" เมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองคำ

ชื่นฉ่ำธรรมชาติ แร่ธาตุอุดม เครื่องถมสามกษัตริย์

มากวัดมากศิลป์  ครบสิ้นกุ้งปู "

 

จุดหมายการเดินทาง : ตัวเมือง + คีรีวง

การเดินทาง : เครื่องบิน, รถสองแถว, มอเตอร์ไซต์, แท๊กซี่

ค่าใช้จ่าย : 3 วัน 2 คืน

- ค่าเครื่องบินไปกลับ กทม.- นครศรีฯ  - n/a แล้วแต่โปรโมชั่นในแต่ละช่วง

- ค่ารถแท๊กซี่จากสนามบินนครศรีฯ ไปที่พัก - 300 บาท

- ค่ารถมอเตอร์ไซค์ - ขึ้นอยู่กับระยะทางในแต่ละจุดที่ไป

- ค่าเหมารถสองแถวเที่ยวในตัวเมือง - 600 บาท

- ค่ารถสองแถวจากตัวเมืองไปคีรีวง - 60 บาท

- ค่าอาหารการกิน - n/a (ขึ้นอยู่กับร้านและสไตล์ของแต่ละคน)

- ค่าที่พักในตัวเมือง - 650 / คืน

- ค่าที่พักโฮมสเตย์ที่คีรีวง - 500 / คืน (รวมอาหารเย็น 1 มื้อ)

- ค่ารถขากลับจากคีรีวงไปสนามบินนครศรีฯ - n/a (เจ้าของโฮมสเตย์ไปส่งให้ แล้วแต่สินน้ำใจประมาณ 300 - 500 บาท)

 

ผลที่ได้รับ : มิตรภาพใหม่ๆ และสุขภาพจิตที่ดี

----------------------------------------------------------------------------------------------------

> ในการเดินทางครั้งนี้ ฉันออกเดินทางด้วยเครื่องบินไฟล์ทเช้าสุด เนื่องจากมีภารกิจที่ต้องไปทำก่อนในช่วงเช้า จากน้ั้นจึงได้เริ่มออกหาประสบการณ์ต่อในช่วงบ่าย


> สถานีที่ 1 : วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร 

เริ่มต้นการเดินทางเพิ่มความเป็นสิริมงคล สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง

> สถานีที่ 2 : โรตีป้าหนอม  

เดินออกจากวัด เดินมุ่งหน้าไปตามถนนด้านซ้ายมือ ประมาณ 5 นาที ก็จะเจอร้านโรตีป้าหนอม เมนูไม่ได้มีแต่ของหวานนะจ้ะ ของคาว ของว่างก็มีให้เลือกกันละลานตากันไปเลย

> มื้อเย็นคืนแรก Street Food ถนนหน้าโรงแรมที่พัก 

> พักร่างคืนแรกในตัวเมืองที่นี่ (Green Place Guesthouse) ห้องพักสะอาด เรียบๆ ง่ายๆ  
650 บาท/ห้อง

> เริ่มต้นเช้าวันที่ 2 เหมารถสองแถวจากหน้าโรงแรมเพื่อเที่ยวในตัวเมืองครึ่งวันเช้า 600 บาท (สามารถต่อรองราคากันได้)  ในการที่เหมารถสองแถวจะมีความสะดวกตรงที่เราอยากไปไหนขอให้บอกพี่คนขับไปให้หมดก่อนเลยค่ะ แล้วให้พี่เค้าเป็นคนลำดับสถานที่ให้ เนื่องจากคนพื่นที่จะรู้ดีกว่าเราค่ะ

> สถานีที่ 3 : เติมพลังมื้อเช้าที่ร้านโกปี๊

หลังจากอัดพลังสำหรับมื้อเช้ากันแล้ว จุดหมายต่อไปของเราคือ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ข้างในมีพิพิธภัณฑ์นครฯ และสวนสัตว์เปิด

> สถานีที่ 4 : พิพิธภัณฑ์นครศรีธรรมราช
ศึกษาเรียนรู้แหล่งประวัติศาสตร์และศิลปะวัฒนธรรม ภายในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของจังหวัด รวมถึงศิลปะวัฒนธรรมต่างๆ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช

> สถานีที่ 5 : สวนสัตว์เปิดท่าลาด
ยังมีสัตว์ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ข้างในดูค่อนข้างแห้งแล้ง 

