20 เช็คอิน เส้นทางเมืองกาญจน์ ถึงสังขละบุรี

กาญจนบุรีกี่ทีก็ไม่เบื่อ จังหวัดทั้งใหญ่ทั้งของดีเต็มเพียบอย่างนั้น… เมื่อเดือนก่อนผมได้กลับไปเมืองกาญจน์อีกรอบ มีโอกาสตาม ฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับ ททท.สำนักงานกาญจนบุรี ไปอัพเดตที่เที่ยวที่พักบนเส้นทางหลวง ทล.323 ตั้งแต่เมืองกาญจน์ จนถึงอำเภอทองผาภูมิ สังขละบุรี โน่นเลย​

ทริปสามวันสองคืน ถือว่าเวลากำลังดีสำหรับการท่องเที่ยวเส้นนี้ครับ เพราะถึงจะเห็นว่าแค่ไม่กี่อำเภอ แต่ระยะไกลลิบๆ ตั้งสองร้อยกว่ากิโล หากเป็นถนนสายอื่นนี่ผ่านกี่จังหวัดแล้วก็ไม่รู้ (ฮา...)

แต่ถึงจะไกลอย่างนั้น ทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ ว่าเส้นทางนี้น่าเที่ยวขนาดไหน ยิ่งหน้าฝนแบบนี้ ทั้งหมอก ทั้งฝน ทั้งป่าเขียวๆ มาเต็มชื่นใจที่สุดเลยเชียว

เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124

เมืองจำลองย้อนอดีตสมัยรัชกาลที่ 5 รัตนโกสินทร์ศก 124 หรือ พ.ศ. 2448

ยอมรับเลยครับว่าเคยมาครั้งหนึ่งแล้วไม่ได้รู้สึกตาโตอะไรนักเพราะตอนนั้นแวะมาเดินเล่นแป๊บๆ ไม่ได้ใส่ชุดไทยถ่ายรูปกัน พอมาครั้งนี้ได้ใส่ชุดไทยถ่ายรูปกับบรรยากาศเมืองอดีตต้องขอบอกว่า... สนุกเว่อร์มาก

พื้นที่เมืองมัลลิกากว้างใหญ่ เอาจริงเดินเที่ยวถ่ายรูปกว่าจะทั่วคงต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง มีร้านค้าร้านขายของเน้นขนมไทยๆ โบราณมากมาย พ่อค้าแม่ค้าก็จะใส่ชุดไทยทั้งหมด อยากถ่ายรูปอยากลองทำขนมอะไรบอกได้นะ ใจดีทุกคน และการซื้อของที่นี่เราต้องนำเงินไปแลกเป็นสตางค์รูเสียก่อน

อ้อ... สำหรับหมู่คณะ กรุ๊ปทัวร์ เขามีบริการบุฟเฟ่ต์อาหารกลางวัน อาหารเย็น พร้อมชมการแสดงต่างๆ ด้วย ใครสนใจสอบถามกันดูครับ

ค่าเข้าคนไทย ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก 120 บาท ไม่รวมค่าเช่าชุดไทย
www.mallika124.com
www.facebook.com/MallikaR.E.124
โทร. 034540884-6

ครัวอาสา

ร้านนี้ขายน้ำดีมากครับ ทั้งน้ำเปล่า น้ำอัดลม เพราะรสชาติอาหารของเขาจัดจ้านมาก (ฮา...) กินไปเป่าปากไป แต่ก็อร่อยสุดๆ

เห็นเป็นร้านบ้านๆ ห้องแถวริมทางแต่สังเกตดูผู้คนแบบแน่นร้านได้ โดยเฉพาะช่วงเที่ยงวันหยุด หากไม่เด็ดจริงลูกค้าขาประจำและขาจรคงไม่ขนาดนี้ ทีเด็ดอยู่ที่แกงป่าไก่บ้าน เผ็ดร้อนถึงเครื่อง ให้ห้าดาวเลยครับ ส่วนอาหารอื่นๆ รสชาติดีเช่นกัน รวมถึงเมนูปลาแม่น้ำมีให้เลือกเยอะ ราคาน่าคบหา

