'CNX' Again AND Alone.. [เมืองคอง > ห้วยกุ๊บกั๊บ > ม่อนแจ่ม]

นับตั้งแต่โควิดระบาดเมื่อต้นปี 2019 เราแทบไม่ได้สัมผัสการเดินทางที่ต้องแบกกระเป๋าขึ้นหลังอีกเลย 

กลับมาแล้วสินะ การเดินทาง(คนเดียว)ของฉัน
ทริปนี้เริ่มต้นด้วยสถานที่ที่คุ้นเคยเช่นเคย 'เชียงใหม่' ไปเท่าไรก็ไม่เบื่อสักที

ไปกันเลย...

3/11/21
ตื่นเต้นวะ!!! … จะได้เดินทางอีกครั้ง 
ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่เราเดินทาง(คนเดียว)ด้วยเครื่องบิน ทุกอย่างดูชิวๆ สบายๆ ไม่เร่งรีบ เรามาถึงที่สนามบินดอนเมืองแต่เช้า  ถึงจะบินในช่วงโควิด แต่ขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมาก 
เรา check in online มาเรียบร้อย ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารการฉีดวัคซีน ก็ถือว่าเป็นอันเสร็จ

เรานั่งรอจนเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง จนถึง 8.40น

ไม่นานเราก็มาถึงสนามบินเชียงใหม่.. 
 9.30น มาถึงเวลาก่อนกำหนดสะอีก

สวัสดี CNX!!!! ส่วนเราจองกับร้าน NPmotorbikerental เป็น Wave125 วันละ 250บาท สามารถนัดรับ-คืนรถได้ที่สนามบินเชียงใหม่เลย สะดวกสบายดี..
ก่อนเริ่มการเดินทาง เราแวะเติมน้ำมันเต็มถัง ค่า น้ำมันก็… 130 บาท 
ป่ะ!! รถพร้อม น้ำมันพร้อม ลุย!!!!

ทริปคนเดียวครั้งนี้ เราเปิดทริปด้วยการขับมอไซต์แว๊นไปเมืองคอง 
ก็แค่ 120km เองงงงงงงงงงง..

...ไม่ไกลเนอะ

เที่ยงละยังไม่ถึงไหนเลย 
ก่อนถึงอำเภอเชียงดาว เราแวะกินข้าวเที่ยงที่ร้านข้างทาง ง่ายๆคือ เจอร้านไหน จอดร้านนั้น หิว!! ไม่ไหวแล้วโว้ยยยย … 
สรุปมื้อแรกของทริป คือข้าวหมูแดง ในราคา 50บาท 

กินเสร็จก็เดินทางต่อ… หนทางยังอีกยาวไกล

อำเภอเชียงดาว คุ้นหูละสิ 
หลังจากขับเข้ามาอำเภอเชียงดาวไม่เท่าไร อากาศก็เย็นลง อย่างกับอยู่คนละจังหวัดกับเมื่อกี้นี๊... นี่ขนาดบ่ายโมงนะ อากาศยังดีขนาดนี้เลย 

เส้นทางมาเมืองคอง เราขับมาทางถ้ำเชียงดาว ได้เห็นดอยหลวงเชียงดาวแบบใกล้ๆเลยละ 
ถนนเราถือว่าโอเคนะ ขับโคตรมันส์.. 5555

ระหว่างทางเชียงดาวไปเมืองคอน เราจะเจอด่านตรวจของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ต้องเสียค่าผ่านด่านด้วยนะ เราขับมอไซต์มาก็เสีย 40บาท 

ผีเสื้อ!!!! ตรงบริเวณด่านตรวจผีเสื้อบินเต็มเลย 
เจ้าหน้าที่บอกผีเสื้อเขามากินดินโป่ง.. อาหารโปรดเขาเลย 

เราเดินถ่ายรูปผีเสื้อสักพัก ต้องออกเดินทางต่อแล้ว..
อีก 30กว่าโลก็ถึงเมืองคอง …แต่เป็น30โลที่ใช้เวลาเดินทาง ชั่วโมงครึ่ง.. เกร็งจนเมื่อยเลยอะ..

