของคนอื่นๆ

    ขอบคุณมากจริงๆค่ะสำหรับข้อมูล
    เราโทรไปจองตั๋ว กทม-หล่มสัก ของ บ.เพชรประเสริฐทัวร์ (โทรไป 18 รอบ พอดีเป๊ะ กว่าจะติดต่อได้)
    จองตั๋วเดินทางไปหล่มสัก เที่ยวสุดท้าย เวลา 23.30 น. ในราคาคนละ 286 บาท
    ***เดินทางตั้งแต่ตุลาฯ แต่เพิ่งมาเขียน ช้าไปหลายเดือน เพิ่งว่างจริงๆ ยังไงฝากด้วยนะค๊า

    ก่อนจะเริ่มเดินทาง ขอกราบสวัสดีทุกคนที่มาอ่านกระทู้ของเรานะคะ
    นี่เป็น “บันทึกการเดินทาง” ที่ 2 ของเราแล้ว ครั้งนี้รูปอาจไม่สวย ไม่ละเอียดนักต้องขออภัยด้วย
    เนื่องจากเวลาจำกัดจริงๆ เดินเยอะ ของหนัก เลยควักกล้องมาถ่ายได้ไม่มากนัก
    แต่ก็หวังว่าจะเป็นข้อมูลดีๆให้นักเดินทางได้เอาไปใช้กันได้บ้าง
    (อาจมีการใช้คำไม่สุภาพบ้าง เพื่ออรรถรสในการอ่าน อย่าถือสากันนะคะ)
    เอาหละ ไม่พูดพร่ำทำเพลง เตรียมตัวเดินทางกันดีกว่าเนอะ ฟิ้วว วว ว ว ว

    • Posts-2
    เอ็น เอ เอ็ม •  January 25 , 2016

    25/10/15

    รีบๆๆๆ กระเป๋ายังไม่ได้เก็บ ของยังไม่ได้เตรียม มัวไปปฏิบัติธรรมซะหลายวัน
    (ไม่น่าเชื่อเท่าไหร่ แต่เป็นไปแล้ว เราไปปฏิบัติธรรมจริงๆ  T-T)
    ออกจากค่ายปุ๊บ นุ่งขาวห่มขาวขับรถเข้า กทม. อย่างรวดเร็ว 
    ยอมเสียเงินขึ้นทางด่วนทั้งๆที่แค่ระยะทางนิดเดียวเพราะรถติดมากกลัวไม่ทัน
    เอารถไปจอดเก็บที่คอนโด เก็บข้าวเก็บของ กินข้าว อาบน้ำ รอเวลา 3 ทุ่ม ออกเดินทาง
    เรียกพี่แท็กซี่ ไปส่งที่หมอชิต (นัดเพื่อนไปเจอที่นั่นเลยค่ะ)
    ไปถึงก็จัดการรับตั๋ว จ่ายเงิน เข้าห้องน้ำห้องท่า รอเวลารถออก 
    23.20 น. เตรียมพร้อม สะพายกระเป๋า ไปยืนรอรถ ณ ชานชาลา 

    รอไม่นาน เย้ๆ รถมาแล้ว ขึ้นประจำที่นั่ง จัดท่าให้เรียบร้อย แล้ว....นอน -.-zzZ

    • Posts-3
    เอ็น เอ เอ็ม •  January 25 , 2016

    26/10/15

    05.00 น. “ตลาดหล่มสักค่ะ” เสียงพี่บัสโฮสเตสพูดแจ้งผู้โดยสาร รีบหยิบข้าวของเดินลงรถแบบงงๆ
    มืดๆ อากาศเย็นๆ  เอาหละทีนี้ ต้องเดินไปทางไหนวะ?
    เดินไปถามพี่บัสโฮสเตสว่าตลาดผักไปทางไหน พี่เค้าก็ชี้แล้วบอกให้ข้ามถนนไปอีกฝั่ง

    ข้ามมาถึงตลาดส่งผัก ยืนเอ๋อกันสองคน มีคุณลุงเดินมาขายไข่เค็มแล้ว แกก็ถามว่าจะไปไหนกัน
    เลยบอกว่า “จะไปภูทับเบิกค่ะ ลุงพอจะรู้ไหมว่ามีรถที่ไปบ้างไหม”


