สวัสดีเพื่อนๆ ชาว theTripPacker อีกครั้งค่ะ Journey Travel With us พร้อมรีวิวแล้ว...

ปลีกตัวมาอัพเดตผลงานกันหน่อย จะได้ไม่ลืมกัน ฮ่าาๆ รีวิวนี้เป็นฉบับที่เจ็ด หลังจากห่างหายไปหลายเดือน เพิ่งจะผ่านฤดูร้อนกันมาหมาดๆ เข้าสู่ต้นฤดูฝนจริงแล้ว // ใครว่าหน้าฝนเที่ยวทะเลไม่ได้ละ ?!? จริงๆแล้วเราสามารถเที่ยวทะเลได้ทุกฤดูนั่นแหละ แค่โดนฝนเท ไม่ได้ทำให้ใจเราเซ สักกะหน่อย

       รีวิวฉบับนี้เราไปเที่ยวตั้งแต่เมื่อช่วงสิ้นปีที่แล้ว แต่รีวิวเพิ่งจะมา อาจล่าช้าไปหน่อย แต่อร่อยแน่นอน 55555555 ใครยังไม่พร้อมไปหน้าฝน ก็เก็บข้อมูลไว้แน่นๆไปตอนหน้าหนาวก็ดีหรือหน้าร้อนก็โดน "เกาะช้าง อยากไปมานานแล้ว" เป็นประโยคที่พูดกับแฟนบ่อยๆ จนนางลำไย ลองกอง ถือโอกาสเหมาะๆในวันครบรอบ 5 ปี ไปฉลองเลยละกัน เวลาน้อยหน่อย แต่ไม่กร่อยแน่นอน 2 วัน 1 คืน เราไปเที่ยวไหนกันบ้าง ตามมาดูกันเล้ยยยย . . .

.

.

เราออกเดินทางในตอนเช้ามืดของวันที่ 25 ธันวาคม 2559

ช่วงปลายปีที่แล้ว มุ่ ง สู่ จั ง ห วั ด ต ร า ด

ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง เราก็ถึงตราดแล้ว... เฮโหลววววววววว ~

ขับสนุกลุกนั่งสบาย คือผิดคาดมากจริงๆ เพราะจำได้ว่าตอนที่จองที่พักขึ้นเต็มอยูู่หลายที่เหมือนกัน นึกว่าวันนี้คนจะออกมาเที่ยวกันเยอะซะอีก !!!!! เนื่องจากเป็นวันคริสต์มาสด้วย แต่ก็ไม่แน่ บางคนก็อาจจะรอไปเที่ยวปีใหม่เลยก็เป็นได้ แต่โล่งแบบนี้เราก็ชอบคะ ไม่มีคนแย่งเที่ยว ฮี่ฮี่ ถ้าขับเข้าตราดแล้วเจอสัญลักษณ์คล้ายจานบินแบบนี้ แสดงว่าเราใกล้จะเข้าเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างกันแล้วค่ะ

เข้าสู่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างเป็นที่เรียบร้อย ขับตามทางไปเรื่อยๆเราจะเจอป้ายบอกทางไปท่าเรือเฟอร์รี่ค่ะ

ไม่กี่นาทีเราก็ถึงท่าเรือ..ขับเข้ามาก็เสียตังค์เลย 55555 ด่านเก็บตังค์ค่าเอารถขึ้นเรือกับค่าโดยสารบุคคล พอจ่ายเสร็จเราก็เจอกับด่านที่สองค่ะ ด่านตรวจตั๋ว

หลังจากชำระเงินพร้อมตรวจเรียบร้อยแล้ว เราก็ขับรถมารอขึ้นเรือกันค่ะ โล่งมากมั้ย ไม่มีคนเลย เราคันแรก 55555

รออยู่แปปเดียว เรือก็มาจอดเทียบท่าคะ วิวดีจริงๆคันแรกก็เงี้ยะ ภูเขาที่เราเห็นข้างหน้านั่นแหละ คือ จุดหมายของเราวันนี้

เรือลำใหญ่พาเราแล่นมาเรื่อยๆ บ้างก็ติดเครื่องนั่งรออยู่ในรถ บ้างก็ดับรถขึ้นไปชมวิวบนเรือ มาถึงที่แล้วเราต้องทัวร์ให้ทั่ว ขึ้นไปชมวิวข้างบนดีกว่า ~!!