14.30 ถึงละ เมืองคอง.. 
คืนแรกเราพักที่อ้ายด่องโฮมสเตย์ จองจากเพจพี่เขาเลย ง่ายมากกกกกก.. ค่าที่พัก 600บาทต่อคน รวมอาหารเย็นและเช้า เป็นที่พักแบบโฮมสเตย์น่ารักๆ มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง ใครอยากมาพักผ่อนแบบ private เราแนะนำที่นี้เลย เงียบสงบ มีวิวนาขั้นบันไดเป็นของตัวเอง อ้ายด่องกับพี่ปองดูแลดีมากกกกก.. 
มีwifi ฟรีด้วยนะเออ.. เราให้ 10++++++ ไปเลยครับบบ..

หลังจากที่วางกระเป๋าที่แบกอยู่บนหลังมาตลอดทางเรียบร้อยแล่ว  เราออกมานอนเล่นที่เปลหน้าห้อง ลมพัดชิวๆ 

…เดินสำรวจทุ่งนาข้างห้อง 

วิวสวยยยยยยยย..

ได้เวลาสำรวจหมู่บ้านแล้ววว
ช่วงนี้ทุ่งข้าวในเมืองคองเหลืองเต็มทุ่ง ใกล้เก็บเกี่ยวแล้วสินะ..

ล้อมรอบด้วยภูเขา

แม่น้ำคอง 
ไม่ใช่ช่วงฤดูฝนน้ำในแม่น้ำก็จะน้อยหน่อย

ตั้งกล้อง ตั้งเวลา วิ่งงงงงงงง.. ร่างกายต้องของน้ำหวาน.. เรามาแวะสั่งชาเขียวที่ร้านฮักเน้อออออ.. เป็นคาเฟ่ในเมืองคองที่น่ารัก บรรยากาศดี วิวโคตรงามมมมมม ทางเข้าร้านเป็นสะพานสานด้วยไม้ไผ่ ตัวร้านเป็นบ้านไม้ 2ชั้น

ด้านหน้าร้านเป็นวิวภูเขาและทุ่งนาที่กำลังตั้งท้องเปลี่ยนเป็นสีเหลืองส่วนด้านข้างติดกับลำน้ำคอง 

เรานั่งชมวิวดื่มชาเขียวไปสักพักพี่เจ้าของก็ตะโกนบอก.. 
‘พี่ขอปิดร้านก่อนนะ แต่น้องสามารถนั่งต่อได้’
ด้วยที่บรรยากาศดีๆ วิวสวยๆ เราเลยนั่งต่อตามคำบอกของพี่เจ้าของร้าน

โคตรเงียบเลย.. ความเหงามาเยือนสะงั้น เลยตัดสิน
ใจขับรถกลับที่พัก 

โอ้โห!!!!!!! มีปิ่นโตมาส่ง ที่พักอ้ายด่องโฮมสเตย์ ตอนเย็นจะเป็นอาหารง่ายๆใส่ปิ่นโตมาส่งถึงหน้าห้องเลย มีหลายอย่างเลยนะ 

ไข่เจียว, ต้มจืดหมู, ยำปลากระป๋อง แคปหมู และน้ำพริกหนุ่ม 

4/11/22
อรุณสวัสดิ์ เช้าวันที่2  ฝนยังตกอยู่เลย..

อย่างที่เราบอกนั้นแหละ.. เรามีนัดจะขึ้นไปดูหมอก ตอนตี5.30น. แต่ด้วยความฝนตกทั้งคืน และเช้าฝนยังคงตกต่อเนื่อง บวกกับถนนลื่น ทริปขึ้นไปดูหมอกที่จุดเด่นทีวี เลยถูกพับเก็บอย่างมีเหตุผล 
เราเลยนอนต่อพร้อมกับเสียงฝนตก..

6.30น. ฝนหยุดตกแล้ว!!
สายหมอกกับวิวทุ่งข้าว โคตรดี.. ไหนๆก็อาบน้ำแล้ว เราเลยหยิบกล้อง แล้วลุยเข้าทุ่งนา เพื่อเก็บบรรยากาศ ทางลื่นใช้ได้ เดินระวังแบบสุดๆ 

วิวโคตรดี!!!!