ร้านนี้ดีจริงจนได้รับรางวัลของดีเมืองกาญจน์ จากหอการค้าจังหวัดมาหลายปีแล้วครับ

โทร. 0869830080, 0815610354

น้ำตกผาตาด

น้ำตกที่ผมยกให้เป็นที่สุดของเมืองกาญจน์เรื่องการเป็นน้ำตกเที่ยวง่ายและสวยคุ้มค่า เอาชนะ ไทรโยค เอราวัณ และห้วยแม่ขมิ้น ตรงไหน ท้าพิสูจน์ให้ไปเที่ยวเองครับ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

จอดรถแล้วเดินเท้าอีกสี่ร้อยเมตร เส้นทางไม่ยากไม่ชันอะไร แป๊บเดียวก็ถึงตัวน้ำตกชั้นสาม เห็นสายน้ำสีขาวแผ่ลงมาจากหน้าผากว้าง แอ่งน้ำมีหลายจุดเลือกเล่น เราไต่ขึ้นไปได้เรื่อยๆ ด้วยความเป็นน้ำตกหินปูนเลยไม่ลื่นมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องระวังหน่อยนะ

ในพื้นที่หน่วยพิทักษ์ฯ มีลานกางเต็นท์ ร้านสวัสดิการ และห้องน้ำ ซึ่งร้านค้าอาจไม่ได้เปิดทุกวันในช่วงไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวนะ

ค่าเข้าคนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
โทร. อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ 0623255498, 0822902466

พุน้ำร้อนหินดาด

เนื่องด้วยวันที่เราเดินทางเป็นหยุดยาวมันแม่ พุน้ำร้อนหินดาด หรือบ่อน้ำร้อนหินดาด เลยคึกคักเฮฮาอย่างที่เห็น ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว มาอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนให้สบายตัวกันเยอะเชียวล่ะ

ที่นี่เป็นบ่อน้ำร้อนซึ่งเกิดขึ้นจากน้ำผุดอยู่ติดกับคลองกุยมั่ง หน่วยงานท้องถิ่นจัดสร้างบ่อน้ำร้อนสองบ่อให้ประชาชนทั่วไปลงแช่ แช่น้ำร้อนแล้วก็สลับมาเล่นน้ำเย็นที่ลำธาร อยู่แบบนี้ได้ทั้งวันเลยล่ะ

ค่าเข้าคนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
โทร. 0893499974

สวนริมแคว รีสอร์ท

ที่พักคืนแรกของเราอยู่ที่อำเภอทองผาภูมิ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ติดกับตลาดทองผาภูมิ บรรยากาศดีมาก มีบ้านพักหลายโซนรวมถึงเรือนแพ ซึ่งไม่ว่าจะโซนไหนก็สดชื่นเหมือนกัน ห้องพักสะอาด สบาย ที่จอดรถในรีสอร์ทมีพอสมควร

ที่รีสอร์ทมีร้านอาหารด้วยชื่อร้านเรือนสวน เน้นเมนูอาหารไทย ผสมกับอาหารถิ่นของกะเหรี่ยง รสชาติกับราคาโอเค บริการดี ผมชอบผัดเผ็ดหมูป่าที่สุด

โทร. 0830920646, 0811909284

ตลาดเช้าทองผาภูมิ

มานอนที่สวนริมแคว ต้องตื่นให้เช้าๆ เพื่อใส่บาตรที่ตลาดทองผาภูมินั่นแหละ ประมาณหกโมงครึ่งกำลังดี นอกจากนี้ยังมีภาพวิถีชีวิตสวยๆ ของพระวัดท่าขนุนซึ่งจะเดินเรียงแถวข้ามแม่น้ำแควน้อยที่สะพานแขวนวัดท่าขนุนด้วยนะ

