“ อยากถ่ายรูปอยากนั่งรถไฟเล่น อยากไปน้ำตก กาญจ์ก็ไปมาแล้ว หัวหินก็ไปมาแล้ว มีที่ไหนให้ไปอีกนะ ? ’’

ด้วยความที่เบื่อๆ หลังจากผ่านการสอบไฟนอลอันโหดร้าย ใครเป็นนักศึกษาจะรู้ดีว่าปางตายแค่ไหน 555555 นั่งเสิร์ชหาข้อมูลไปๆ มาๆ รู้ว่าจังหวัดสระบุรีมีรถไฟผ่าน โอเคเอาล่ะ มาดูดีกว่าว่าสระบุรีมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง สรุปแล้วหวยออกที่น้ำตกเจ็ดสาวน้อย เป็นน้ำตกที่เราอยากไปมาตั้งแต่เด็ก ขี่รถผ่านบ่อยๆ ไม่เคยได้แวะซักกะที ครั้งนี้เราต้องไปให้ได้!หลังจากหาข้อมูลเสร็จเรารีบทักไลน์ไปหาเพื่อนในคืนนั้นทันที

“ มึงๆ ไปน้ำตกเจ็ดสาวน้อยกัน นั่งรถไฟไป หมดไม่ถึง 300 แน่ๆ เชื่อกู ”

เพื่อนตอบตกลงแบบไม่คิดชีวิต ประหนึ่งว่าชาตินี้โหยหาการเที่ยวมานานแสนนาน.

 

001

วันนี้วันจันทร์ !

วันนี้วันจันทร์ !!

วันแห่งความรถติดดด

แค่เริ่มทริปก็มีปัญหาแล้วเราออกมารอรถเมล์หน้าปากซอยหอจะไปหัวลำโพงซึ่งจริงๆแล้วเราอยู่ใกล้บางซื่อแต่อยากไปถ่ายรูปเล่นที่นู่นก่อนด้วย เราติดอยู่หน้าปากซอยหอเกือบชั่วโมงคิดแล้วว่าไม่ทันรถไฟรอบ 08.20 แน่ๆ เราเลยเปลี่ยนเส้นทางนั่ง mrt มาลงที่สถานีบางซื่อโดยให้เพื่อนเป็นคนซื้อตั๋วที่สถานีกรุงเทพเพราะเพื่อนอยู่ใกล้กว่า แต่ก็ต้องมาลุ้นกันว่าเพื่อนจะไปทันไหมเพราะรถติดหนักมากทั่วกรุงเลย

เรามาถึงสถานีบางซื่อตอน 08.00 ระหว่างนั้นก็ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยเปื่อย โดยที่เพื่อนเราก็ยังไม่ถึงสถานีกรุงเทพเลย ถึงแม้ว่าเพื่อนมาไม่ทันเราก็จะไปอยู่ดี เป็นเพื่อนที่น่าคบมากแกร 555555

003

สรุปเพื่อนซื้อตั๋วทัน รอบ 08.20 อย่างเฉียดฉิว ไม่คิดว่าจะทันเพราะอีก 5 นาทีรถไฟก็ออกแล้วแค่เริ่มทริปก็มิราเคิลทริปแล้วค่าา เรานั่งรอนางซัก 20 นาทีได้รถไฟก็มาถึงสถานีบางซื่อพอดี

เราขึ้นไปด้านบนก็เจอเพื่อนเราโบกมือเซย์ฮายรออยู่แล้ว 

004

ตามธรรมเนียมปฏิบัติไม่ว่าใครก็ตามหลังจากได้ตั๋วมาแล้วต้องถ่ายเก็บใว้เป็นที่ระลึก โดยเพื่อนเราซื้อตั๋วมาตั้งแต่สถานีกรุงเทพ เราก็ย้ำนักย้ำหนา ว่า " มึงอย่าทำตั๋วยับเด็ดขายเลยนะเว้ย กูจะเก็บใว้ถ่ายรูป " ด้วยความที่เพื่อนเรานางเป็นผู้หญิงที่ไม่ค่อยมีความพิถีพิถันใดๆ เราเลยต้องย้ำอยู่บ่อยๆ 55555555 โดยที่ตั๋วราคาแค่ 50 บาทต่อคนเท่านั้นจาก กรุงเทพ-ชุมทางแก่งคอย ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง

