ภูลมโล - ภูหินร่องกล้า - ภูทับเบิก

 

ช่วงนี้กระแสการเดินทางไปชมความงามของดอกนางพญาเสือโคร่งที่ภูลมโลเป็นที่นิยมมาก ข่าวประชาสัมพันธ์ที่ออกทางสื่อหลายสื่อ ทั้งในทีวี และโลกโซเชียล แชร์กันมามากมาย ว่าตอนนี้ดอกนางพญาเสือโคร่งที่ภูลมโล เริ่มบานสะพรั่งแล้ว ผมเองก็วางแผนไว้ว่าจะไปเช่นกัน เพราะเคยไปมาแล้วก็ยังประทับใจ อีกอย่างมันก็อยู่ไม่ไกลจาก กทม. มากนัก ถ้าเทียบกับสถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่อื่นๆ ในภาคเหนือ 

การเดินทางในครั้งนี้ได้กำหนดกิจกรรมฯ ไว้คร่าวๆ ในระยะเวลา 2 วัน 1 คืน(เสาร์ - อาทิตย์) โดยจะเริ่มต้นที่ภูลมโล -   ภูหินร่องกล้า และไปพักค้างคืนที่ภูทับเบิก

ผมเดินทางออกจาก กทม. ในคืนวันศุกร์ที่ 29 ม.ค.59 เวลาประมาณ 4 ทุ่ม เพราะตั้งใจไว้ว่า จะไปให้ถึงบ้านร่องกล้าประมาณ ตี 5 ครึ่ง เหตุผลที่ผมต้องรีบไปถึงที่หมายแต่เช้า เพราะเราต้องการไปดูพระอาทิตย์ขึ้นก่อน แล้วค่อยไปดูดอกนางพญาเสือโคร่งครับ

เหตุผลอีกประการหนึ่งสำหรับผม คิดว่าถ้ามาถึงเช้า เราจะได้เปรียบทั้งในเรื่องที่จอดรถ และไม่เสียอารมณ์กับเรื่องรถติด เพราะว่าทางขึ้นจุดบริการนักท่องเที่ยวและจุดจอดรถที่บ้านร่องกล้า พื้นที่มีน้อยครับ ถนนก็เป็นเลนสวนกัน ทางคับแคบ ใครมาถึงสายผมว่าได้เจอปัญหานี้แน่ๆ  

ผมมาถึงที่จุดบริการนักท่องเที่ยว เวลาประมาณ ตี 5 ครึ่ง พอดี ตามกำหนด และมาจับคิวรถรับจ้างเพื่อขึ้นภูลมโล ค่าบริการ คันละ 800 บาท ราคานี้เป็นราคาเหมาจ่ายนะครับ ส่วนใครนำรถมาเองก็สามารถขับขึ้นไปได้ เน้นรถกระบะ 4X4 นะครับ ส่วนพวกรถเก๋ง รถตู้ ต้องจอดไว้จุดนี้ แล้วใช้บริการรถรับจ้างครับ

โปรแกรมรถจ้างเหมา พี่เค้าจะพาไปจุดต่างๆ ครับ ใครขึ้นมาตอนเช้า เค้าก็จะพาไปจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อน พอดีว่าตอนที่ผมขึ้นภูลมโลมันยังมืดอยู่ เลยไม่มีภาพระหว่างการเดินทาง 

นางพญาเสือโคร่งที่นี่ ลักษณะต้นมันจะสูงๆ ดอกมันก็จะเลยหัวเราไปเลยนะครับ แต่พี่ๆ คนขับรถเค้าก็จะเอารถไปจอดใกล้ๆ ต้นเพื่อให้เราถ่ายรูปได้ วันที่ผมไปนี่มีนักท่องเที่ยวมาเยอะครับ รถก็เยอะพอสมควร จึงไม่มีพื้นที่เข้าไปจอดใกล้ๆ ต้องเดินหามุมถ่ายภาพเอาเองครับ ตอนนี้ดอกกำลังสวยเลยครับ

ระหว่างเดินทางกลับ ผมถ่ายรูปเส้นทางไว้ไม่กี่ภาพ  เส้นทางไม่ได้สวยงามอะไรนะครับ สภาพยังเป็นถนนดินแดง อารมณ์ลุยๆ ดีครับ  

ผมไม่ได้ถ่ายภาพบรรยากาศตรงจุดบริการไว้เลยนะครับ หลังจากที่ลงมาแล้ว ก็ขับรถพาครอบครัวไปทานข้าวที่ร้านอาหารในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จากนั้นก็พาไปเดินชมธรรมชาติต่อ บริเวณลานหินปุ่มกับผาชูธงครับ อากาศแจ่มใส แต่ไม่ร้อน มีลมเย็นพัดตลอดเวลาครับ    

     ตอนแรกว่าจะเข้าไปดูใบเมเปิ้ล ที่โรงเรียนการเมือง ได้ข่าวว่าใบมันยังเปลี่ยนสีไม่มาก เลยไม่ได้แวะดู ผมขับรถมุ่งหน้าไปยังที่พักบนภูทับเบิก เพราะสมาชิกหมดแรง อยากพักผ่อนแล้ว

     หลังจากกินข้าวเสร็จตอนบ่ายๆ ผมก็ออกเดินสำรวจพื้นที่  ภูทับเบิกในวันนี้เปลี่ยนไปมาก มีสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆ ผุดขึ้นมามากมาย จุดถ่ายรูปสวยๆ บางจุดก็กลายเป็นที่พักไปหมดแล้ว  เดินกันจนพระอาทิตย์ตกดินจึงกลับที่พัก 

วันสุดท้ายเราตื่นแต่เช้า เพื่อไปชมบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้น บริเวณจุดสูงสุดฯ มีนักท่องเที่ยวตื่นแต่เช้า มารอชมพระอาทิตย์ขึ้นเยอะเลยครับ

    ขากลับหลังจากที่ลงมาจากภูทับเบิกมาแล้ว ผมพาสมาชิกในครอบครัว เดินทางไปวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ซึ่งตั้งใจกันไว้ตั้งแต่แรกว่าอยากไปไหว้พระ ใครที่มาถึงวัดตอนเช้าๆ ได้เปรียบครับ คนน้อย และแดดยังไม่ร้อนด้วย 

     หลังจากไหว้พระเสร็จ ก็พาสมาชิกไปต่อที่ร้านกาแฟชื่อดัง ซึ่งอยู่ห่างจากวัดไม่ไกล  ใครที่มาแล้วขากลับ อย่าลืมแวะขึ้นมาดูหน่อยนะครับ จะได้ไม่เสียเที่ยว

  ช่วงนี้อากาศยังเย็นๆ อยู่นะครับ  ใครที่มีเวลาน้อย หรือไม่อยากเดินทางไกลเพื่อไปสัมผัสอากาศหนาว ถึงภาคเหนือ ลองวางแผนการเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่แบบผมดูครับ จบการแชร์ประสบการณ์ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