มีตลกร้ายนิดหน่อยเล่าให้ฟังครับ คือพวกเราตื่นเช้านัดกันมาถ่ายภาพพระสงฆ์วัดท่าขนุน เพื่อนๆ นั่งรถตู้ไปรอที่หัวสะพานแขวน ส่วนผมขออยู่ที่รีสอร์ทเพราะมีมุมสวยๆ ในใจอยากได้ตรงนี้ใช้เทเลส่องไกลๆ แต่เมื่อพระท่านเริ่มเดินถึงสะพานเท่านั้นแหละฝนก็ตกลงมาชนิดไม่ลืมหูลืมตา พอทุกรูปข้ามสะพานหมดแล้ว ฝนกลับเริ่มเบาลงก่อนที่อีกสักพักจะหยุดตก

เพื่อนๆ ที่ไปสะพานได้ภาพสวยกันหมด ส่วนผมดีที่สุดได้เพียงเท่านี้ สงสัยจะเป็นคนบาปแฮะ  (ฮา...)

เจ๊โบ๊ะ

อาหารเช้าแบบง่ายๆ ที่ตัวอำเภอทองผาภูมิ ร้านเจ๊โบ๊ะถือเป็นร้านยอดฮิตเหมือนกันนะ โจ๊กหมูร้อนๆ ต้มเลือดหมูอุ่นๆ ตบด้วยกาแฟหรือชาโบราณ พร้อมกับไข่ลวกอีกสักสองฟอง บอกเลยว่าฟิน

นอกจากที่ว่ามาร้านมีขายอาหารตามสั่งด้วยครับ เลือกเอาตามใจชอบ

จุดชมวิววัดท่าขนุน

จะเรียกว่าจุดชมวิววัดท่าขนุนคงไม่ถูกต้องนัก เอาเป็นว่าเรามาชมวิววัดท่าขนุนกันตรงนี้แล้วกัน เป็นวิวที่เห็นมนฑปพระพุทธบาทและเจดีย์อยู่บนภูเขาสูง (จริงๆ สามารถเดินขึ้นไปข้างบนได้นะถ้ามีเวลาและแข็งแรงพอ) ฉากหลังเป็นขุนเขาหินปูนและสายหมอกแห่งทองผาภูมิ สวยสุดๆ

จุดชมวิวที่ว่านี้คือที่สำนักงานเทศบาลตำบลท่าขนุน ตั้งอยู่ริมถนน 323 หากเป็นเวลาราชการอาคารเปิด สามารถขออนุญาตขึ้นไปชมจากระเบียงห้องประชุมชั้นสองได้ด้วย

น้ำตกเกริงกระเวีย

ริมถนนก็มีน้ำตก ใครขับรถผ่านไปผ่านมาแถวนี้คงคุ้นกับด่านตรวจตำบลปรังผล นั่นแหละครับคือน้ำตกเกริงกระเวีย น้ำตกขนาดย่อมในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม หาที่จอดรถแถวน้ำตกแล้วจ่ายสตางค์เดินเข้าไปได้เลย

แม้เป็นน้ำตกเล็กๆ แต่ด้วยความเป็นน้ำตกหินปูนเลยสวยใช้ได้ ตอนน้ำน้อยจะเป็นสีเขียวมรกตเลยล่ะ แต่ช่วงที่เราไปฝนตกน้ำเยอะมากเลยได้ภาพอีกบรรยากาศมาแทน

อุทยานฯ มีให้บริการกางเต็นท์ตรงนี้ด้วยนะ สนามหญ้าและห้องน้ำเพิ่งปรับปรุงใหม่อย่างดีเชียว

ค่าเข้าคนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท (ใช้บัตรร่วมกับจุดชมวิวป้อมปี่)
โทร. อุทยานแห่งชาติเขาแหลม 034510431

จุดชมวิวป้อมปี่

ป้อมปี่ไม่เหมือนป้อมมหากาฬ หรือป้อมพระสุเมรุ ที่นี่ไม่มีปืนใหญ่ เพราะป้อมปี่เป็นคำเรียกที่เพี้ยนมาจากภาษากะเหรี่ยง “เปอปี่” แปลว่าต้นอ้อ ถือเป็นจุดชมวิวอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลมยอดฮิต

