ดอยกิ่วลม/น้ำพุร้อนโป่งเดือด/ม่อนแจ่ม ในวันที่ฝนตก

ตีห้าเริ่มออกเดินทางจากที่พักในซอยนิมมาน 15 มุ่งหน้าสู่ ห้วยน้ำดัง ด้วยความหวังว่าจะได้เห็นทะเลหมอก

ระยะทางจากที่พักถึงจุดชมวิวห้วยน้ำดัง ดอยกิ่วลม 100กว่ากิโลเมตร (ตามกูเกิ้ลแมพ)

แนะนำให้พกหมากฝรั่งไปเยอะๆเพราะขับรถขึ้นเขาแล้วหูจะเริ่มอื้อ

ลุ้นให้ฟ้าฝนเป็นใจสักหน่อยเพราะขับรถขึ้นเขาตอนฝนตกอาจจะไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ แล้วก็โชคดีที่ฝนแค่ปรอยๆบ้างเท่านั้น

 

 

พอรถขับขึ้นเขา ยิ่งสูงขึ้นหมอกก็ยิ่งหนาบดบังทัศนวิสัยในการขับรถ ต้องขับช้าๆตามคันข้างหน้าไป 

ในที่สุดก็ขึ้นมาถึงจุดชมวิวดอยกิ่วลมในเวลาเกือบแปดโมง(จริงๆที่เสียเวลาเพราะหลงทางที่แยกที่จะไปอ.แม่ริม) ข้างบนนี้อากาศเย็น(จนต้องหยิบเสื้อหนาวมาใส่) มีน้ำค้างเกาะตามใบไม้ใบหญ้า รอบตัวมีหมอกหนาจนแทบไม่เห็นบรรยากาศรอบๆ

ผ่านไปสักพักลมเริ่มพัดเมฆหมอกออกไปบ้าง ฟ้าก็เริ่มสว่างขึ้น


 ชมวิวได้สักพักก็ถึงเวลาต้องออกเดินทางต่อ โดยจุดหมายต่อไปคือ น้ำพุร้อนโป่งเดือดป่าแป๋

ขับรถลงเขาตามเส้นทางเดิมที่ขับขึ้นมาแล้วจะเจอทางแยกให้เลี้ยวเข้าไปอีก 6 กิโลเมตร
ซึ่งทางขรุขระมาก(อาจจะเป็นเพราะไปช่วงหน้าฝน) ไหล่ถนนชำรุดบ้าง

เมื่อไปถึงก็พบว่าเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเดียวที่เข้ามา เพราะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นและฝนเริ่มตกปรอยๆ

       

 

น้ำร้อนประมาณ 90-100 องศาเซลเซียส มีป้ายห้ามเข้าใกล้เด็ดขาด

ดูท่าว่าฝนจะตกลงมาอีกครั้งจึงตัดสินใจเดินทางต่อ ไปยังจุดหมายสุดท้ายของวันนี้คือ ม่อนแจ่ม

ตอนแรกเกือบจะเปลี่ยนใจไม่ไปม่อนแจ่มเพราะคราวนี้ฝนตกหนักมาก ลองหาที่ที่จะไปได้ง่ายกว่าคือเขื่อนแม่งัด แต่โชคเข้าข้าง ฝนค่อยๆซาลงระหว่างทางไปเขื่อนแม่งัด ทำให้เปลี่ยนใจเปลี่ยนเส้นทางไปม่อนแจ่มตามแผนเดิม

การขับรถขึ้นไปม่อนแจ่มนั้นค่อนข้างยากตรงช่วงหมู่บ้านที่ถนนแคบและคดมาก ต้องคอยลุ้นไม่ให้มีรถสวนมาอีกฝั่ง(เพราะหลบกันยากเหลือเกิน) ในที่สุดก็ขึ้นมาจนถึง และฝนที่หยุดตกไปไม่นานนั้นก็เทลงมาใหม่อีกครั้ง

ครั้งนี้เราจะไม่ยอมแพ้ต่อลมฝน รีบหยิบร่มแล้วออกไปถ่ายรูปก่อนที่จะฟ้าจะมืด

ข้อดีของการเที่ยวหน้าฝน คือ จะได้หญ้าเขียวชอุ่ม ดอกไม้สวย สัมผัสอากาศเย็นสบาย และคนไม่เยอะ
ส่วนข้อเสีย คือ ฝนตก....