Rainbow อากาศเย็น..

เราถ่ายรูปอยู่นาน.. ท้องเริ่มหิว เลยเดินกลับมาที่พักอย่างไม่ลังเล อาหารเช้ามาส่งถึงหน้าห้องเรียบร้อย  ข้าวต้มหมูกับไข่ลวก ง่ายๆแต่อิ่มท้อง

เรากินอาหารเช้าไปได้สักพัก อ้ายด่องก็เดินมาถาม..
“รีบไปไหนต่อไหม ยังอยากไปดูหมอกอยู่หรือเปล่า… ขึ้นไปดูตอนนี้ยังทันนะ”

ด้วยที่เราไม่ได้รีบไปไหนต่ออยู่แล้ว เลยตกลงขึ้นไปดูหมอกที่จุดชมวิวเด่นทีวี(อีกครั้ง)

ค่ารถไปดูหมอก ไป-กลับ 150บาท/คน 
เราไปกับรถชาวบ้าน ทางถือว่าโหดใช้ได้ ไม่ไกลมาก 7 กม แต่ใช้เวลาเดินทางพอสมควร..

ขึ้นมา ณ จุดชมวิวเด่นทีวี.. วิวไม่เป็นใจเลย กลุ่มเมฆลอยปิดดอยหลวงสะมิด เสียดายที่ไม่ได้เห็นดอยหลวงเชียงดาว

ดูสิ สิ่งที่คิด กับ สิ่งที่เจอ

เราดื่มด่ำกับวิวได้ไม่นาน.. ลงมาก็รีบเก็บของใส่กระเป๋า ถึงเวลาต้องบอกลาสะแล้ว!! ตอนแรกกะว่าจะไปลาอ้ายด่องกะพี่ปองก่อนกลับ แต่หาพี่เขาไม่เจอ 555555555  .. เลยได้แว๊นออกจากที่พักเงียบๆ

10.30น 
ปลายทางวันนี้เราอยู่ที่แก่งกึ๊ด อ.แม่แตง ถ้าจากเมืองคอง ก็ต้องเดินทางอีก 90 กว่ากิโล 

ขากลับโชคดีหน่อย.. มีเพื่อนร่วมทางขับกลับด้วยสะงั้น ไม่รู้พี่ๆเขารู้ตัวเปล่า 55555 ขับต่อแถวขบวนพี่ๆเขาไป… ขากลับรู้สึกมันจะไวกว่าขามาเยอะเลย แปปๆถึงจุดชมวิวบ้านระเบียงดาวที่เชียงดาวแล้ว..

ที่พักระเบียงดาว เชียงดาว 

เราเคยมาพักเมื่อ 5-6ปีก่อน ครั้งนั้นมากับเพื่อนนั่งรถ 2แถวชาวบ้านขึ้นมา ไม่รู้ด้วยสถานการณ์โควิดด้วยหรือเปล่า ที่พักที่นี้เลยทรุดโทรมไปมากกก… ห้องที่เราเคยพักเมื่อ5-6ปีก่อน เหลือเป็นเพียงห้องพังๆ 
แต่ในส่วนของวิวนั้นยังสวยเหมือนเดิม.. 

เราเสพบรรยากาศวิวไม่นาน เพราะเมฆฝนตั้งเค้ามาแล้วว ขับลงเชียงดาวต้องเปียกฝนแน่ๆ เราเลยจัดเตรียมอุปกรณ์กันฝนที่เตรียมมา แพ็คกระเป๋าเป้, กล้อง รวมถึงโทรศัพท์เรียบร้อย 
และฝนก็ตกมาจริงๆ แต่แค่ปรอยๆ 

ไป.. เดินทางกันต่อ หนทางอีกยาวไกล ขับมายังไม่ถึง 30 กิโลเลยย.. 

ขับมาสักพัก เห้ยยยยย!!! น้ำท่วมถนน.. ต้องฝนตกหนักขนาดไหนน้ำถึงเอ่อข้ามถนนขนาดนั้น ลุยดิ!!! 5555555

อถรรสมากแม่!!!!!!

