ทริปกระทันหัน.. ปราณบุรี กับ ไรเฟิลหมาวีลแชร์

จริงๆ เดือนนี้ไม่มีโปรแกรมว่าจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันเลยสักนิด แต่บรรยากาศตอน 3 ทุ่มของคืนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ทำให้เราเก็บของภายใน 15 นาที เดินทางมาปราณบุรี แบบไม่มีแผนมาก่อนล่วงหน้า (ทีแรกตั้งใจจะไปแค่ชะอำหรือหัวหิน เพราะจุดหมายคือจะไปทะเล แค่นั้น)

ไรเฟิลขออาสาพาเที่ยวนะคับ

ระหว่างทางก็โทรติดต่อบ้านพักไปเรื่อยๆ ขับรถไป โทรถามไป ไม่ได้บ้านพักสักที ซึ่งแต่ละที่ก็ไม่รับน้องหมาบ้างหรือเต็มบ้าง ขับรถกันไปก็เริ่มเครียดว่าจะมีที่นอนกันมั้ยคืนนี้ จนถึงขั้นคิดกันว่านอนมันในรถนี่แหละ (คือรีบมากขนาดเต้นท์ก็ไม่ได้เอาติดรถมาด้วยเลย) พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีเพื่อนที่ครอบครัวเค้าทำรีสอร์ทอยู่ที่ปราณบุรี เลยโทรลองไปถาม และแล้วเค้าก็ต้อนรับเราเป็นอย่างดีด้วยเวลาตี 1 !!!

ที่พักชื่อว่า “ปราณมณี บีช รีสอร์ท”  (081-7261679) ซึ่งปกติเค้าไม่รับหมาใหญ่นะคะ รับแต่น้องหมาไซส์เล็กไม่เกิน 8 กิโล และมีค่าใช้จ่ายสำหรับน้องหมาด้วย 200-300 บาท/ตัว แต่กรณีนี้คุณพี่เค้าคงจะสงสารหรือเห็นว่าดึกแล้วเลยอนุญาตให้เข้าพักได้ และไม่คิดค่าใช้จ่ายสำหรับไรเฟิลเพิ่มด้วย ขอบคุณ มา ณ ที่นี้ ด้วยนะคะ

 

>>เริ่มต้นที่เช้าวันอาทิตย์ที่ “ปราณมณี บีช รีสอร์ท”<<

ตื่นเช้าไรเฟิลก็ออกมาเดินเล่นรอบๆ รีสอร์ท กินลม ชมทะเล มนต์เสน่ห์ของทะเลปราณบุรีอย่างหนึ่งก็คือความสงบ มันทำให้เราได้ซึมซับกับธรรมชาติได้อย่างแท้จริง บรรยากาศรอบๆ ที่พักถือว่าโอเคเลยทีเดียวค่ะ เหมาะแก่การพาครอบครัวมาพักผ่อน สถานที่กว้างขวาง มีสระว่ายน้ำด้วยนะคะ

ที่รีสอร์ทมีจักรยานให้ปั่นเล่นบนถนนเลียบชายหาดด้วย

และแล้วก็ถึงเวลาไปลงน้ำทะเลกันคร๊าบบบบ ไรเฟิลถึงจะพิการแต่นางชอบเล่นน้ำมาก และนางก็ชอบทะเลมาก ลงเล่นน้ำทะเลแบบสนุกสุดเหวี่ยงไปเลยทีเดียว โดนคลื่นซัดหงายหน้าหงายหลัง พอเล่นจนเหนื่อยแล้วก็ขึ้นมานั่งพักบนหาดทราย หายเหนื่อยแล้วก็คลานลงทะเลต่อ ดูๆ ไป ถ้าไม่มีหูนางคงเหมือนแมวน้ำมาก เออดี!! เลี้ยงหมากลายเป็นแมวน้ำไปเฉยเลย :)

นี่ผมนั่งหล่อๆ อยู่ดีๆ ก็มีนางฟ้ามาขอถ่ายรูปคู่ฮะ

อาบน้ำเค็มเสร็จแล้วก็ต้องมาอาบน้ำจืด

เมื่ออาบน้ำจืด เช็ดขนจนตัวแห้ง หล่อเฟี้ยวฟ้าวเรียบร้อยแล้ว พี่ก็พร้อมไปเที่ยวต่อทันที จากที่บอกว่าการเดินทางครั้งนี้ไม่ได้วางแผนกันไว้เลยแม้แต่น้อย ก็เลยอาศัยถามข้อมูลจากคุณพี่เจ้าของรีสอร์ทว่าจะไปเที่ยวที่ไหนต่อดี คุณพี่เค้าก็แนะนำว่าให้ไปเดินขึ้นถ้ำพระยานครเพราะทางที่จะไปนั้นอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ท ถ้าลงจากถ้ำและพอมีเวลาเหลือก็ให้ไปล่องเรือดูป่าชายเลนที่คลองเขาแดงต่อ เรายังไม่เคยไปทั้งสองที่พอดีเลย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มารูป http://www.hotelsthailand.com/gallerys/attractions/147/orig_1295.jpg

