10 Dec 2015
"อ่างขาง" อยากไปนานแล้ว นานยังไง นานเท่าที่รู้จักเชียงใหม่มาก็ได้ยินชื่ออ่างขางเลย แต่ไม่เคยไป หาจังหวะ เวลาไปไม่ได้ เดิม ๆ ทริปอ่างขางอยากไปช่วงนางพญา ฯ และ ซากุระญี่ปุ่นบาน อยากพักในโครงการ แต่ "มันเป็นไปไม่ได้" เลขดี ออกวันรัฐธรรมนูญ ที่ ๆ ทำงานกั๊กไว้ไม่ให้ปิดวัน พฤ. 11 ทำให้ค้างไม่ได้ เลยไม่ติดต่อจองที่พักไว้แต่เนิ่น ๆ และรถตู้ก็ได้แค่วันเดียว (แต่ละคนที่ไปเก่งทางชันกันเหลือเกิ๊น) พอวันเดินทางจริง ๆ กลับปิดให้ 4 วันติด นอยด์นิดหน่อย แต่ก็ได้เที่ยวจนได้ค่ะ
ทริปนี้ผู้ใหญ่ 6 เด็ก 2 เป็นฝรั่งปลอมไปซะ 2 6 คนที่ว่าค่าใช้จ่ายต่อทริปทั้งวันคนละ 490 บาท เป็นทริปที่ถูกและเป็นไปได้ นั่งสบาย ๆ ไม่กังวลเส้นทางค่ะ
ว่าแล้วไปกันค่ะ
จึงทรงมีพระราชดำริว่าพื้นที่นี้มีภูมิอากาศหนาวเย็น มีการปลูกฝิ่นมาก ไม่มีป่าไม้อยู่เลยและสภาพพื้นที่ไม่ลาดชันนัก ประกอบกับพระองค์ทรงทราบว่าชาวเขาได้เงินจากฝิ่นเท่ากับที่ได้จากการปลูกท้อพื้นเมือง และทรงทราบว่าที่สถานีทดลองไม้ผลเมืองหนาวของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ทดลองวิธีติดตา ต่อกิ่งกับท้อฝรั่ง จึงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1,500 บาท เพื่อซื้อที่ดินและไร่จากชาวเขาในบริเวณดอยอ่างขางส่วนหนึ่ง จากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการส่วนพระองค์ เมื่อ พ.ศ. 2512 โดยทรงแต่งตั้งให้ หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการในตำแหน่งประธานมูลนิธิโครงการหลวง ใช้เป็นสถานีวิจัยและทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้ผล ผัก ไม้ดอก เมืองหนาว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวเขาในการนำพืชเหล่านี้มาเพาะปลูกเป็นอาชีพ ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทานนามว่า “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง”เครดิต : http://www.angkhangstation.com
.
.
.
อ่างขาง ไม่อ้างว้าง เพราะมีเพื่อนไปเยอะค่ะ หลุดเฟรมเฟมมิลี่นิด ๆ แต่ก็อบอุ่นเหมือนเดิม เพราะอะไรเหรอ? เพราะเพื่อน ๆ ก็คนที่รักเราน่ะนะ เที่ยวหน้าหนาว แต่อุ่นใจค่ะ
นัดกัน ตี 5 ที่บ้านเพื่อนรักข้ามวัย หน้าที่ทำงาน เพราะหาง่ายสุดสำหรับคนอื่น ๆ ตี 5 นิด ๆ ล้อหมุน ฟ้ามืดมากวันนั้น โมเสสตาสว่างเพราะรอทริปนี้นานมาก อีกอย่างรอคริสเตียนด้วยแร่ะเด็กน้อย
เก็บรูปนี้แถว ๆ เชียงดาว พอเริ่มไกลเมือง ธรรมชาติเริ่มจัดเต็ม จริง ๆ หมอกสองข้างทางสวยมากค่ะ แต่โมเสสหลับบนตกเลยไม่จับกล้องได้ ให้พ่อโมถ่ายด้วยมือถือ ได้มาแค่นี้สุด ๆ ฮีแล้วเหมือนกัน
สักพักผ่านดอยหลวง เชียงดาว ที่ ๆ หาแทบตาย แต่นางอายในยามฝนพรำ วันนั้นไม่สมหวัง ได้เห็นแว๊บ ๆ วันนี้หน้าหนาวแล้ว ตระหง่าน ไม่อายใคร (ขออภัยภาพเบลอมากค่ะ)
.
.
.
สายแล้วถึงอ่างขาง ราว 9 โมงกว่า ๆ ลงรถตู้หน้าชา จมูกเย็น ไอออกปาก แต่ถือว่าทนได้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากี่องศา แต่ต่ำกว่า 15 แน่นอนค่ะวันนั้น
นักท่องเที่ยวมากันเยอะมากค่ะ แม้ว่าจะเช้าแค่ไหน แต่คนก็เยอะและแน่น
จุดแรกที่จอดรถค่ะ
..ตามหา จนเจอ..
ทริปนี้ยอมรับปัง ๆ ว่ามาตามหานางพญาฯ และใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ
ได้ยินมานานว่าอ่างขางขึ้นชื่อสองสิ่งนี้
และจขบ.ก็รักสองสิ่งนี้อย่างปักใจค่ะ
แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
ที่หวังเล็ก ๆ เพราะเพจอ่างขางรายงานว่าบานบ้างแล้ว แดงบางแล้วเท่านั้นเอง
นางพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระคะ (เริ่มงง) เริ่มบานบางต้นค่ะ รู้สึกดีมาก ๆ ที่ไปแล้วเจอสิ่งที่เลิฟ ๆ กะเขาด้วย
ฟ้าใสสดเอามาก ๆ
.
.
























เก็บรูปดื่มด่ำบรรยกาศที่จุดที่ 1 แล้ว เราเลื่อนล้อต่อที่สวนบ๊วยเล็ก ๆ ที่ลานจอดฮอฯค่ะ มันคือจุดบังคับจอดสำหรับคนที่พกเด็กมาด้วย "ล่อ" ล่อให้ลง







หนำใจกับป้ายและมุมมหาชนแล้ว ได้เวลาหามุมของเราด้านในสวน ๘๐ กันค่ะ







เที่ยวได้รอบแล้วที่สุดท้ายก่อนลาโครงการหลวง คือสวนบ๊วย และสวนซากุระญี่ปุ่น