แล่นมาไกลพอสมควร...ใกล้จะเทียบฝั่งแล้ว เราเตรียมลงไปติดเครื่อง รอบนรถเลย เพราะเราต้องออกคันแรก

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่พอขึ้นฝั่งมาแล้ว จุดหมายแรกๆก็คงอยู่ที่ชายหาดสวยๆและน้ำทะเลใสๆ เลี้ยวขวาไปเกาะช้างเหนือ แต่หารู้ไม่ เลี้ยวซ้ายไปเกาะช้างใต้ เราจะได้เห็นความเป็นธรรมชาติจริงๆ ความเป็นอยู่แบบวิถีชาวบ้านจริงๆ เรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์ใหม่แบบนี้ก็ดีค่ะ แลนด์มาร์คแรกของเราก็คือ ป่าชายเลน บ้านนาใน สลักเพชร เหมาะสำหรับคนที่อยากมาสัมผัสธรรมชาติแท้ๆบนเกาะช้าง น้อยคนนักที่จะรู้จัก

การเดินทางมายังป่าชายเลน คือ ให้เราสังเกตวัดสลักเพชรจะอยู่ด้านขวามือ ให้เรามองซอยทางเข้าเล็กๆที่อยู่เยื้องๆกับวัด ทางด้านซ้ายมือ มีป้ายเขียนทางเข้าป่าชายเลน บ้านสลักเพชรอยู่ เมื่อเลี้ยวเข้ามาแล้วก็ให้ขับตรงไปตามทางเรื่อยๆ เส้นทางแคบและเป็นดินแดงลูกรัง รถสวนเข้าออกกันลำบากค่ะ ส่วนใหญ่เราจะเจอฝรั่งขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาเที่ยวกัน ไม่ค่อยมีรถยนต์ ถ้ามาในช่วงหน้าฝน ทางอาจจะเละกว่านี้ค่ะ

ขับเข้ามาจนสุดทาง ไปต่อไม่ไปแล้ว นั่นแหละจอดเลยจ้าาาา...ถึงแล้ววว

เรามาอ่านแผนผังเส้นทางการเดินกันสักหน่อย

ตลอดสองข้างทาง ในบรรยากาศของป่าชายเลน ร่มรื่นเป็นช่วงๆค่ะ บางช่วงไม่มีต้นไม้ขึ้นมาบังแดดเลย ยิ่งถ้าไปตอนกลางวันแดดจัด หัวพี่นี่ร้อนเลยจ้าา 55555 พกร่มมาด้วยก็ดีน้าา แต่ฝรั่งยูไม่กลัวแดดกันเลย เดินกันชิลล์มาก อินี่เหงื่อไหลอย่างกับก๊อกแตก

สะพานเริ่มทรุดโทรมและหล่นหายไปบ้าง โปรดระมัดระวังขณะเดินเท้ากันด้วยน้าา...

บางช่วงมีต้นไม้รูปร่างแปลกตา ลักษณะโน้มเอียงเข้าหากันเป็นซุ้มสวยงามน่าถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

เราเดินมาเรื่อยๆ เหงื่อไหลไคล้ย้อยแบบพลั่กๆ 55555 จนเกือบถึงกลางทาง เรียกได้ว่าเป็นจุดไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ มีลักษณะเป็นบริเวณกว้าง ไม่มีร่มไม้ เป็นทุ่งโปร่งทองสีเขียวประกายเหลืองทอง ยิ่งได้ปะทะกับแดดจัดๆ จะสวยงามมากกกกกกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) ประกอบกับฉากหลังที่เป็นทิวเขาทอดยาว และสีแดงจางๆของสะพานทำให้ยิ่งตัดกัน บังเกิดเป็นฉากถ่ายรูปดีดีนี่เอง

เราไม่ได้เดินเข้าไปต่อ เลยพลาดอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่อีกจุดในแผนผังอยู่จุดที่ 4 ถ้าเดินต่อไปอีกหน่อยเราจะพบกับปากอ่าวที่เชื่อมต่อกับทะเล เห็นรีวิวหลังจากกลับมาก็โคตรเสียดายเลย วิวมันดีมากจริงๆ

ขณะนี้เวลาเที่ยงกว่าแล้วจ้าา แดดเปรี้ยงมากจริงๆ ลมไม่มีกระดิกสักนิด เห้ยแกร์ ~ บอกฉันที..นี่มันช่วงสิ้นปีมันควรจะเริ่มเย็นได้แล้วปะหว่าาา? เราบึ่งรถกลับไปเที่ยวยังฝั่งเกาะช้างเหนือต่อเลยค่ะ เที่ยวน้ำตกคลายร้อนกันหน่อย เผื่อจะเย็นขึ้นมาบ้าง