โดยเรา 2 คนมากับขบวนที่ 75 กรุงเทพ-อุบลราชธานี

บนรถไฟขบวนนี้ชาวต่างชาติค่อนข้างเยอะ รวมไปถึงชาวเอเชียที่เป็นคนจีน และเกาหลีก็มีให้เห็นบ้าง โดยหลักๆ แล้วลงที่สถานีอยุธยากันเป็นส่วนมาก 005

นั่งมาไม่นานก็ถึงสถานีอยุธยา ซึ่งสถานีนี้ชาวต่างชาติลงค่อนข้างเยอะ เราเคยมาอยุธยาด้วยรถไฟครั้งนึง ฝรั่งเยอะมากจริงๆ แต่ละคนงานดีทั้งนั้น ทั้งหญิงแลชายส่วนมากจะเป็นอารมณ์แบบ Backpacker

 

006

เรายังไม่ได้กินอะไรมาเลยตั้งแต่เช้า ก็ได้แต่บ่นๆ ว่าทำไมไม่มีของมาขายว่ะ นี่นั่งรถไฟสายใต้ของกินเยอะมาก ทำไมอ่ะทำไม !!  (โมโหหิวเลยเริ่มดึงดราม่า) ซักพักไม่ถึง 5 ไวเหมือนโกหกเพราะกูโกหก 5555555555

พ่อค้าแม่ค้าที่ขึ้นมาจากสถานีอยุธยาเริ่มเดินมาถึงตู้นั่งของเรา เจ้าแรกผัดไทยอยุธยา ถึงจะหิวแค่ไหนขอเซย์โนก่อนเพราะไม่มีน้ำให้กิน อดทนรอไม่ถึง 5 นาที แม่ค้าขายข้าวกระเพราหมูและพ่อค้าน้ำเปล่า ที่กินแล้วไม่เมาก็ได้ปรากฏตัว (สโลแกนของลุงแก แหงละน้ำเปล่าจะเมาได้ไงวะ) เรากับเพื่อนจัดมาคนละกล่อง กล่องละ 20 บาท และน้ำเปล่า 1 ขวด ในส่วนของรสชาติ ตอนนี้โนสนโนแคร์ เพราะหิวมาก !!007

กินเสร็จหนังตาก็เริ่มตึง ไม่ได้ ! เราจะหลับไม่ได้เราต้องนั่งชมวิว อ่านหนังสือ ถ่ายรูป และชมวิถีชีวิตของคนบนรถไฟก่อนเพราะมันต่างกับนั่งรถทัวร์หรือนั่งเครื่องบินแน่นอนๆ  ที่นั่งข้างๆเรา เป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกที่น่าจะกลับบ้านที่อีสาน มากันเป็นครอบครัวเลย และถึงแม้จะมีเด็ก เด็กก็ไม่ได้ดื้อและร้องเสียงดังเลย เค้าจะนั่งเฉยๆ มองนู่นมองนี่ด้วยความตื่นเต้น ตามประสาเด็ก

008

10.45 ถึงแล้วสถานีชุมทางแก่งคอย รถไฟเลทไป แค่ 15 นาที โอเครับได้

ก่อนจะไปขึ้นรถไปน้ำตกขอถ่ายรูปกันก่อน อัดอั้นตันใจมานานไม่ได้ถ่ายรูปที่หัวลำโพงกัน พอมาถึงที่แก่งคอยเจอรถไฟจอดอยู่ มีหรือจะไม่ขึ้นไปถ่ายของแบบนี้มันพลาดไม่ได้เด้ออ 555555555555

 

009

หลังจากถ่ายรูปเสร็จสรรพ เราและเพื่อนเดินออกมาหน้าสถานีรถไฟเพื่อที่จะไปรถสองแถวไปน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ระยะทางการเดินประมาณเกือบกิโลได้ จากหน้าสถานีตรงยาวมาเรื่อยๆ จะเจอเซเว่น เดินเลยเซเว่นไปแค่นิดเดียวก็เป็นสี่แยกแล้วให้เลี้ยวขวา เดินประมาณร้อยเมตรจะเจอศาลาให้นั่งรอรถ ตรงนี้รถไม่ได้ติดนะ แต่เค้าจอดรถเรียงกันกลางถนนเลย ไม่รู้ว่าทำไมถึงจอดกันตรงนี้ มองไกลๆนึกว่ารถติดเหมือน กทม. เลยบอกได้เลยว่าหลอนเรื่องรถติดตั้งแต่เช้าแล้วครับ กลัวไปน้ำตกไม่ทัน 5555555555แวะซื้อน้ำที่เซเว่นก่อน ร้อนเหลือเกินค่ะซิส ณ จุดจุดนี้ 010