พื้นที่ป้อมปี่เป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหลักของอุทยาน ด้านในนอกจากจุดชมวิวยังมีบ้านพักริมอ่างเก็บน้ำ ลานกางเต็นท์ ร้านอาหารสวัสดิการ ไม่ต้องบรรยายมากล่ะนะ ขาเที่ยวอุทยานฯ คงรู้ดีว่าบรรยากาศโดยรวมควรเป็นยังไง

ค่าเข้าคนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท (ใช้บัตรร่วมกับน้ำตกเกริงกระเวีย)
โทร. อุทยานแห่งชาติเขาแหลม 034510431

ครัวสังขละ

เข้าสู่ตัวอำเภอสังขละบุรี ไปที่สังขละรีสอร์ท แต่ไม่ได้เข้าพักหรอก เราแวะไปใช้บริการร้านอาหารครัวสังขละต่างหาก ที่นี่อยู่คนละฝั่งถนนกับสะพานมอญเลยไม่มีวิวอ่างเก็บน้ำกว้างใหญ่ แต่ก็ได้วิวส่วนหนึ่งของแม่น้ำซองกาเลียมาแทน

ร้านอาหารสะอาด โล่งสบาย เมนูอาหารไทยรสชาติกำลังดี เด่นที่ปลาแม่น้ำต่างๆ ส่วนตัวผมชอบต้มโคล้งปลากรอบ ต้มขาไก่ ซดน้ำแทบหมดหม้อ แวะมาทานกันได้ครับไม่มีอะไรให้ผิดหวังนะ

ส่วนใครอยากได้ห้องพัก ที่สังขละ รีสอร์ท ห้องใหม่ สะอาด ติดถนน สะดวกสบาย ติดต่อได้ครับ

www.sangklaresorts.com
www.sangklaresortandfood.com
โทร. 034595410, 0851815777

วัดวังก์วิเวการาม

มาสังขละแล้วไม่ได้มาวัดวังก์วิเวการามคงเหมือนขาดอะไรไป เพราะเป็นวัดศูนย์รวมศรัทธาของชาวมอญแห่งสังขละบุรี มาถึงแล้วเข้าไปสักการะสรีระสังขารหลวงพ่ออุตตมะ อดีตเจ้าอาวาสผู้เป็นที่เคารพรัก จากนั้นไปชมพระพุทธรูปหยกขาว เป็นพระแกะหินอ่อนสีขาว ฝีมือช่างชาวมัณฑะเลย์จากพม่า สร้างจำลองมาจากพระพุทธชินราช ประดิษฐานภายในวิหาร

เจดีย์พุทธคยา

หนึ่งในสองสัญลักษณ์สำคัญของสังขละบุรี นอกจากสะพานมอญแล้วก็ต้องเป็นเจดีย์พุทธคยาสีทองอร่ามองค์นี้ สามารถเข้าไปเที่ยวชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ด้านใน โดยรอบลานจอดรถมีร้านขายของที่ระลึกเพียบเลย

ล่องเรือชมเมืองใต้บาดาล

กิจกรรมไม่ควรพลาดเมื่อมาสังขละคือการล่องเรือหรือล่องแพเที่ยวสามประสบ หรือบริเวณที่แม่น้ำซองกาเลีย รีนตี บีคลี่ ไหลมาบรรจบกัน พูดง่ายๆ ก็ตรงตัวอำเภอสังขละบุรี สะพานมอญ นี่แหละ

สำหรับคำว่าเมืองใต้น้ำ วัดจมน้ำ เมืองบาดาล แห่งสังขละ ที่มาคือตรงนั้นเคยเป็นหมู่บ้านเก่าดั้งเดิมของชาวมอญ พอสร้างเขื่อนเขาแหลมเลยต้องอพยพหนีน้ำขึ้นมาอยู่ตรงพื้นที่ปัจจุบัน ส่วนพื้นที่เดิมซึ่งยังหลงเหลือเศษซากก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันซีน โผล่พ้นน้ำเมื่อน้ำลด จมใต้น้ำเมื่อน้ำสูง