เราแวะมาเติมความเย็นกันที่ น้ำตกคลองพลู

เราต้องเดินเท้าเข้าสู่น้ำตกไปอีกประมาณ 500 เมตร ค่ะ

น้ำตกคลองพลู เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีอยู่ 3 ชั้น สภาพป่ารอบๆ สมบูรณ์ดีมาก มีธารน้ำแยกจากคลองพลูหลายสาย มีแอ่งน้ำให้เล่นอยู่หลากหลายจุด แต่เราจะเดินไปให้สุดยังชั้นบนสุดเลย ลักษณะทางขึ้นมีชันสลับเรียบบ้าง พื้นเป็นดินและหินผสมปนกันไป โดยส่วนมากทั้งลื่นและเปียกชื้น โปรดระมัดระวังเดินดูทางกันด้วยน้าา

ส่วนใหญ่เท่าที่เห็น ฝรั่งเขาฮิตมากระโดดน้ำเล่นกันบริเวณนี้กันเยอะคะ น้ำนี่เย็นเจี๊ยบเลย ขนาดไม่ได้ลงไป แค่ยืนใกล้ๆก็สัมผัสได้ถึงความเย็นของน้ำตกที่นี่

เรามายืนถ่ายรูป ซึ่งก็ห่างจากจุดที่น้ำตกไหลกระเซ่นลงมา ลมพัดแรงมากโดยเฉพาะช่องแคบๆที่อยู่ข้างหลังเรา เย็นมากจริงๆ แม้แดดจะเปรี้ยงมากก็ตาม

ร่มรื่นภายใต้เงาร่มไม้และความเย็นของน้ำตกได้สักพัก ได้เวลาเดินกลับออกไปเช็คอินเข้าที่พักกันแล้ว !!!

แล้วที่พักของเราในคืนนี้ นั่นก็คือ ไก่แบ้ บีช รีสอร์ท เกาะช้าง ตั้งอยู่ในย่านหาดไก่แบ้ในเกาะช้าง ห่างจากหาดไก่แบ้เป็นระยะทางรวมกว่า 800 เมตร โรงแรมจะอยู่ติดหาด และใกล้กับจุดชมวิวหาดไก่แบ้ด้วย

เดินมาเช็คอินยังจุดบริการลูกค้า เพื่อรับกุญแจห้องพักและคูปองอาหารเช้าฟรี สำหรับวันพรุ่งนี้ค่ะ

มีสระว่ายน้ำขนาดย่อมๆ กลางแจ้ง ให้ได้ลงกระโดดเล่นน้ำกันด้วย

ห้องพักทางฝั่งนี้จะเป็นโซนใหม่ ห้องใหม่เพราะเพิ่งสร้างเมื่อไม่นานมานี่ ฝั่งนี้ก็จะได้เห็นวิวมุมสูง ที่มองออกไปทางระเบียงเป็นวิวทะเลและชายหาด มองมาจากทะเลด้านหลังที่พักเป็นวิวภูเขา

แต่ที่พักโซนเราจะเป็นสไตล์แบบบังกะโล สภาพห้องค่อนข้างใหม่มากๆ เพราะเขาเพิ่งจะรีโนเวท ปรับเปลี่ยนการตกแต่งห้องใหม่ เราอยุู่แถวที่สองรองจาก ห้องที่ติดหน้าหาด เดินออกไปนิดนึงก็สามารถลงเล่นน้ำได้เลย

มีพื้นที่ให้นั่งเล่นหน้าห้องพักด้วย และชั้นบนมีเปลและเก้าอี้นั่งพลาสติก สามารถนอนเอนหลัง รับลมเย็นๆได้เหมือนกัน และที่ขาดไม่ได้คือ Free WiFi ด้วยจ้าาาา

ภายในเป็นห้องแอร์ มีเตียงขนาดใหญ่ ตู้เสื้อผ้า ตู้เซฟนิรภัย ตู้เย็นขนาดเล็ก โทรทัศน์ โต๊ะเครื่องแป้ง ที่ตากผ้าเช็ดตัว ชอบสุดตรงที่มีพัดลมด้วย ส่วนใหญ่ห้องพักที่เป็นห้องแอร์ จะไม่มีพัดลม ซึ่งตอบโจทย์และประหยัดเวลาในการรอผมแห้ง ก็ผู้หญิงอะเนอะ กว่าจะได้นอน จนหลังๆต้องพกไดร์เป่าผมไปด้วย