เดินมาเรื่อยๆ จนถึงศาลาหน้าวัดแก่งคอยความร้อนนี้ประดุจไฟจากนรกนี่ยังคุยกับเพื่อนว่ามันร้อนเพรราะเเดดหรือเพราะเรามานั่งหน้าวัดว่ะมึง 55555555 ร้อนแบบออกรสมาก

โดยรถที่จะไปน้ำตกเจ็ดสาวน้อยจะมีแบบเป็นรถสองแถวคันเล็กๆ และรถบัสหวานเย็นอันไหนมาก่อนก็ไปอันนั้นแหละรอไม่นาน011

ผ่านไปประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงรถสองแถวไปน้ำตกเจ็ดสาวน้อยก็มาถึงซะที ค่าโดยสาร 30 บาทต่อคนเท่านั้นระยะทางประมาณ 30-40 กิโลได้ ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ เกือบ 1 ชั่วโมง

012 รถออกจากตัวเมืองแก่งคอยวิ่งเข้าสู่ถนนมิตรภาพ ถนนที่เราคุ้นตาเพราะเวลากลับบ้านที่ต่างจังหวัดก็ผ่านตลอด แต่ความรู้สึกมันไม่เหมือนกันนะบอกเลย ตอนนี้ความรู้สึกประหนึ่งว่าตัวเองเป็นนักท่องเที่ยว วีไอพี มาจาก กทม. ทุกๆ คนล้วนให้ความสนใจพวกเรา 5555555555555 ชี้นู่นชี้นี่ให้เราถ่ายรูป เราก็ต้องเออถ่ายก็ถ่ายเดี๋ยวป้าจะเสียใจ 555555555ผ่านพระใหญ่่ป้าก็ชี้นี่ๆ นะถ่ายเลย อันนี้สวยเคยเห็นไหมวัดนี้ดังมากนะ ไอ่เราก็ถ่ายๆ ไป  จนเพื่อนกระซิบข้างหู มึงไม่เคยเห็นหรอผ่านบ่อยจะตายวัดนี้เราเลยกระซิบกลับไปเบาๆ "กลัวป้าเสียใจอ่ะมึง" 5555

 

013

เริ่มเข้าสู่ตัวเมืองมวกเหล็กแล้ว คนเริ่มทะยอยลงกันตอนนี้ทั้งรถถ้าไม่นับคนขับกับป้าที่เป็นกระเป๋าก็มีแค่เรากับเพื่อน 2 คนเท่านั้น วีไอพีไปอี๊กกก

 

014

ในที่สุดก็มาถึงซะที ก่อนลงรถป้าคนเก็บเงินบิ๊วเราหนักมากว่าเนี่ยต้องมาขึ้นรถป้ารอบบ่าย 2 นะ ไม่งั้นไม่ทันรถไฟกลับพร้อมป้าทันรถไฟทุกคน ฮัลโหลนี่ก็เที่ยงแล้วเด้อ ให้เล่น 2 ชม. เองหรอครับ  ป้าขายของเก่งไปอี๊กกก 555  ก่อนมาเราเช็คตารางรถไฟละเอียดมาก อยู่ได้จนถึง 4 โมงเย็นยังไงก็ทันครับ

ขอถ่ายกับป้ายหน่อย ท่าประจำท่าหากินของเรา นึกไรไม่ออกกางแขนกางขาเหมือนเขียดกำลังจะตายทันที 55555 015

เราเดินเข้ามาในอุทยานบรรยากาศดีมากต้นไม้เยอะดี และที่ดีไปกว่านั้นคือเราได้เข้าฟรี ! ตอนแรกนึกว่าจะได้เสียเงิน ช่างตอบโจทย์ Backpacker แบบฉันจริงๆแกรเอ้ยย 

016

ช่วงนี้น้ำไม่ค่อยเยอะ คนก็ไม่เยอะซักเท่าไหร่คงเป็นเพราะเรามาวันจันทร์ด้วย เดินเล่นเดินถ่ายรูปกันไปเรื่อยเปื่อย จบด้วยการเล่นน้ำคลายร้อนกันหน่อย เพราะกว่าจะมาถึงเฟิร์มได้เลยว่าถ้าใครแต่งหน้ามาจัดๆเยิ้มแน่นอน มีให้เห็นเป็นตัวอย่างคือเพื่อนเราเลย 5555 นางจัดเต็ม คอนเฟิร์มได้เลยว่านางต้องสวยที่สุดในน้ำตก