> สถานีที่ 6 : ศาลหลักเมือง

มาถึงเมืองคอน ก็ต้องมาไหว้ศาลหลักเมืองและเทวดาคุ้มเมือง องค์จตุคามรามเทพกันสักหน่อย

> สถานีที่ 7 : แหล่งเครื่องถมของดีเมืองนครฯ 
มาถึงที่ทั้งที่ ก็ต้องจัดเครื่องถม ของขึ้นชื่อของที่นี่สักหน่อย

> สถานีที่ 8 : หอพระอิศวร

หอพระอิศวรและเสาชิงช้า หอพระอิศวรอยู่ริมถนนราชดำเนิน เดิมเป็นที่ประดิษฐานเทวรูปอิศวรหลายองค์ เป็นปางหรือภาคต่าง ๆ กัน เทวรูปทั้งหมดนี้หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ นับว่าเก่าแก่มีค่ายิ่งนัก กรมศิลปากรได้บูรณะเมื่อ พ.ศ. 2509 และได้นำเทวรูปต่าง ๆไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธฑภัณฑ์วัดพระมหาธาตุ ส่วนเสาชิงช้าได้สร้างขึ้นใหม่ โดยจำลองแบบมาจากเสาชิงช้าในกรุงเทพฯ แต่มีขนาดเล็กกว่า  (ข้อมูลจาก http://www.culture.nstru.ac.th/)

> สถานีที่ 9 : หอพระนารายณ์

หอพระนารายณ์ อำเภอเมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็นโบราณสถานในศาสนาพราหมณ์อีกแห่งหนึ่ง อาคารหอพระนารายณ์เดิมไม่สามารถสืบทราบรูปแบบได้แล้ว สิ่งที่พบภายในหอพระนารายณ์ ได้แก่ เทวรูปพระนารายณ์สลักจากหินทรายสีเทาทรงหมวกรูปกระบอกปลายสอบและพระหัตถ์ขวาทรงสังข์ นับเป็นเทวรูปที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ข้อมูลจาก http://www.touronthai.com/)

> สถานีที่ 8 : พิพิธภัณฑ์หนังตะลุง สุชาติ ทรัพย์สิน

โรงหนังสำหรับเล่นหนังตะลุง ปัจจุบันก็ยังมีแสดงอยู่ แต่ต้องแจ้งล่วงหน้า ถ้ามาเป็นหมู่คณะ

มีจัดแสดงโชว์หนังตะลุงแบบต่างๆ

> สถานีที่ 11 : ร้านขนมจีนเมืองคอน
แวะเติมพลังมื้อเที่ยงก่อนเดินทางต่อสู่จุดหมาย หมู่บ้านคีรีวง

ขนมจีนเส้นสด + ผักสดๆ หร๊อยแร๊งงงงนิ  มื้อนี้ 36 บาท หรือใครจะสั่งแบบชุดน้ำยามา 3-4 อย่าง หรือจะเป็นจานราดแบบนี้ก็ได้ นอกจากนี้ที่ร้านยังมีข้าวแกงไว้บริการอีกด้วยตบท้ายด้วยผลไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองคอน มังคุดคัด ไม้ละ 20 บาท มีแม่ค้าหาบมาขายภายในร้านขนมจีน

เมื่ออิ่มท้อง ก็เริ่มเดินทางต่อภาคบ่าย สู่จุดหมาย หมู่บ้านคีรีวง ให้ลุงสองแถวที่เราเหมามาไปส่งที่ท่ารถ 

ค่ารถสองแถว 30 บาท  คนคอนเค้าใจดี พี่เค้าพาไปเราส่งถึงที่พักเลย 

> สถานีที่ 12 : หมู่บ้านคีรีวง  "อากาศดีที่สุดในประเทศไทย"

มาถึงคีรีวงประมาณบ่าย 2 ก็เข้าที่พัก ซุกหัวนอนที่นี่ "เพ็ชรีคีรีโฮมสเตย์" ราคา 500 บาท/คืน (ที่พัก + มื้อเย็น) มาคนเดียวพี่เค้าขอคิดราคานี้ แต่ถ้ามา 2 คนคิดคนละ 350  แต่วันกลับพี่เจ้าของบ้านใจดีทำอาหารกลางวันส่งให้อีก 1 มื้อ พี่นี่เปรมเลยครัชชช

