• เริ่มเดินทางตอนบ่ายครับ ขบวนรถไฟ 109 ขึ้นที่หัวลำโพง
  • ที่นั่งเต็ม ผมและเพื่อนนั่งตรงทางขึ้นรถไฟตลอดทางครับ อากาศเย็นมากตอนกลางคืน
  • นั่งๆยืนๆกันไปตลอดทาง
  • บรรยากาศระหว่างการเดินทางไปขุนตานครับ
  • ถึงสถานีรถไฟขุนตาน แล้วครับ ถึงตอนประมานตี 4 กว่าเกือบตี 5 กว่าจะมีแสงให้ถ่ายรูป ที่นี้บรรยากาศนิ่งมากครั้ง เสียงที่ได้ยินในตอนเช้าคือเสียงไก่ขัน นอกนั่งเงียบมากครับ
  • บรรยากาศสถานีครับ ไม่ใช่ภาพสมัยก่อนนะครับ แต่ผมแต่งภาพเป็นขาวดำ บรรยากาศมันได้
  • นี่บรรยากาศที่สถานีครับ ช้าๆ ไก่ชั้นก้องสถานี
  • สถานีรถไฟขุนตาน นี่คืออุโมงขุนตานครับ กับศาลเจ้าพ่อขุนตาน ต้องไหว้ครับแนะนำ เพื่อเป็นศิริมงคล
  • บรรยากาศสถานีครับ คลาสสิค
  • ทุกอย่างดูช้าไปหมด
  • ความดั้งเดิมขออุปกรณ์สถานี
  • ความดังเดิมของสถานี ยังใช้ได้อยู่นะครับ
  • เห็นรูปปั้นไหมครับ นั้นแหละครับคือทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาน
  • และแล้วก็เริ่มเดินทางไปที่อุทยานครับ จากสถานีรถไฟ สามารถเดินขึ้นไปที่อุทยานได้เลย ใช้เวลาเดินพอสมควรครับ แต่น้องกว่าขึ้นไป ย.4
  • นี่ระหว่งทางขึ้นอุทยาน นี่เพื่อนร่วมทางผมครับ ผมไมไ่ด้บอกมัน เอารูปมาลง แหะๆ ไม่รู้งอนป่าว
  • นี่เป็นบรรยากาศในพื้นที่ทำการอุทยานครับ
  • ส่วนนี้คือ ขั้นบันไดแห่งกอนดอล 55555 ไม่ใใช่ครับเป็นขั้นบันไดที่เดินไปสู่ย. 4 ครับ คุณไปถึงที่นั่นจะรู้เอง
  • ผมกับเพื่อนเริ่มเดินทางขึ้นไป ย.4 ตอนประมาณ 9โมงครับ ลืมบอกไปครับ ที่นี่มีอาหารตามสั่งขายด้วย ถูกครับ ขายอยู่ที่ทำการอุทยาน
  • เริ่มเดินทางกับได้ แรกๆก็จะเป็นขั้นบันไดแบบนี้แหละครับ แต่หลังๆ ดึงและหิน และต้นไม้สองข้างทางเลยครับ
  • ระยะทาง 7 กิโลได้ เป็นทางเดินชันบ้าง ตรงบ้าง นี่ก็บรรยากาศระหว่างทางครับ
  • นั่งพักแป๊บครับ
  • ถึงแล้วครับยอดดอยขุนตาน หรือ ย.4 นี่เอง สูงและสวยมากครับ เสียดายผลไมได่้เอากล้องใหญ่มา
  • จะมีธงปักอยู่ครับ บนโขดหินแห่งชัยชนะ ถ้าคุณไปถึงคุณก็จะเห็น แล้วคุณจะรู้สึกว่าตัวเองคือผู้ชนะ
  • วันที่ผมไปเสียดาย อากาศไม่ค่อยเย็นครับ เพราะไปเดือนตุลา สอบเสร็จก็ไปเลย ผมว่าถ้าปลายฝนต้นหนาวช่วงอากาศเย็นๆ ได้อยู่ มีโอกาศผมจะมาอีกแน่นอนครับ