พอเข้าตัวเมืองเชียงดาวเท่านั้นแหละ แดดโคตรร้อนนนน 
เห้ออออ.. ไหม้ไปดิ!!!!

สวัสดีแม่แตง!!! 
เรามาถึงแก่งกึ๊ด ตอนบ่ายโมงครึ่ง เหลือเวลาอีกเยอะแยะเลย กว่าจะถึงเวลานัดขึ้นไปที่หมู่บ้านก้วยกุ๊บกั๊บ

เราเลยมาแวะหาไรกินที่ Jungle De Cafe 
ชาเขียวและเป๊ะเปี๊ยะทอด!!!!
นั่งพักไปด้วย และอัพโซเชียวนิดหน่อย

15.00 น เราขับมอไซต์ต่อมาอีกนิด ขับตามหาจุดที่เรานัดกับเจอกับพี่ที่ห้วยกุ๊บกั๊บไว้ หาไม่เจอ…. ถามๆคนแถวนั้นบอกไม่รู้จักเลย 5555555 โอ้ยยยย!! อยู่ตรงไหนเนี่ยยย

สรุป!! เราเลยฝากรถมอไซต์ที่ร้านช้างยิ้ม ค่าฝาก20บาท แล้วโทรบอกที่พัก(อีกครั้ง)

ยากเย็น… 

สุดท้ายเราก็ได้เจอ พี่เขาจะพาเราขึ้นไปหมู่บ้านห้วยกุ๊บกั๊บ 
ระยะทาง 4กม. ใช้เวลา 30นาที ทางโหด…… ไส้ ปอด หัวใจ ไหลมารวมกัน 55555 #รีวิวแค่นี้แหละ

รีวิวเต็มๆ เข้าไปดูในนี้ละกัน https://www.facebook.com/100000837469731/videos/a.4914379545266579/456674152507875

30 นาที่ผ่านไป.. รถหยุด

‘หมู่บ้านห้วยกุ๊บกั๊บ’

พี่ : ‘เดี๋ยวน้องลงตรงนี้นะ และน้องต้องเดินไปอีก 700 เมตร ที่พักน้องต้องเดินเข้าไปอีก ‘
เรา : โอเคค่ะพี่ สบายมาก.. ขอบคุณมากค่ะ
พี่ : ‘สู้ๆนะน้อง เดินไปข้างหน้า ห้ามหันหลังกลับละ’ คำพูดส่งท้ายของพี่คนขับรถ หลังจากที่เราปิดประตูรถเรียบร้อย

เห้ยยยยย… ไกลจังละ 555555555 
ทางไปที่พักเราเป็นทางดินเล็กๆ มอไซต์สามารถวิ่งสวนกันได้ เห็นร่องรอยฝนตกน่าจะช่วงเช้าของวันนี้ 
ทางเดินเป็นดินเรียบบ้าง เป็นแอ่งโคลนบ้าง 

หลังจากที่เดินมาเกินครึ่งทาง ก็มีรถ ATVขับซิ่งถอยหลังกำลังมาหาเรา พี่ที่ดูแลที่พักของเราคืนนี้ ขับมารับ 
สวรรค์โปรด!!!!  เราขึ้นนั่งรถ ATV อย่างไม่ลังเล  ไม่ถึง 30 วิ ถึงที่พักแล้ว….. 

ลงจากรถเท่านั้นแหละ สิ่งเราคิดว่าสวรรค์ก็หายไปกับตา มือเราเต็มไปด้วยโคลน 555555 
โอ้ยยยย..!!! ด้วยความที่ทางมันเป็นดินโคลนอยู่แล้ว แล้วถ้าคุณเคยขับรถ ATV มาก่อน ก็จะรู้ว่าล้อมันเนี่ยตัวดีดดินดีดน้ำเลย
ทั้งมือ กางเกง และกระเป๋าเป้ เต็มไปด้วยโคลน 5555555 เละเทะ!!!  
อ้าวเห้ยหมวกละ!!!!! ชิ-หายละ ลืมไว้บนรถกระบะที่มาส่งเมื่อกี้อีกกกก.. อรรถรสมากแม่!!!!