    คุณลุงเลยเดินไปที่ร้านกาแฟ ฝากฝังให้เรียบร้อย คุณลุงร้านกาแฟก็ชี้รถให้
    บอกว่ารอเลย พี่ม้งใจดี เดี๋ยวเค้าลงผักเสร็จเค้าก็กลับขึ้นภูทับเบิก 
    ระหว่างรอก็เลยอุดหนุนไข่ลวกคุณลุงไปสองฟอง (กินแบบเร่งรีบ เพราะลุงเร่ง บอกว่าเร็วๆๆ ลงผักใกล้หมดแล้ว คือนี่แทบสำลักไข่ลวก 555555)

    พี่ม้งลงผักเสร็จแล้ว ก็จอดรับเราหน้าตลาด แล้วออกเดินทางกัน 

    ได้นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นหลังกระบะรถขนผักนี่เป็นอะไรที่ฟินมาก อากาศโคตรจะดี

    นั่งรถ ผ่านโค้งแล้วโค้งเล่า ผ่านวิวสวยๆ ถามว่าเบื่อไหม ขอตอบเลยว่า ไม่
    ทุกภาพที่มองเห็นมันมีแต่ความสวยงาม ประทับใจ ไม่เชื่อดูสิ (ของจริงสวยกว่าในรูปมากๆค่ะ)


    รถขับมาถึงสามแยก  หน้าด่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 
    ถ้าไปภูทับเบิกต้องเลี้ยวขวา แต่พี่ม้งจะตรงไป เลยต้องจอดให้เราลงกันตรงนี้
    พอลงรถก็เดินไปขอบคุณพี่ม้ง พร้อมให้ขนมที่พกมากับลูกของพี่เค้าไป 
    แวะถ่ายรูปกันหน่อย แล้วเดินกันต่อจ้า


    ระหว่างทางก็ผ่านจุดชมวิว มองเห็นถนนที่เรานั่งรถขึ้นมา โอ้ว! คดเป็นงูเลยทีเดียว

    เดินๆซักพัก ก็มีรถขับผ่านมา เลยได้ขึ้นต่อ ไปลงตรงทรงแยกขึ้นวิสาหกิจชุมชน 
    ด้วยขาสองข้าง เป้แสนหนักกับทางขึ้นเขา คือน่องนี่ตึงเลยค่า 55555555
    เดินไปได้เกือบครึ่งทางก็เห็นรถกระบะว่างๆขับมา ด้วยสองมือนี้ก็โบกๆ จนพี่เค้ารับมาส่งตรงจุดสูงสุด
    จากนั้นก็เดินต่อเพื่อหาที่พัก โดยตั้งใจไว้ว่าอยากไปกางเต็นท์ที่ไร่ริมผา
    เราเองก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน เดินไปตามป้ายบอก เห้ย! ไกลจังว๊า.....
    และแล้วเราทั้งคู่ก็ถึงแล้วค่ะ “ไร่ริมผา ภูทับเบิก”



    หลังจากได้เต็นท์ เก็บของ ก็ขอนอนพักซักงีบ ก่อนไปลุยกันต่อ
    แล้วก็ถึงเวลา ตื่นกันเกือบเที่ยง ทานข้าว แล้วก็ไปเที่ยวกัน ซึ่งจุดหมายของเราคือ วัดป่าภูทับเบิก

    โบกรถคันแรก พี่เค้าบอกว่าจะไปเกาะแกะ ตอนแรกอีนี่ งง จ้า คืออะไร 55555 
    แต่ไม่แคร์ พี่ไปถึงไหน หนูไปด้วยยยยยย พอถึงที่หมายถึงเข้าใจได้ว่า มันเป็น ‘เกาะ’ ที่เลี้ยง ‘แกะ’


    (ปัจจุบันถูกรื้อถอนไปแล้วค่ะ)
    เสร็จสิ้นภารกิจเกาะแกะ เราก็โบกรถกันต่อ โบกหลายคัน ไม่จอดซักคัน 
    และแล้ว ฟ้ามีตา !! มีรถพี่ม้งจอดค่ะ
    เราเลยถามพี่เค้าว่าจะไปไหน พี่ม้งตอบว่าจะไปบ้าน เราเลยบอกไปว่า “งั้นหนูไปด้วย” 555