แอบสะดุ้งเบาๆ ของจริงตัวใหญ่มาก นี่เกือบเดินชน 5555555 มีสะพานให้ข้ามไปอีกฝั่ง

 

017

ร้อนมากไม่ไหวแล้วเด้อ ขอลงเล่นน้ำก่อนโดยเรมาเล่นกันที่ชั้น 7 มั้งไม่แน่ใจแต่น่าจะเป็นชั้นสุดท้ายแล้วแหละเราก็ลืมๆ 555555555 ชั้นนี้คนค่อนข้างเยอะกว่าทุกชั้นหน่อยจะถ่ายรูปทีลำบากมากคนเต็มเฟรมไปหมด

 

018

เล่นน้ำกันจนเหนื่อยความหิวก็เริ่มมาเลยขึ้นมาหาอะไรกินกันข้างๆน้ำตกจะมีร้านอาหารอยู่ 2-3 ร้าน ราคาก็กลางๆ เราสั่งกะเพราหมูสับไข่ดาวคนละจาน แล้วก็ต้มยำกระดูกอ่อนอีก 1 ถ้วย หมดนี่ 190 บาทรวมน้ำเปล่าและน้ำแข็งแล้ว

แต่ขอบ่นออกสื่อหน่อย ป้าทำช้ามากกกกก กับข้าวแค่นี้ไม่มีลูกค้า ป้าทำครึ่งชั่วโมงกว่า อมก.หิวจนตาลายย

 

019

หลังจากกินข้าวเสร็จแบบไม่ค่อยอิ่มเท่าไหร่ 555555 

เรากับเพื่อนเลยตกลงว่าจะกลับกันโดยออกไปรอรถหน้าน้ำตกเหมือนเดิม

ก่อนกลับถ่ายกับป้ายหน่อยมีร้านอาหารตรงที่จอดรถ มีเสื้อผ้าเล่นน้ำ มีของฝาก ทุกอย่างรวมอยู่ตรงนี้แล้ว020 ออกมาหน้าอุทยานก็มีรถบัสจอดรออยู่แล้ว เราออกมาถึงด้านหน้ากัน 4 โมงเย็นถ่ายรูปเล่นครึ่งชั่วโมงรถก็ออกโดยทั้งคันมีแค่เรากับเพื่อน แล้วก็พี่อีก 2 คนไม่แน่ใจเค้าเป็นแฟนกันไหม 5555 มาจาก กทม.เหมือนกันชอบเที่ยวเหมือนกัน021

สิ่งนึงที่เราชอบทำมากๆ เวลาไปเที่ยวคือจดบันทึกลงสมุดบันทึก เวลาที่ย้อนกลับมาอ่านมันมีความสุขนะ มันเหมือนเราเขียนเรื่องราวแบบเรียลไทม์ลงในบันทึก พอต้องกลับมาอ่านมันก็จะคิดถึงความรู้สึกแบบเดิมๆ ตอนที่อยู่ตรงนั้น เก็บความทรงจำตรงนั้นใว้ ว่า ณ เวลานั้นเรารู้สึกอะไร

022

เราพึ่งรู้ว่าเราสามารถนั่งรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟมวกเหล็กได้เลยแล้วรอรถหน้าสถานีเพื่อไปน้ำตกขากลับเราเลยนั่งรถบัสหวานเย็นไปลงสถานีมวกเหล็กเพื่อรอรถไฟฟรีรอบ 17.30 ตามคำแนะนำของพี่ที่เราพึ่งเจอเพราะเราวานให้พี่เค้าถ่ายรูปคู่กับเพื่อนให้ 55555555 จากน้ำตกมาหน้าสถานีรถไฟมวกเหล็กแค่ 15 บาทเท่านั้น

บรรยากาศรอบๆ สถานีคือสวยมากในส่วนของห้องต่างๆ ทาเป็นสีเหลืองตัดแดงและหน้าสถานียังมีสระน้ำและสวนหย่อมด้วย รวมถึงปลูกดอกไม้ตรงทางขึ้นสถานี ดอกบานสวยมาก

023

มาถึงสถานีเราก็เข้าไปรับตั๋วฟรีซึ่งมีเฉพาะคนไทยนะขั้นตอนก็ง่ายๆเลยแค่ยื่นบัตรประชาชน