ปกติทริปเที่ยวสามประสบเขาจะพาเที่ยวสามจุดเป็นซึ่งเป็นวัดร้างทั้งหมด คือวัดสมเด็จ - ที่นี่อยู่บนเนินเขาพ้นน้ำตลอดทั้งปี วัดศรีสุวรรณ - ที่นี่อยู่ต่ำสุด เฉพาะช่วงน้ำลดเยอะๆ เท่านั้นถึงเดินขึ้นได้ ส่วนช่วงน้ำสูงจะจมน้ำมองไม่เห็นเลย และไฮไลท์คือวัดวังก์วิเวการาม - ที่นี่อยู่กลางๆ ทุกปีจะมีทั้งช่วงขึ้นโบสถ์ได้ น้ำท่วมโบสถ์ และท่วมแบบเกือบมิดโบสถ์

ปีนี้ระดับน้ำขนาดไหน... ดูได้จากในภาพล่ะครับ โบสถ์เก่าวัดวังก์พ้นน้ำแต่ไม่กี่ฟุต เหลือเห็นแค่ยอดหอระฆัง

แพมิตรสัมพันธ์

ว่ากันว่าเป็นร้านอาหารเรือนแพแนะนำที่สังขละเลยล่ะ โดยเฉพาะยามเย็นชมวิวสะพานมอญสวยมาก แต่เพราะเรามาช่วงหน้าฝน น้ำสูง แถมฝนตกอีกต่างหาก เรื่องนั้นเลยต้องผ่านไป

บรรยากาศเรือนแพเข้าท่า นั่งสบายๆ ราคาไม่ถือว่าแรง รสชาติอาหารโอเค พนักงานแนะนำให้ลองไข่ทรงเครื่อง ลักษณะเป็นไข่เจียวห่อไส้กรอกกับผักสมุนไพรหลากชนิด แต่ไม่สามารถเรียกไข่เจียวได้นะ น้องบอกว่ามันเป็นไข่ทรงเครื่อง (ฮา...) อร่อยดีครับ

โทร. 034595261, 0818127360

ภูชมหมอก

ที่พักสังขละมีให้เลือกหลากหลาย ถูก แพง ฝั่งตลาดไทย ฝั่งหมู่บ้านมอญ ส่วนพวกเราขอพักแบบสบายนิดหน่อยที่ ภูชมหมอก รีสอร์ทสวยใหญ่เปิดใหม่ไม่นาน พื้นที่กว้างขวาง มีสระว่ายน้ำด้วย วิวโดยรอบสดชื่น ห้องใหญ่ แอร์เย็น สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม เหมาะสำหรับคนอยากหาที่พักสบายๆ ที่สังขละ

ส่วนของอาหารเช้าจัดแบบโรงแรมรีสอร์ทเลยครับ เป็นบุฟเฟ่ต์ มีไข่กระทะสั่งได้ไม่อั้นด้วย ถูกใจมากตรงนี้แหละ

www.phuchommorkresort.com
www.facebook.com/poochommhok.sangklaburi
โทร. 0649647767

ตักบาตรยามเช้าและสะพานมอญ

หนึ่งในเรื่องที่หลายคนซึ่งเพิ่งมาสังขละบุรีครั้งแรกมักเข้าใจผิดคือการตักบาตรตอนเช้า จะบอกให้ว่า... ไม่มีการตักบาตรที่สะพานมอญนะครับ พระท่านไม่ได้เดินข้ามสะพาน ไม่ต้องไปรอถ่ายรูปเพราะจะรอเก้อ (ฮา...)

