Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
ศาลาแก้วกู่ อุทยานเทวาลัยแห่งความศรัทธา ศาลาแก้วกู่ (Sala Kaeo Ku) จ.หนองคาย
    • Posts-1
    theTripPacker •  November 15 , 2013

    ศาลาแก้วกู่ อุทยานเทวาลัยแห่งความศรัทธา

    พื้นที่ 42 ไร่ ในชุมชนสามัคคี อำเภอเมือง จังหวัดหนองคายที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 3 กิโลเมตรนี้ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาชมความแปลกตาด้วยความแปลกใจเพราะเต็มไปด้วยรูปปั้นก่ออิฐถือปูนมากมายทรงสูงตระหง่านใหญ่โตถูกสร้างขึ้นด้วยความศรัทธาและความเชื่อของ ปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ หรือ ปู่เหลือ (พ.ศ.2476-2539) ว่าทุกศาสนาผสมผสานกันได้โดยปรารถนาให้ "อุทยานเทวาลัย" หรือ "ศาลาแก้วกู่" หรือที่ชาวหนองคายเรียกกันง่ายๆว่า "วัดแขก" เป็นสถานที่แทนภาพดินแดนแห่งการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง
     


    หลังจากจ่ายค่าเข้าชมอุทยานเทวาลัยแล้ว เราก็เริ่มเดินไปรอบๆ ชมเทวาลัยปางต่างๆ ทันที ความรู้สึกหนึ่งเมื่อเรามองไปรอบๆ แล้ว บางครั้งก็รู้สึกเหมือนหลงเข้ามาเดินอยู่ในสวนของยักษ์ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนใหญ่โตมหึมา จนตัวคนเหลือนิดเดียว เมื่อเทียบกับขนาดของรูปปั้น ส่วนใหญ่แล้วเทวาลัยต่างๆ จะมีเนื้อหาเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ ตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน รวมถึงเรื่องราวต่างๆ ตามตำนานความเชื่อใน พราหมณ์ ฮินดู และคริสต์ แต่ก็มีงานประติมากรรมบางส่วนซึ่งได้จำลองเอาเหตุการณ์จากวรรณคดีสุภาษิตโบราณ หรือนิทานพื้นบ้าน นำมาจัดแสดงไว้เช่นกัน โดยที่บริเวณฐานของเทวาลัยเหล่านี้จะมีคำอธิบายเป็น “ภาษาไทยอีสาน” และ “ภาษาไทยภาคกลาง” บอกเล่าถึงเรื่องราวซึ่งเกี่ยวข้องกับชิ้นงานนั้นๆ สลักเอาไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้อ่านได้ศึกษาทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กัน หลายคนที่มาเที่ยวชมที่นี่บอกว่า เหมือนได้เที่ยวชมภาพจำลองนรกสวรรค์ รวมหลายศาสนา ซึ่งการได้อ่านพุทธประวัติและเรื่องราวต่างๆ ผ่านภาพปั้นเหล่านี้ ช่วยเตือนใจให้เกรงกลัวในบาปกรรมได้มากเลยทีเดียว

    • Posts-2
    theTripPacker •  November 15, 2013
    • Posts-3
    theTripPacker •  November 15 , 2013



    หากทดลองนับจำนวนชิ้นงานประติมากรรมปูนปั้นภายในสวน ของศาลาแก้วกู่ก็จะพบว่ามีพระพุทธรูป เทวรูป และเทวาลัยทั้งหมด 208 องค์ และในจำนวนนี้มีมากกว่า 10 องค์ที่มีขนาดความสูงเกินกว่าตึก 3 ชั้นยังไม่นับรวมรูปปั้นเล็กๆ น้อยๆ อีกนับไม่ถ้วน ซึ่งรวมๆ กันเข้าก็น่าจะมีจำนวนนับพันได้ ถือได้ว่า “ศาลาแก้วกู่” เป็นศาสนสถานที่มีการจัดแสดงประติมากรรมปูนปั้นกลางแจ้งขนาดยักษ์จำนวนมากที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว ซึ่งทั้งหมดนี้สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจของ “ปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์” เมื่อราวปี พ.ศ. 2521 ตามความเชื่อว่าหลักคำสอนของทุกๆ ศาสนาสามารถนำมาผสมผสานกันได้ โดยปู่เหลือปรารถนาให้ที่แห่งนี้เป็นเมืองอมตะแก้วกู่มหานิพพาน หรือดินแดนแห่งการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง หลังจากที่ปู่เหลือได้เสียชีวิตลงในเดือนสิงหาคม 2539 สานุศิษย์ได้นำผอบ (ผะ-อบ) แก้วใส่ร่างของท่านไว้ตามความประสงค์ก่อนสิ้นชีวิต ปู่เหลือถือศีลเคร่งวิปัสสนา สั่งสานุศิษย์ว่า เมื่อสิ้นชีวิตแล้ว อย่าฉีดยา อย่าเผา อย่าฝัง ให้ใส่ผอบแก้วไว้ ร่างปู่เหลือไม่เปื่อยเน่า เส้นผมของปู่เหลือ จะเป็นสีดำล้วนทั้งศีรษะบ้าง สีขาวล้วนบ้าง สลับสับเปลี่ยนอยู่เรื่อยมา ปัจจุบันร่างปู่เหลืออยู่ภายในอาคารชั้นที่ 3 ของศาลาแก้วกู่ ซึ่งในแต่ละชั้นมีพระพุทธรูป เก่าแก่ต่างๆ ซึ่งนำมาจากฝั่งลาว ร่างของท่านไม่ได้เปื่อยเน่ามาเป็นเวลากว่า 10 ปี ทำให้เป็นที่ศรัทธาแก่สานุศิษย์และชาวพุทธเป็นอย่างมาก