เห้อออออออออออ..!!ถึงสักที
ที่พักเราคืนนี้ ‘ระเบียงดาว ห้วยกุ๊บกั๊บ’ ค่าที่พักคนละ 650บาท ราคารวมอาหารเช้าและเย็น
ที่พักเราเป็นห้องที่ผนังทำด้วยไม้ไผ่ผ่าเป็นซีกๆ มีที่นอนผ้าห่ม มุ้งให้พร้อม
ที่พักมีทั้งหมด 4 ห้อง  ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม แต่สบาย

และไฮไลท์ของที่พักที่นี้ คือลานกว้างที่ยื่นออกไปจากตัวบ้าน วิวดีมากกก เงียบสงบ เหมาะกับคนอยากมาพักกายพักใจ <3

เออเราลืมบอก มีค่ารถขึ้น-ลงห้วยกุ๊บกั๊บด้วย คนละ 200บาท ไม่รวมกับค่าที่พักนะ

สวัสดีห้วยกุ๊บกั๊บ(อย่างเป็นทางการ)
เราเริ่มจากที่เอากระเป๋าเก็บเข้าห้อง เปลี่ยนชุดสบายๆ กางเกงยีนต์ขาสั้น เสื้อแขนยาวสีเทา 
มานั่งชมวิวที่ลานที่พัก ซึ่งทำจากไม้ตีเป็นต่อกันเป็นลานกว้าง ด้านหน้าเป็นวิวภูเขาสลับซับซ้อน มองเห็นไกลๆนั้นก็คือ ตัวเมืองเชียงใหม่ 

วันนี้มีคนมาเข้าพักเต็มอัตรา 
เราเริ่มนำกล้องออกมาเก็บรูปวิวรอบๆที่พัก 
โคตรสวย…!!! และสงบมากกกกก

ถ่ายรูปให้ไหมคะ..??
การเริ่มบทสนทนาของคนแปลกหน้า.. 
ด้วยความที่เราเป็นคนไม่ค่อยกล้าทักใครก่อน และเขิลเวลาที่มีคนอื่นมาถ่ายรูปให้ จึงตอบกลับด้วยความเกรงใจ และการเข้าสังคมไม่ค่อยเก่งของเรา .. ‘ไม่เป็นไรค่ะ เกรงใจ… ขอบคุณค่ะ ’ อาหารเย็นสำหรับ 1 คน!!!!!!! เยอะมากกกกกกก…

ดาวและทางช้างเผือกคือใกล้และชัดมากกกกกกก!!!

เว้นแต่กล้องมือถือเรานี่แหละ ถ่ายมาไม่ชัดเลย TT

จำคนแปลกหน้าที่ทักเราเมื่อตอนมาถึงได้ไหม??

บทสนทนาเมื่อตอนเรามาถึงมันแค่เริ่มต้น..
เราเริ่มคุยกันต่อ ถามประสบการณ์การท่องเที่ยวของกันและกัน
ถามไถ่ถึงภูมิลำเนา หน้าที่การงาน ..รวมถึงเรื่องหัวใจด้วย พอถึงเรื่องนี้เท่านั้นแหละ เรากลายเป็นผู้ฟังที่ดีไปสะงั้น 5555555 #ไลท์โค้ช 

เราเริ่มแลกเปลี่ยนโลกโซเชียลของกันและกัน 
น้องบอก ‘ถ้านู๋หาเพื่อนเที่ยวไม่ได้ นู๋จะชวนพี่ไปละกันนะ :)’

สรุปก็คือน้องเขาชื่อเบ็น อายุก็ห่างจากเราเยอะะะะะะ.. 5555 น้องทำงานที่พัทยา ชอบเที่ยว แพลนตอนแรกคือมาเที่ยวคนเดียว แต่ด้วยมีเพื่อนอยู่ที่เชียงใหม่พอดี เลยหิ้วเพื่อนมาด้วย ชื่อน้องกิ๊ฟ  เราทั้งคุย ทั้งร้องเพลง ฟังเพลง รวมถึงหมูกระทะด้วยกันจนถึงตี2 ด้วยตาจะปิด เราเลยขอตัวไปนอนก่อน ไม่ไหวจริงๆ