มีโทรทัศน์ และห้องน้ำส่วนตัว

ห้องน้ำกว้างขว้างดีคะ มีอ่างไว้นอนแช่ด้วย สะอาดสะอ้านดีค่ะ

เปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมออกมาเดินเล่นหน้าหาดกันละค่ะ ลักษณะชายหาดที่นี่ จะเป็นทรายขาวละเอียด ซึ่งล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ บรรยากาศดี เงียบสงบ เป็นส่วนตัวดี ส่วนใหญ่เราจะเจอแต่ฝรั่งที่นอนอาบแดดกัน คนไทยไม่ค่อยมีเท่าไหร่ ฝรั่งที่นี่เขาเฟรนลี่ดีค่ะ มีทักทายกันบ้างประปราย เอ๊ะ...นี่เราอยู่เมืองไทยช่ายมะ 55555555

อยู่เกาะช้าง ก็ต้องเจอช้าง เป็นเรื่องปกติ

และข้างหลังของเราสองคน ก็คือวิวของที่พักเราค่ะ

แอบซนอีกไปปีนต้นมะพร้าว กะจะขโมยลูกมะพร้าวมาเฉาะกินสักหน่อย ไม่มีใครเห็นหรอกเนาะ อิอิ

หาทำเลนั่งปะทะแดดกันค่ะ 5555555 จากที่เกรียมอยู่แล้ว ให้มันไหม้เข้าไปอีก

พระอาทิตย์ใกล้จะตกลงทุกที เป็นเวลาออกมาเดินเล่นเรียบๆเคียงๆใกล้ๆชายหาด

แสงสุดท้ายร่วงหล่นไปแล้ว แสงสวยมากจริงๆค่ะ ช่วงเวลานี้มักจะแสนสั้นเสมอ

ได้เวลาทานอาหารมื้อค่ำกันค่ะ เนื่องจากตั้งแต่เราเดินทางมาถึงเกาะช้าง เรายังไม่ได้หาอะไรอร่อยๆทานแบบเป็นกิจลักษณะ มีแต่ขนมคบเคี้ยวที่ซื้อมารองท้องไปพลางๆ ซึ่งเราเที่ยวเพลินจนลืมกินข้าวไปเลย ค่ำนี้เราเลยขอฝากท้องกันที่ ร้านไอยราซีฟู้ด

ร้านอาหารบนเกาะช้างมีให้เราได้เลือกหลากหลายร้านค่ะ ซึ่งร้านนี้ไม่ได้อยู่ติดถนนเส้นคลองพร้าว แต่จะมีป้ายบอกชื่อร้านอยู่ตรงทางเข้า ทางแคบหน่อย ต้องเลี้ยวเข้าซอยมาสักเล็กน้อยค่ะ ที่จอดรถมีไม่มากนัก

ผิดคาดมากจริงๆ คิดว่าคนจะเยอะ เพราะวันที่เรามา ดันตรงกับวันคริสต์มาส ซึ่งเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองของฝรั่งและยังเป็นวันฉลองครบรอบ 5 ปี ของเราทั้งคู่ด้วย ดีเลย คนโล่งๆแบบนี้ สั่งอาหารแป๊ปเดียวก็ได้กินแล้ว

เอาบรรยากาศของร้านมาให้ได้ชม หลายๆมุมค่ะ เผื่อเป็นตัวเลือกในการมารับประทานอาหารเย็นบนเกาะช้าง

ร้านอยู่ริมน้ำ ถ้ามาตอนเย็นอาจจะได้เห็นวิว มีเรือบริการฟรีให้ไปชมหิ่งห้อยด้วยนะ

ที่ร้านประดับไฟ และต้นคริสต์มาสด้วย ช่างเข้ากับเทศกาลแห่งความสุขแบบนี้จริงๆ

เราเข้ามานั่งด้านในสุดของร้านเลยค่ะ เป็นที่นั่งแบบเปิด ไม่มีหลังคา ส่วนด้านในจะแบ่งเป็นสองแบบ แบบนั่งเก้าอี้ กับนั่งกับพื้นโดยมีหมอนรองก้นด้วย ก็จะติดกับริมบึงน้ำ ถ้ามาช่วงเย็นๆพอมีแสงหน่อย ได้เลยมุมนี้