รถไฟมาประมาณ 17.30 ระหว่างรอรถไฟเกิดมีอารมณ์อยากชิคขึ้นมาจึงลงไปซื้อเบียร์มากันคนละป๋องนั่งกินมันตรงสถานีรถไฟนั่นแหละ 5555 อย่าทำตามนะเพราะตอนเรากินไปครึ่งกระป๋องเเล้วพึ่งเห็นว่ามีป้ายห้ามดื่มแอลกอฮอล์บริเวณสถานีรถไฟ เรากับเพื่อนเลยรีบยกจนหมดไม่มีเหลือ 55555555

 

024

17:48 รถไฟมาแล้วเลทไปเกือบ 20 นาที ซึ่งขบวนนี้น่าจะมาจากอุบลหรือไม่ก็หนองคาย จำไม่ได้จริงๆ เมาเบียร์ 1 กระป๋อง บ้าบอจริงๆ 555555 และอีกอย่างนึงที่เราชอบคือรถไฟที่ผ่านหลายๆจังหวัดตัวรถจะยาวมาก เราชอบมากเวลาที่รถไฟโค้ง 

 

025

พอขึ้นมาบนรถไฟมีอยู่สิ่งนึงที่ทำเราตกใจมาก ย้ำว่าตกใจมากจริงๆ เราขึ้นรถไฟมาเกิน 20 ครั้งส่วนมากจะไปทางสายใต้เพราะบ้านพ่อเราอยู่ภาคใต้ ส่วนแม่เราอยู่อีสาน เวลากลับบ้านที่อยู่อีสาน เราก็นั่งรถทัวร์ตลอดไม่เคยนั่งรถไฟสายอีสานเลยเพราะจังหวัดเรารถไฟไม่วิ่งผ่านเส้นทางช่วงสระบุรี-ปากช่อง คือนั่งมาบนรถยนต์ว่าสวยแล้ว ยิ่งนั่งเวอร์ชั่นรถไฟสวยยิ่งกว่า เพราะรถไฟวิ่งด้านข้างถนนซึ่งอยู่ข้างล่าง ซึ่งอยู่ท่ามกลางหุบเขาเลย 

มันมีความสุขมากๆ แบบบอกไม่ถูกเลยจริงๆ เรากดชัตเตอร์แบบรัวมากๆ ซึ่งจากรูปที่ออกมาเราว่าเห็นเองกับตาสวยกว่ามาก ๆ เลย

จุดนี้ถ้าใครกลับ ตจว. บ่อยๆ ช่วงโรงงานปูนตรงถนนมิตรภาพคงไม่เคยไม่มีใครเห็นองค์พระพุทธรูปที่ยืนอยู่ รอบนี้เราเห็นจากด้านหลังท่ามกลางหุบเขาเป็นภาพที่สวยจริงๆ 

026

พอผ่านช่วงนี้ไปเราก็หลับยาวจนถึง กทม. ทริปนี้จบไปแบบสนุกถึงแม้จะมีเรื่องให้ระทึกใจตลอดทริป ถึงแม้ว่าอากาศจะร้อน สุดท้ายเราก็ได้ความสุขเต็มๆจากทริปนี้ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถไฟชมวิวระหว่างทางหรืออะไรก็ตามแต่ รีวิวแต่ละรีวิวที่เราได้ทำขึ้นมา เราทำเพื่อเป็นแนวทางให้คนที่ไม่เคยไป ไม่กล้าตัดสินใจไป หรือคนที่กำลังหาข้อมูลอีกทั้งยังอยากจะบอกให้เราหลายๆคนรู้ใว้ว่าการเที่ยวไม่จำเป็นต้องมีเงินเยอะเลย มีเเบงค์ร้อยแค่สามใบก็ซื้อความสุขเต็มๆได้ 1  วันแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้หรูแต่เชื่อสิ ทุกครั้งที่เราเก็บกระเป๋าเดินทาง ไปที่ต่างๆ คนรอบข้างเราทุกคนล้วนอยากมาแบบเรา ทั้งๆที่บางคนก็มีเงิน แต่ไม่กล้ามาทำอะไรแบบนี้ การจะใช้ชีวิตให้คนอิจฉาเราเชื่อแล้วว่าไม่จำเป็นต้องมีเงินทองมากมายก็สามารถทำได้

ท้ายที่สุดหลังจากอ่านรีวิวนี้จบ ช่วยกดไลก์เพจเป็นกำลังใจให้เรา กดแชร์รีวิวนี้เพื่อให้เพื่อนๆคนอื่นๆ ได้มีโอกาสได้เห็นรีวิวนี้ด้วยเผื่อใครกำลังมองหาวิธีการเดินทางแบบง่ายๆชิคใช้เงินแค่ไม่กี่บาท ;)

https://www.facebook.com/whonotgoamgo/