5/11/21
เสียงไก่ขัน..เริ่มตั้งแต่ตี5 ไม่สิ มันเริ่มตั้งแต่ตี 3 น่าจะได้
(ใครกันที่บอกว่า เราจะได้ยินเสียงไก่ขันตอนเช้า)
แต่เราก็ข่มตานอนต่อจนถึง6โมงเช้า ตื่นมาล้างหน้า แปรงฟัน แต่ไม่อาบน้ำ 555555 

วิวและอากาศดีมากกกกกกก!!!

สูดอากาศให้เต็มปอดดดดด….!!!! เตรียมตัวไปสำรวจหมู่บ้านห้วยกุ๊บกั๊บ พร้อมพระบิณฑบาตรไปเลยสิครับบบ.. ดอกบัวตอง

เราเริ่มเดินสำรวจหมู่บ้านพร้อมกับพี่ตากล้อง คนที่พักที่เดียวกันจ้างมาถ่ายรูป 

ข้อดีมากๆ คือพี่ตากล้องรู้มุมที่ต้องไปถ่ายรูปในหมู่บ้านเยอะมากกกกก มุมลับๆเยอะมากกก 

มุมที่ไปดูทะเลหมอกใกล้ๆคือดีมากกกกกก เราโคตรตื่นเต้น 

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราเห็นทะเลหมอกกับตาแบบใกล้ๆขนาดนี้ (แต่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราห็นทะเลหมอกนะ)

คู่กับทะเลหมอก 1 2 3 4 5… รูป ไปเรื่อยๆๆๆ 55555

เห้ยแกรรร มันสวยมากจริงๆนะ อยากให้มาา..

11.00 ถึงเวลาต้องบอกลาห้วยกุ๊บกั๊บแล้วว
ขากลับเรานั่งหลังกระบะ พร้อมกับเดอะแก๊งค์ที่เมื่อคืนอยู่ด้วยกันจนถึงตี2 สภาพแต่ละคนคือยังไม่ตื่น ไม่พร้อมกลับเอามากๆ 55555

นี่คงเป็นครั้งแรกสินะ ที่ตั้งแต่เราเริ่มเที่ยวคนเดียวแล้วมีเพื่อนร่วมทางอย่างจริงจัง …. ได้พูดคุย หัวเราะ แลกเปลี่ยนมุมมอง ดูดาว และเล่นมุกกากๆด้วยกัน 
รู้จักกันมากกว่าถามชื่อ เปลี่ยนกันถ่ายรูป แล้วบอกลากันไป 

สุดท้ายเราคงได้แค่กล่าวคำลาที่ว่า ‘ยินดีที่รู้จักนะ…เพื่อนร่วมทาง’

รถจากที่พักมาส่งที่ร้านฝากรถ(ร้านช้างยิ้ม)เหมือนเดิม มาถึงที่ฝากรถคือไม่เหลือรถสักคัน เราคงลงจากดอยเป็นกลุ่มท้ายๆแล้วสินะ 

นัดที่พักในเมือง 14.00น.
ด้วยความที่ลงมาเร็วกว่าที่ตั้งใจไว้มากๆ เราเลยมานั่งเล่นที่ร้านคาเฟ่… เหมือนเดิม ที่นั่งเดิม นั่งดูน้ำไหลผ่านแก่งกี๊ดไปเรื่อยๆ มีคนมาล่องแก่งไม่เยอะมาก แต่พอมีให้เห็นเป็นระยะ น้ำในแก่งไหลแรงพอสมควร คงสมใจผู้คนที่ตั้งใจจะล่องแก่งนั้นแหละ 

ไปต่อไม่รอแล้วนะ.. 
เราออกเดินทางด้วยมอไซต์อีกครั้ง แต่ก่อนจะเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ เราแวะมาเก็บภาพที่สวนสนแม่แตงก่อน เนื่องจากเป็นทางผ่าน 
มีคนมาถ่ายรูปกันเยอะพอสมควร ทุกคนจับจองมุมสวย เพื่อที่จะได้รูปสมดังใจ… เราก็เช่นกัน ย้ายมุมโน้น ถ่ายมุมนี้ จนกว่าจะพอใจ.. 
ว่าไปไม่มีใครมาถ่ายรูปคนเดียว(แบบเรา)บ้างหรอ?
ไม่มากับเพื่อน ก็มากับแฟน เห้ยยยยยยย.. เราเศร้านะ TT

เข้าเมืองแล้วเว้ย!! อีก 48 กม. ถึงที่พัก..