     


    หากใครมีโอกาสเดินทางมาท่องเที่ยวยังจังหวัดหนองคายแล้วล่ะก็ “ศาลาแก้วกู่” นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ที่ไม่ควรพลาดแวะมาเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่อลังการของรูปปั้นเทวาลัย ซึ่งเกิดจากแรงศรัทธา ความเชื่อในบาป บุณ คุณ โทษ ในคำสอนของศาสนาต่างๆ จนกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์งานประติมากรรมปูนปั้นกลางแจ้งที่หาชมที่ไหนไม่ได้ในประเทศไทย

    • T-Tawee  ขอเบอร์ ผู้ประสานงานด้วยครับ 19 November 2018 14:25:04
    • Posts-4
    theTripPacker •  November 15, 2013

    Editor's Comment

    • Strong point:
    • งานประติมากรรมปูนปั้นขนาดใหญ่ ที่เกี่ยวกับเรื่องราวพุทธประวัติ และคำสอนตามหลักศาสนาต่างๆ ที่นำมาผสมผสานรวมกัน เพื่อชี้ให้ทุกคนเห็นถึงบาป บุญ และผลจากการกระทำ ซึ่งเทวาลัยทั้งหมดเกิดจากแรงบันดาลใจของปู่เหลือ ที่ต้องการให้เทวสถานแห่งนี้เป็นที่หลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง
    • Weak point:
    • เนื่องจากสถานที่ทั้งหมดเป็นลานโล่งกลางแจ้ง การเดินชมตามเทวาลัยต่างๆ ในช่วงกลางวันแดดจึงร้อนมาก นอกจากนี้ป้ายคำอธิบายบริเวณฐานเทวาลัย จะมีเพียงภาษาไทยเท่านั้น สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวชม อาจจะไม่สามารถเข้าใจความหมายของเทวาลัยต่างๆ ได้ครับถ้วน
    • Conclusion:
    • ศาลาแก้วกู่ หรือ วัดแขก แห่งนี้ นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองคาย และยังนับเป็นศาสนสถานที่มีการจัดแสดงประติมากรรมปูนปั้นกลางแจ้งขนาดยักษ์จำนวนมากที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว หากใครได้มาเที่ยวที่จังหวัดหนองคายแล้ว ก็ไม่ควรพลาดมาเที่ยวชมให้ได้ซักครั้ง
    Score
    • Posts-5
    theTripPacker •  November 15 , 2013

    ข้อมูลทั่วไป

    ที่อยู่ : ชุมชนสามัคคี ตำบลวัดธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย 43000

    GPS : 17.887161, 102.781925

    เบอร์ติดต่อ : 08 1369 5744

    Website : http://sala-saeoku.blogspot.com/

    เวลาทำการ : 6.00-18.00 น. ค่าธรรมเนียม : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท

    ช่วงเวลาแนะนำ : ช่วงเช้า หรือเย็น แดดจะไม่ร้อนมาก เนื่องจากบริเวณทั้งหมดเป็นพื้นที่กลางแจ้ง

    ไฮไลท์ : เทวาลัยขนาดใหญ่ ที่ปั้นขึ้นตามเรื่องราวคำสอนของศาสนาต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ ซึ่งมีคำบรรยายอยู่ที่บริเวณฐานเทวาลัย ทำให้เราสามารถทำความเข้าใจได้โดยง่าย

    กิจกรรม : เดินเที่ยวชมเทวาลัยต่างๆ พร้อมอ่านคำบรรยายเพื่อศึกษาหลักคำสอนในศาสนาไปพร้อมๆ กัน / พักผ่อนหย่อนใจบริเวณบ่อปลาด้านหลังศาลาแก้ว / สักการะร่างของพ่อปู่เหลือที่ไม่เน่าเปื่อยบนชั้น 3 ของศาลาแก้ว

    • Posts-6
    theTripPacker •  November 15 , 2013

    วิธีการเดินทาง

    จากตัวเมืองหนองคายใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 มุ่งหน้าไปทางอำเภอโพนพิสัยประมาณ 3 – 4 กม.จะสังเกตเห็นป้ายศาลาแก้วกู่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนน (ถ้าไม่เห็นป้ายศาลาแก้วกู่ให้สังเกตป้ายบอกทางไปพุทธมามกะสมาคมจ.หนองคายแทน) ให้กลับรถย้อนเข้ามาทางอำเภอเมืองแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยที่มีป้ายบอกทางดังกล่าวไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงศาลาแก้วกู่

    • Posts-7
    theTripPacker •  November 15, 2013
    • Posts-8
    theTripPacker •  November 15 , 2013

    แกลลอรี่รูปภาพ

    • Posts-9
    theTripPacker •  November 15, 2013
    • Posts-10
    ตุ๋ย •  April 19, 2019
  1. View more