    พี่ม้งส่งเราลงหน้าสถานีอนามัย เราก็เดินๆดูว่าทาขึ้นวัดไปทางไหน ซึ่งหาไม่เจอ
    ซักพัก มีคนขับรถมอเตอร์ไซค์ผ่านมาถามว่าจะไปไหน แล้วพี่เค้าบอกว่า ผมก็ไม่รู้ พอดีจะไปตัดผม (อ้าวพี่ ยังไงเนี่ย)
    แล้วพี่เค้าก็จากไป ปล่อยให้หนูยืนกันแบบเคว้งคว้าง
    เดินวนไปมาแปปนึง พี่คนเดิมก็วนกลับมา บอกว่าทางขึ้นอยู่ข้างหน้า เดี๋ยวไปส่ง
    เห้ยพี่! พี่หล่อมาก อุตส่าห์วนกลับมารับ ซึ่งไม่ใช่แค่ส่งตรงปากทาง
    สิ่งที่พีคที่สุดในทริปนี้คือพวกเรานั่ง wave 125 ขึ้นเขา ซ้อนสาม ย้ำ! ซ้อนสาม
    คือบิดสุด รถอื้อ นั่งไปลุ้นไป กุจะถึงไหมว๊า ลุ้นกันจนถึงที่หมาย คือวัดป่าภูทับเบิกนั่นเองค่ะ
    (รูปตอนซ้อนสามไม่มีเลย คือจิกเบาะแรงมาก ไม่กล้าควักกล้องมาถ่าย 55555)

    • Posts-4
    เอ็น เอ เอ็ม •  January 25 , 2016

    ถึงแล้ว “วัดป่าภูทับเบิก” ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้าน ห่างจากจุดชมวิวสูงสุดของภูทับเบิกราวๆ 5กิโลเมตร 
    ตัววัดก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแก่พระภิกษุสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนที่ต้องการความสงบ 
    เจดีย์วัดป่าภูทับเบิก มีชื่อจริงว่า พระมหาธาตุเจดีย์โพธิปักขิยธรรม (เจดีย์เพชร 37 ยอด สูง 80.20 เมตร) 
    สถานที่แห่งนี้ ยังเป็นสถานที่รับน้ำฟ้ากลางหาว เพื่อนำน้ำขึ้นทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเพื่อทำน้ำพระพุทธมนต์ 
    ในพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 6 รอบ ธันวาคม พ.ศ. 2552 
    ***ข้อมูลคร่าวๆนะคะ ^^







    ไหว้พระ ถ่ายรูปกันจนเพลิน ทีนี้ต้องหารถกลับกันแล้ว โชคดีมีคนจะกลับเหมือนกันเลยขอติดรถไปด้วย
    พี่เค้าแวะส่งเราตรงร้านโรงเตี๊ยม จากนั้นสองนางก็เดิน งงๆ ไม่รู้จะไปไหน
    แต่นึกได้ตอนขาไปเห็นร้านกาแฟน่านั่งอยู่ร้านหนึ่งซึ่งเลยมาไกลมากๆแล้ว 
    ทำไงดีเดินกลับไปก็ไม่ใช่ขี้ๆนะคะ พอดี๊ หันไปเจอรถพี่ที่ร้านขายของ จะเข้าหมู่บ้าน 
    ซึ่งผ่านร้านกาแฟพอดี เลยขอติดรถพี่เค้าไปด้วย (คราวนี้ไม่นั่งกระบะแล้วนะ ได้นั่งข้างในสบายๆ 555)
    ถึงร้านกาแฟแล้วค่ะ บรรยากาศดีมากๆ สั่งเครื่องดื่มเย็นๆคนละแก้ว เพราะเดินมาแดดร้อนพอตัว
    แต่นั่งไปซักพัก ทำไมมันหนาวล่ะ!!!  หนาวมากๆเหมาะกับการดื่มชาร้อนๆมากกว่าเย็นๆ 
    นั่งที่ร้านกันนานมากๆ นั่งเรื่อยๆ ชิลล์ๆ เพราะไม่รู้จะไปไหนต่อ เลยนั่งชมวิวเพลินๆที่นี่แหละค่ะ


