Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
    • Posts-1
    Chanida •  January 22 , 2016

    2/1/2016 จากกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ ขึ้นรถไฟฟรี ไป “ดอยขุนตาล”

    เริ่มต้นการเดินทางจากกรุงเทพฯ

    ยอมรับว่าช่วงนั้นตั๋วบินแพง เลยไปซบบ่ากับนครชัยแอร์แล้วไปถึงเชียงใหม่เช้าพอดี
    แล้วให้แฟนมาป๊ะกันที่อาเขต คงสงสัยว่าทำไมเราถึงเลือกไปลงเชียงใหม่
    ทำไมไม่ลงลำพูนลำปาง ส่วนนึงเพราะต้นทางรถไฟฟรีที่เลือกนั้นอยู่เชียงใหม่
    และที่สำคัญไม่เคยลองนั่งสายภาคเหนือเลยค่ะ แฮะๆ

    พอไปถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ ที่ดูไว้คือ เที่ยว 9.30 เป็นรถไฟท้องถิ่นวิ่งจากเชียงใหม่ไปนครสวรรค์
    และผ่านสถานีรถไฟขุนตานซึ่งเป็นที่แรกที่จะไปเที่ยว…
    ตอนนั้นอากาศเย็น ลมตีหน้าคือชาแล้วววว แต่สบายมากเลย

    • Posts-2
    Chanida •  January 22 , 2016

    ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงสถานีรถไฟขุนตาน จุดเด่นของสถานีนี้อยู่ที่อุโมงค์ขุนตาน (เป็นอุโมงค์ทางรถไฟลอดผ่านที่ยาวที่สุดในไทย) และเป็นเส้นทางเดียว เวลารถไฟเวลาไล่เลี่ยกัน ต้องรอให้อีกขบวนออกมาก่อน ถือว่าเราโชคดี ได้ดูรถไฟออกจากอุโมงค์พอดี ตื่นเต้นๆ >,< และแวะไว้เจ้าพ่อขุนตาลซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จุดนั้นค่ะ

    • Posts-3
    Chanida •  January 22 , 2016

    จุดหมายแรกของเราคือ “อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล” ถ้านั่งรถไฟมาแบบนี้ ทางขึ้นนี้ติดกับสถานีเลยจ้า เดินเท้าราวๆ 1.3 กิโลเมตร ทางเดินชัน แต่เดินสบายๆคะ แป๊ปนึงก็ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล เป็นอุทยานที่มีความพิเศษตรงที่ติดกับ 2 จังหวัดเลยคือ ลำปางและลำพูน

     

     

    • Posts-4
    Chanida •  January 22 , 2016

    เราจองบ้านพักมาล่วงหน้าแล้ว (บ้านพักราคา 500 บาทต่อคืน) ติดต่อที่ทำการ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปรอที่บ้านพักเพื่อดูแลความสะดวกให้คะ เจ้าหน้าที่ที่นี่น่ารักมาก แนะนำทุกอย่างเลย จะดูพระอาทิตย์ขึ้นตรงไหน กี่โมง พระอาทิตย์ตกกี่โมง ที่สำคัญที่อุทยานนี้มีร้านอาหารและร้านขายของ (ปิดประมาณ 3 ทุ่ม) เพราะฉะนั้นถือว่าไม่ลำบากนะ

    • Posts-5
    Chanida •  January 22 , 2016

    เจ้าหน้าที่แนะนำว่า พระอาทิตย์ตกสามารถดูจากจุดชมวิวตรงที่ทำการได้เลย แต่พระอาทิตย์ขึ้นต้องเดินขึ้น ย.4 ราวๆ 7 กิโลเมตร (หมายเหตุ: ที่ขุนตาลจะแบ่งทางเดินขึ้นไปไปจุดสูงสุด คือ ย.1 ถึง ย.4 ถ้าใครถึงย.4 ถ่ายรูปกับป้ายแล้วมาขอปริ๊นท์ใบประกาศนียบัตรจากที่ทำการได้เลยจ้า ) และควรจะเริ่มเดินตั้งแต่ตี 3 จะไปถึงนั้นใกล้เช้าพอดี ไปดูจะสวยมาก แต่เชื่อมั้ยว่า เราปิ๋วทั้งตกและขึ้นเลย…เพราะอะไรนะหรอ เดี๋ยวบอก 

    เดินจากที่ทำการไปบ้านพัก จะถูกแบ่งเป็นโซนๆของเราจองบ้านหลัง 204 ก็เดินไกลนะ พอถึงห้องเก็บเป๋าเดินลงมากินข้าว ดูวิวเรื่อยเปื่อย ขึ้นไปนอนพักผ่อนที่บ้าน หวังว่าจะลงมาดูพระอาทิตย์ตก…สะดุ้งตื่นกับแฟนอีกที คือ 2 ทุ่ม =*= (ตัวเราเองน่าจะเหนื่อยจากเดินทาง แฮะๆ) เปิดบ้านมาอีกทีคือมืดหมดแล้ว T-T เศร้ามาก มืดจริงๆ เพราะว่าจะมีไฟแค่ตรงบ้านพักนะ ถนนจะไม่มีไฟเลย มืดมากจริงๆจ้า

    คืนนั้นเลยปิ๋วไป กะว่าจะแก้ตัวตอนเช้า ถือไฟฉายจากมือถือเนี่ยละ ขึ้นไปย.4 ให้จงได้ ปรากฏว่าสะดุ้งตื่นอีกทีคือ 7 โมงเช้า คืออะไรเนี่ยยยยยยยยยยยย T-T ปิ๋วทั้งขึ้นทั้งตก จะแก้ตัวก็คงต้องนอนอีกคืน แต่ไม่ได้แล้ว เช้านี้ต้องตรงไปที่อื่นต่อ เลยบอกกับตัวเอง…เราคงต้องพร้อมกว่านี้ ครั้งหน้ามาใหม่นะ!

    พอได้เวลาเดินทาง ตอนแรกก็ว่าจะเดินลงแหละน๊า พอดีบ้านพักข้างๆกันกำลังนั่งคุยกับเจ้าหน้าที่ ภรรยาและเจ้าหน้าที่อาสาไปขี่มอไซด์ไปส่งถึงสถานีรถไฟเลย >,< ขอบคุณมากๆนะคะ บ่นเปรยๆตอนลงว่าอดดู เค้าบอกว่าไม่เป็นไร ดอยขุนตาลต้อนรับเสมอ เอ้ยยย เขิลจัง

    เดี๋ยวครั้งหน้าจะมารีวิวใหม่ แฮะๆ