คืนที่ 3  เราพักที่นี่ 18 In Town Chiangmai Homestay 
เป็นที่พักที่น่ารักมากกกก feel like home ของจริง 
ทุกอย่างตกแต่งสไตล์ cosy ตัดกับผ้ามัดย้อม ดีมากกกก..
sleepper ลายสก็อต ใส่แล้วดูตะมุมตะมินขึ้นมาทั้งที ตกแต่งง่ายๆแต่ตัวหลงตัวสุดๆ 

คนที่พักมาส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ถึงจะเป็นช่วงโควิดกำลังระบาดก็เถอะ

หลังจาก chcek in เรียบร้อย คุณป้าเจ้าของที่พัก ก็แอบกระซิบบอกว่า.. ’ของทุกอย่างที่อยู่ในตู้เย็นกับบนโต๊ะ กินได้ทุกอย่างนะคะ’ …อิ่มท้องละ ;P

เรารีบเก็บกระเป๋าที่สะพายติดตัวมาทั้งวัน 
ห้องน่ารักมากกกกกกกก ตกแต่งดี!!!! เตียงก็ดี นุ่มมากกกกกกก.. 
ไม่ดีอย่างเดียว คือ เราต้องนอนห้องใหญ่ห้องนี้คนเดียว TT

หลังจากชื่นชมห้องสักพัก ถึงเวลาอาบน้ำสักที เราชอบมากห้องน้ำที่มี rain shower มาก ได้อาบน้ำอุ่น สบายตัวขึ้นเยอะเลย 
อาบน้ำเสร็จแต่งตัว เราก็ไม่ได้ทำอะไร นอกจากนั่งๆนอนๆ กินๆ

6/11/21
สวัสดีเช้าวันสุดท้ายของทริป..
วันนี้น่าจะเป็นเช้าที่รู้สึกนอนได้เต็มอิ่มที่สุด ของทริปนี้แล้วแหละ.. 

อาหารเช้า ตอนรับด้วยน้ำส้มมมมม

ดีกว่านอนเต็มอิ่ม ก็คืออาหารเช้าที่นี้นี้แหละ…
ดูดี อร่อยมากกกกกกกกกก และอิ่มมากกกกกกกกก ข้าวเหนียวดำสังขยา.. เป็นขนมที่อร่อยมากกกกกกก.. แต่ไม่รู้ชื่อ

วันนี้เราออกเที่ยวช่วงสายๆ 9 โมง เราเริ่มเดินทางอีกครั้ง 
อ่างแก้ว.. นี้เป็นครั้งแรกของเราเลยที่ได้มากที่นี้ มาเชียงใหม่ก็หลายครั้งนะ แต่ไม่เคยแวะมาสักที

ถึงเราจะมาสายแล้ว แต่ก็ยังมีคนออกมาออกกำลังกายกันอยู่เลย อากาศก็ดี แถมคนก็น้อยด้วย(ถ้าเทียบกับช่วงเย็น) ชิวดีวะ!!

จริงๆ แพลนของเราวันนี้คืออยากไปสวนส้ม ที่แม่แจ่ม
ซึ่งก็ต้องขับย้อนขึ้นไปอีก 36 km ดูจากแผนที่ก็ใช้เวลาอีก 1ชม. 