    ก้มดูนาฬิกา ได้เวลากลับแล้ว ก็เดินกันเรื่อยๆ สูดอากาศ ชมวิว ถ่ายรูป ซึมซับโอโซนที่แสนจะสดชื่น 
    อยากเป็นอากาศแบบนี้กลับบ้านจริงเล๊ยยยยยยย 




    เดินกันจนรู้สึกว่า เห้ย! เรามาไกลมาก โบกเถอะ 55555555555
    มีรถผ่านมาพอดี เราก็เลย “โบกๆๆสะบัดแขนโบกๆๆ ซ้ายโบก ขวาโบก โบกๆๆ”  (T26 ก็มาจ้า) 

    • Posts-5
    เอ็น เอ เอ็ม •  January 25 , 2016

    ระหว่างทางกลับที่พักก็มีของขายรายทาง เป็นผลิตผลที่ชาวบ้านปลูกเสียส่วนใหญ่ค่ะ





    กลับที่พัก ไปพักขาให้หายเมื่อยซะหน่อย ก่อนจะลุยกันต่อ
    พระอาทิตย์จะตกดินแล้ว เราเลยเดินขึ้นไปที่จุดชมวิว บริเวณจุดวัดอุณหภูมิภูทับเบิก
    (อุณภูมิตอนประมาณ 17.30 น. คือ 17 องศาเซลเซียสค่ะ กำลังสบาย)



    เดี๋ยวๆๆ อันนี้ให้ไปรับหรอ 55555555 ที่จริงคือ ‘ปรับ’ นะคะ แหล่งท่องเที่ยวส่วนรวม ช่วยกันดูแลดีกว่าเนอะ^^


    เย็นแล้ว มื้อเย็นของเราวันนี้คือ “หมูกะทะ” ซึ่งมื้อนี้เราไม่ได้ทานกันสองคน 
    เนื่องจากได้เจอกับพี่ชายใจดี ที่ได้รู้จักกันในเฟสบุ๊คมาร่วมแจมด้วย

    (ขอบคุณพี่โต๊ดมากๆ ที่ให้ยืมไฟ พาวเวอร์แบงค์ แถมยังเอาไปชาร์ตไฟเพิ่มให้อีก โชคดีที่ได้เจอคนใจดี ^^)
    นี่ๆๆ มีรูปคู่ดีดีซะที (ฝีมือพี่โต๊ดเช่นเดียวกัน )

    ดึกแล้ว ไล่ตัวเองให้ไปนอน.......อิอิ
    ผจญภัยกันมาทั้งวัน อากาศหนาวเอาเรื่อง ขอตัวไปนอนขดก่อนนะคะ ฝันดีๆๆๆ -.-zzZ

    • Posts-6
    เอ็น เอ เอ็ม •  January 25 , 2016

    27/10/58

    จ็อกแจ็กๆ จอแจๆ เช้าแล้วเด็กๆ ได้ยินเสียงคนคุยกันเต็มไปหมด เพราะเต็นท์ของเราอยู่ริมจุดชมวิวพอดี
    ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันดีกว่า ^^
    ใจจริงหวังจะได้เจอทะเลหมอกซักครั้ง แต่ก็ทำใจไว้แล้ว
    เพราะว่าฝนไม่ตก ความชื้นไม่พอ แถมลมก็แรง ถึงมีหมอก ก็คงจะฟุ้งๆไม่จับตัว
    ทันทีที่เปิดเต็นท์ออก ภาพที่เห็นก็คือภาพนี้ค่ะ




    หมอกหนาเต็มไปหมด แต่ไม่จับตัวเป็นก้อน ลมพัดแรงหมอกฟุ้งๆ แต่ภาพที่เห็นด้วยตามันก็สวยไปอีกแบบ
    ตื่นมาถ่ายรูป แล้วก็นอนดูพระอาทิตย์ขึ้นอยู่ในเต็นท์ จนสายๆหมอกก็จางลง