การตักบาตรมีที่บริเวณหมู่บ้านมอญ ปกติวันธรรมดาควรมารอตั้งแต่หกโมงนิดๆ เพราะไม่เกิน 6.40 น. พระท่านก็รับบาตรเรียบร้อยเดินกลับวัดแล้ว ส่วนถ้าเป็นเสาร์-อาทิตย์ นักท่องเที่ยวเยอะ สักเจ็ดโมงก็อาจจะยังทัน แต่เร็วไว้ก่อนดีกว่าแหละ

ใครอยากใส่ชุดมอญสวยๆ ถ่ายรูปหาเช่าได้ตามร้านรวงแถวนั้น เสร็จแล้วนั่งกินโจ๊ก กินกาแฟ ชิลๆ เดินเล่นสะพานมอญยามเช้าสักหน่อยก็ฟินดีนะ

ด่านเจดีย์สามองค์

หินสามกอง ว่ากันว่าก่อนกลายมาเป็นพระเจดีย์สีขาวสามองค์เรียงรายกันอยู่เหมือนปัจจุบัน เมื่อก่อนเจดีย์ตรงนี้คือกองก้อนหินสามกอง หรือกองหินที่ชาวบ้านคนผ่านทางนำมาทับก่อกองไว้เพื่อเป็นที่เคารพนั่นเอง (ใครชอบเที่ยวตามป่าตามเขาอาจเห็นกองหินลักษณะนี้บ่อยๆ)

นอกจากเจดีย์สามองค์ ตรงนี้เป็นตลาดด่านชายแดน เน้นไปที่ของฝาก พลอยพม่า เงินพม่า ของศิลปะหัตกรรม หากอยากข้ามไปเที่ยวพม่าเมืองพญาตองซูก็ได้ มีขายทัวร์ราคาคนละ 200-300 บาท ใช้เวลาสองสามสี่ชั่วโมง

ครัวแปดริ้ว

แว่บแรกที่คิดคือเจ้าของเป็นคนฉะเชิงเทราหรืออย่างไร แต่สุดท้ายผมก็หาคำตอบไม่ได้เพราะลืมถามซะงั้น (ฮา...)

ครัวแปดริ้วถือเป็นร้านอาหารยอดฮิตริมถนนก่อนเข้าตัวอำเภอทองผาภูมิเลยครับ เราแวะมาทานอาหารที่นี่ช่วงขากลับ บรรยากาศดี ได้ชมวิวสะพานข้ามแม่น้ำแควน้อย ฉากหลังเป็นภูเขากับสายหมอกบางๆ

ราคาอาหารเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 90 บาท ถ้าเป็นผัดผักก็ถูกลงหน่อย รสชาติดีทีเดียว ปลาแม่น้ำยังคงเป็นเมนูยอดนิยม แต่ต้ม ผัด แกง ทอด อื่นๆ ก็โอเคนะ

โทร. 034599780, 0895461079

The Village Farm To Café

บอกชื่อร้านหลายคนนึกที่ตั้งไม่ออก แต่ถ้าบอกว่าที่เดียวกับ คีรีมันตรา ริมถนน 323 ทางไปไทรโยค หลายคนอาจเคยผ่านเพราะที่นี่เป็นรีสอร์ทใหญ่และสวยมาก ร้านอาหารคีรีมันตรายังเป็นจุดรองรับคณะทัวร์ขนาดใหญ่ด้วย ซึ่ง The Village Farm To Café ก็อยู่ตรงนี้แหละ

บรรยากาศร้านน่ารักมาก สไตล์วินเทจฟาร์มแบบยุโรป แต่เห็นสวยแบบนี้ราคาเครื่องดื่มไม่แพงอย่างที่คิดครับ เอสเปรสโซ่เย็น 65 บาท น้ำผลไม้ปั่น 75 บาท สมูทตี้ 85 บาท ถือว่าโอเคจ่ายไหวเลยล่ะ ยิ่งได้นั่งสบาย มุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบ สาวๆ เข้ามาแล้วต้องร้องว้าวแน่นอน

www.facebook.com/TheVillageFarmToCafe
โทร. 034540599

-------------------------------------------------------------------

ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
http://www.facebook.com/alifeatraveller