สวนป้างฮวา เป็นสวนดอกไม้และสวนส้ม 
ที่มีจุดเด่วคือสะพานไม้ที่ทำขนาดไปกับสวนส้ม 

ทางเข้ามาก็ถือว่าโอเค ที่ไม่โอเค 555555
โอเคที่มาถึงได้ แต่ที่ไม่โอเคคือ ไม่คิดว่ามันจะลื่นขนาดนี้ เพราะก่อนหน้าเรามาถึงไม่กี่นาที มีฝนตกนะสิ ถนนก็เป็นดินเหนียว บวกกับหินก้อนใหญ่ ล้มไปไม่ต้องสืบ ขอบคุณตัวเองที่มีสติมาตลอดทาง 

คนเยอะนะ เราก็มาถึงสายแล้วด้วยแหละ ไม่รอช้าหามุมถ่ายรูปดีกว่า ความลำบากของการมาคนเดียวคือถ่ายรูปนี่แหละ  กว่าจะตั้งกล้องได้ หามุมได้ รูปก็ต้องถูกใจอีก นานและเหนื่อยเป็นพิเศษ 5555555 ..แต่เราชินละ

ไฮไลท์ ‘สะพานไม้’ ของสวนปางฮวา

เราชอบนะ ชอบและหลงเสน่ย์การเที่ยวคนเดียวของตัวเองไปละ เวลาได้เที่ยวคนเดียว รู้สึกมันได้อะไรมากกว่าการได้มาพักผ่อนจริงๆ ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นความกล้า ความบ้า ทำนอกกรอบ และการมีสติของตัวเองขนาดนี้ 

ไม่เคยคิดว่า.. การนั่งดูเมฆลอยไปลอยมา จะทำให้ยิ้มได้ 
ไม่เคยคิดว่า.. การนั่งมองดูดาวจะตื่นเต้นมากกว่าได้เล่นเครื่องเล่นที่สวนสนุก
ไม่เคยคิดว่า.. เราจะกล้าคุยกับคนแปลกหน้า หัวเราะ และเล่นมุกกากๆ
ไม่เคยคิดว่า.. เราแม่งจะเป็นผู้หญิงที่แกร่งและถึก ได้ขนาดนี้ 555555555 

พอๆหยุดๆ จะมาเล่าเรื่องระหว่างทาง เข้าโหมดนี้ได้ไง??

ว่าแต่ถึงไหนละ.. เออ!! เที่ยวสวนป้างฮวาแล้วใช่ป่ะ 

แล้วเราก็ไปสวนดอกเก๊กฮวยต่อ 
ที่ไปต่อไม่ใช่อะไรนะ คือมันอยู่ใกล้กันมากๆ ออกมาจากสวนขับไม่ถึง 500เมตรก็ถึงสวนดอกเก๊กฮวยละ แต่ด้วยเวลาเที่ยงตรง มันร้อนมากกกก ถึงจะมีลมก็เถอะ 

เสียตังค์ค่าเข้าสวน 50บาท 
ไม่มีคนเลยสักคน แต่กลิ่นก็ดอกเก๊กฮวยคือหอมมาก ถ้าตอนนี้ได้กินน้ำเก๊กฮวยเย็นสักแก้วก็คงจะดี..

รูปที่สวนดอกเก๊กฮวยคือสวยถูกใจเรามากกกกกกก.. ได้ถูกใจมาหลายรูปเลย

มีโอกาสก็ควรมานะ เราแนะนำ ถ่ายรูปออกมาคือสีสวยจริง..

หมดเวลาพักผ่อนแล้วววหรอออออ…!! 
ไม่รู้เป็นทริปที่มาชาร์จแบต หรือ ทำให้ชีวิตลำบากกันแน่ 5555 

จบทริปด้วยโปสการ์ดเหมือนเดิม เป็นทริปที่ตามหาโปสการ์ดยากมาก มาเจอที่ไปรษณีที่สนามบินก่อนขึ้นเครื่อง 
Ok ถือว่าเป็นการจบทริปที่ Complete ละ!! 
#CNXAgainANDAlone

-------------------------------------------------------------

สรุปการเดินทาง วันเดินทาง : 3-6/11/2022 (4วัน 3คืน)

จุดหมายปลายทาง : เมืองคอง > ห้วยกุ๊บกั๊บ > ม่อนแจ่ม

ค่าใช้จ่าย : 4,680 บาท...