    ตื่นเต็มตา ล้างหน้าแปรงฟัน เก็บของแล้วเตรียมออกเดินทางอีกครั้ง
    กินข้าวกันก่อนจะกลับ ถ่ายรูปนิดหน่อย เตรียมโบกมือบ๊ายบายภูทับเบิกกันแล้วจ้า

    ขากลับเราเจอรถสองแถวที่มีคนเหมามาส่งกำลังจะตีรถกลับ 
    พี่เค้าเลยเรียกว่าจะไปไหม คิดคนละ 50 บาทส่งที่ทางแยกด้านล่าง 
    รออะไรล่ะคะ เหนื่อยจะโบกแล้ว เกรงใจ (เหรอ) เลยตกลงไปกับพี่เค้า
    ขับซิ่งอีกเช่นเดิม วิวสองข้างทางก็สวย

    (นั่งมองวิวตลอด จำให้ได้เยอะๆ เก็บเกี่ยวให้เต็มที่ ไม่ได้มาบ่อยๆนี่เนอะ)




    ถึงสามแยกด้านล่าง คุณพี่ก็จอดส่งเราแค่นี้ ซึ่งเราก็ถามว่าถ้าเหมาไปหล่มสักคิดเท่าไร
    พี่เค้าบอกว่า “ถ้าเหมาปกติมันแพง หนูมากันสองคนพี่ก็พูดลำบาก เดี๋ยวพี่หาฝากให้ดีกว่า”
    (คือพี่ใจดี และน่ารักมากๆ ประทับใจจจจจจจ)


    และแล้วก็มีรถผ่านมา เป็นรถกระบะเก่าๆ พ่อลูก มาจอดถามว่าจะไปไหน
    เลยบอกว่าจะไปหล่มสัก พี่เค้าบอกว่าจะไปซื้อของที่นั่นพอดี ขึ้นมาเลย
    ดีใจมากๆ คนเพชรบูรณ์ใจดีจริงๆ ยืนยัน คอนเฟิร์ม ฟันธง ปังๆๆ
    พี่เค้ามาส่งถึงที่เลยคือ บขส.หล่มสัก เราสองคนยกมือไหว้ขอบคุณในความใจดีของพี่เค้า

    ไม่มีอะไรจะตอบแทนจริงๆค่ะ พี่ใจดีมากๆ 

    ขากลับเราขึ้นรถทัวร์ ซึ่งเป็น ปอ.2 ที่แคบ นั่งไม่สบายเหมือนขามา แต่เอาเถอะ ไม่มีทางเลือกแล้วอีหนู
    กลับถึง กทม. ทุ่มกว่าๆ แม่เจ้า รถโคตรเลท โถๆๆๆๆๆๆๆๆ

    • Posts-7
    เอ็น เอ เอ็ม •  January 25 , 2016

    สรุปทริปนี้ เราได้ใช้ชีวิตหนักมาก 
    มันเป็นประสบการณ์ใหม่ๆที่ไม่เคยทำมาก่อนเลย
    การที่เราโบกรถ อาศัยคนอื่น ขอไม่ดราม่านะคะ เราอาจรบกวนไปบ้าง
    แต่เราก็พยายามรบกวนให้น้อยที่สุด มีขนมก็แบ่งปันให้เค้าถือเป็นการตอบแทน
    เรารู้ว่าคนไทยใจดีนะ ต้องขอบคุณทุกคน รถทุกคันที่จอดรับเรานะคะ
    ถ้าได้เห็นกระทู้นี้ เราขอขอบคุณมา ณ ที่นี้จากใจเลยจริงๆ ^^

    กลับมาแล้ว เราหวังไว้ว่าครั้งหน้าเราจะไปเยือนอีกแน่นอน

    เราจะไปล่าทะเลหมอกก้อนๆฟูๆให้ได้เลย 555


    บ๊ายบายภูเขา บ๊ายบายน้องหมอก บ๊ายบายท้องฟ้า บ๊ายบายสายลม เชิ้ปๆ


    แล้วพบกันใหม่นะ “ภูทับเบิก”

     
    • คน  ขาลุยจริงๆ 16 April 2016 13:23:09