 

>>ไปต่อกันที่ถ้ำพระยานคร<<

พอเราไปถึงที่จอดรถ ก็มีคนแนะนำว่าให้เรานั่งเรืออ้อมเขาลูกแรกไปก่อนแล้วค่อยไปเดินขึ้นลูกที่ 2 ไม่งั้นต้องเดินขึ้นเขา 2 ลูก เลยนะ คือต้องเดินข้ามเขาเทียนไปก่อน 1 ลูก แล้วก็ต้องไปเดินขึ้นเขาอีก 1 ลูกเพื่อจะเข้าไปชมความงดงามของถ้ำพระยานครและพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ คือถ้าใครไม่อยากเหนื่อยมากก็ให้นั่งเรืออ้อมเขาเทียนไปก่อน 1 ลูก แล้วค่อยไปเดินขึ้นลูกที่ 2 

ทางเดินจะเป็นประมาณนี้

สรุปเราตกลงว่าจะเดินไปกันเรื่อยๆ ชมนก ชมไม้ ไม่ขอนั่งเรืออ้อมไป ทางเดินบนเขาเทียนระยะทางที่เดินไม่แน่ใจว่ารวมๆ แล้วเท่าไหร่ได้ แต่ปัญหาคือมันไม่ใช่ทางเรียบๆ เป็นทางลาดชัน และมีโขดหินเรียงรายตลอดทาง เราต้องค่อยๆ เดิน และแถมยังต้องช่วยกันยกรถพี่ไรเฟิลไปด้วย ช่วงที่เดินข้ามเขาเทียนไม่ค่อยเจอผู้ร่วมทางเลย เพราะคนส่วนใหญ่เค้าจะนั่งเรืออ้อมเขาเทียนไปก่อน ตอนนี้รู้แล้วว่าทำไมเค้าถึงไม่เดินกัน แฮ่ๆ

ผมพร้อมแล้วคับ

แวะกินน้ำ

ลงจากเขาเทียนก็จะเจอชายหาดซึ่งถ้าใครนั่งเรืออ้อมเขาเทียนมาก็จะมาลงที่ชายหาดนี้ และจะมีทางเดินเพื่อไปขึ้นเขาลูกที่ 2 ต่อไป 

 

ตอนถึงจุดแวะพักเขาลูกที่ 2 เราเลยถอดวีลแชร์ให้ไรเฟิลและเปลี่ยนมายกขาหลังทั้ง 2 ข้าง ให้ไรเฟิลใช้ขาหน้าเดินแทน สบายกว่ายกรถเยอะเลย กว่าจะคิดได้ก็ยกกันข้ามเขามาแล้วตั้ง 1 ลูก

***คือพี่ไม่รู้มาก่อนเลยว่าทางมันจะโหดขนาดนี้ ไม่งั้นพี่คงนั่งเรืออ้อมเขาเทียนไปแล้ว ตอนพิมพ์อยู่นี่ขาพี่ยังร้าวระบบอยู่เลยยยย  หากใครจะเดินไปก็ต้องเตรียมร่างกายตัวเองมาให้พร้อมนะคะ ไม่งั้นเหนื่อยแน่ๆ อ่อ!!  สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือน้ำเปล่า เพราะระหว่างทางต้องกระหายน้ำแน่นอน ไรเฟิลพกไป 3 ขวด หมดเรียบเลยคร๊าบบบ แต่ระหว่างทางก็มีพี่ๆ ใจดี แบ่งน้ำให้ไรเฟิลกินตลอดทางเลย

และแล้วก็ถึงถ้ำพระยานคร ซึ่งภายในเป็นที่ตั้งของพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ พอเห็นกับตาตัวเองความเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้งเลย คืองดงามมากทั้งธรรมชาติและพระที่นั่ง ไม่แปลกใจเลยที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยกให้พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ เป็นตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัด

 

ขากลับลงมาจากเขาลูกที่ 2 แล้ว พี่ตัดสินใจได้ในทันทีว่าขอนั่งเรือกลับ จะไม่เดินกลับทางเขาเทียนแล้ว พี่ม่ายหวายยยยย ไรเฟิลเลยได้นั่งเรืออ้อมเขาชมวิวทะเลสวยๆ คร๊าบบบบ

ทริปนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้ ไม่ได้ไปล่องเรือดูป่าชายเลนที่คลองเขาแดง เพราะเย็นมากแล้ว แต่แค่นี้ก็มีความสุขที่สุดแล้วค่ะ ใครมีหมาเล็กก็พามาพักที่  “ปราณมณี บีช รีสอร์ท” ได้นะคะ หรือถ้าใครมีหมาใหญ่ก็พามาเดินขึ้นเขาไปดูถ้ำพระยานครได้นะคับ

ไว้ทริปหน้าผมจะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังอีกนะคับ

 

ติดตามเรื่องราวของไรเฟิลไดที่เพจ "หมาน้อยไรเฟิล"