บอกแล้วคนคอนเค้าใจดี้ดี

ห้องพักเรียบง่าย ไม่มีแอร์ มีแต่พัดลมและลมธรรมชาติ ห้องน้ำรวม หากใครติดอยู่สบาย คงต้องทำใจหน่อย

ผมชื่อชาเย็นครับ พนักงานต้อนรับประจำบ้านเพ็ชรคีรีโฮมสเตย์

เอาสัมภารกเก็บ ก็ปั่นจักรยาน (ที่ที่พักมีไว้ให้บริการ) ไปชมวิวทิวทัศน์ แลดูวิถีความเป้นอยู่ของชาวบ้าน

รอยยิ้มอันดียงสา  สนุกเค้าล่ะ

ชุ่มฉ่ำ ชุ่มชื่น

ปลาพลวง

สุดที่จะบรรยาย.....

หลบหลีกความวุ่นวาย และหันมา​อยู่กับธรรมชาติบ้าง..ให้สายลม และลำธาร เยียวยาร่างกายและจิดใจ

ภายในหมู่บ้านคีรีวง จะมีกลุ่มทำผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ สามารถเลือกซื้อหาเป็นของที่ระลึกได้ สามารถปั่นจักรยานไปยังแต่ละที่ได้ บริเวณหมู่บ้านจะมีลักษณะเส้นทางเป็นวงกลม 

กลุ่มมัดย้อม : กลุ่มทำผลิตภัณฑ์ที่ทำจากการมัดย้อมโดยใช้สีธรรมชาติ

กลุ่มลูกไม้ : กลุ่มทำผลิตภัณฑ์ทำจากเมล็ดพันธ์ไม้ต่างๆ เช่น สร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน ต่างๆ

กลุ่มลายเทียน : กลุ่มทำผลิตภัณฑ์ผ้าบาติก

กลุ่มใบไม้ : กลุ่มทำผลิตภัณฑ์จากการย้อมสีธรรมชาติ

ร้ากาแฟ-ของหวาน ยอดฮิตของที่นี่บรรยากาศชิวมาก พี่เจ้าของร้านก็ใจดีน่ารักที่สุด (ย้ำ คนคอนใจดีน่ารักจริงๆ)

แวะนั่งพัก ดื่มด่ำกับธรรมชาติ ควบคู่กับของหวานที่สดชื่น คลอเคล้าเสียงบทกวีที่ใส่ทำนองของอ.ไข่ มาลีฮวนน่าเบาๆมื้อเย็นโฮมสเตย์ หร๊อยยยยยยยยยย จัง ฮู้

รุ่งเช้า (วันศุกร์) มีตลาดนัดในหมู่บ้านพอดี เลยถือโอกาศปั่นรถถีบไปเดินเล่นและหาข้าวเช้าทานสักหน่อย

หมี่ผัดกะทิอร่อยมาก ทานแกล้มกับถั่วงอกและมะม่วงซอย กับผักพื้นบ้าน หร็อยยอย่างแรง ห่อละ 10 บาท

ข้าวเช้าที่ซื้อมา สามารถมานั่งทานที่ร้านกาแฟบ้านนายทั่งได้ พี่เค้าใจดีไม่ว่า (แต่ก็สั่งเครื่องดื่มพี่เค้าหน่อยนะ)เมื่ออิ่มกันแล้ว เราก็ต้องย่อยอาหารกันสักหน่อย ด้วยการปั่นรถถีบขึ้นเนินเขาเบาๆ มา 1 กม. เพื่อไปที่หนานหินท่าหา เล่นเอาจักกุแร้เปียกโชก  ถ้าเป็นช่วงวันหยุด พี่ชาวบ้านบอกว่าคนจะนิยมขึ้นมาตรงนี้เพื่อเล่นน้ำ คนจะเยอะมาก แต่เรามาวันธรรมดาเลยไม่มีคน ถ่ายรูปสบายเลยย

ในหมู่บ้านคีรีวง มีวัดคีรีวงด้วย แวะไหว้พระสักหน่อย

ขอขอบคุณ เพื่อนร่วมทาง และตากล้องประจำทริปนี้

 | อย่ากลัวที่จะต้องออกเดินทางคนเดียว เพราะคุณจะได้เจอกับมิตรภาพและสัมผัสกับมุมมองใหม่ๆ |