ที่นี่มีเมนูให้เลือกหลาก หลาย ทั้งอาหารไทย ซีฟู้ด ฯลฯ เราสั่งอาหารกันแบบบ้าคลั่งมากๆ 555 สงสัยจะหิวจัดอะ คือนี่มากันสองคนนะ ไม่มีใครห้ามใครเลยตอนสั่งเนี้ยะ - -" โดยเมนูที่เราสั่งมาทานมีทั้งหมด 7 อย่างด้วยกันค่ะคุณ เริ่มจากเมนูแถวบนก่อนเน้อะ

  • ต้มยำน้ำใสรวมมิตร
  • ข้าวผัดน้ำพริกกุ้งสด
  • เนื้อปูผัดผงกระหรี่
  • ปลาม้วนไอยรา
  • ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์
  • ทอดมันกุ้ง
  • ข้าวผัดกุ้ง

อาหารถือว่าอร่อยถูกปากคนไทยแน่นอน เสิร์ฟเร็วไม่ต้องรอนาน ราคากลางๆไม่ถูกไม่แพง เป็นอีกหนึ่งร้านบนเกาะช้างที่อยากให้มาลิ้มลองความอร่อยกันค่ะ

กลับมายังห้องพัก...ก่อนจะนอนขอเนรมิตรตัวเองแต่งตัวให้เข้าธีมวันคริสต์มาส สักหน่อย พร้อพเราขนมาเยอะมากจริงๆ 555555 เอามาเล่นหน่อย ก่อนนอนคืนนี้ฝันดีราตรีสวัสดิ์ค่ะ

 

ฮ๊ายยยยยยยย . . . S e a M o r n i n g

เช้านี้ตื่นมาชมวิวสวยๆ ณ แหลมไชยเชษฐ์ กันค่ะ ตั้งภายในไชยเชษฐ์ รีสอร์ท หาดคลองพร้าว ซึ่งอยู่ติดต่อกับหาดไก่แบ้เลย ขับรถออกมานิดเดียว มีป้ายบอกทางเข้ารีสอร์ท ที่นี่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของรีสอร์ท แต่เราสามารถเดินเข้าไปชมวิวได้ เพราะเราต้องจอดรถและเดินผ่านรีสอร์ทเข้าไปทางด้านหลังค่ะ

หาดทรายบริเวณนี้มีความลาด สามารถลงเล่นน้ำได้ ลักษณะชายหาดกว้าง สร้างความร่มรื่นแก่ท่านที่มานั่งบริเวณนี้

เรามาถึงกันตอน 7 โมงเช้าค่ะ เดินซุ่มๆมาตามป้ายบอก ตอนเช้าที่นี่เงียบสงบมาก

เจอแล้ว . . . จุดชมวิวแหลมไชยไชษฐ์

ออกกำลังกันแต่เช้าเลยวันนี้ ปีนป่ายกันขึ้นไปสักเล็กน้อย หอบแฮ่กๆ

มีบันไดให้ปีน ดีตรงนี้แหละ เจอบันไดสองต่อเลย ก็สูงอยู่พอสมควร แอบหวิวหน่อยๆ

แทน แท่น แท๊นนนนนนนน . . .

วิวอลังการมากค่ะ ณ จุดจุดนี้ น้ำใสมากจนเห็นโขดหินด้านล่าง น้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวตัดกับโขดหิน ถ้าได้มานั่งชมพระอาทิตย์ตกดินคงจะฟินไม่น้อย

บริเวณนี้ไม่ค่อยเหมาะแก่การลงเล่นน้ำเท่าไหร่นัก เนื่องจากเป็นโขดหินซะส่วนมาก เหมาะแก่การมานั่งพักผ่อน ชมวิวมากกว่า

ขนพร้อพมาถ่ายคืองานถนัด ชอบอะ มันช่วยทำให้รูปดูมีลูกเล่นเยอะดี : P

ถ้าเราหันหลังก็จะได้ความชมความความงามอีกด้าน สวยไม่แพ้กัน ด้านนี้จะติดภูเขาหน่อยๆ ให้ฟิลลิ่งเหมือนมาปีนเขายังไงยังงั้นเลย

อยู่ถ่ายรูปและนั่งพักชมความงามของทะเลในตอนเช้า ช่างเงียบสงบเสียจริง ยังอยากนั่งอยู่นานๆ แต่ดูเวลาแล้วเราต้องรีบกลับไปทานอาหารเช้าของที่พักแล้วล่ะ

เราเดินมายังห้องรับประทานอาหารของที่พักเรา ซึ่งอยู่ติดกับสระว่ายน้ำและด้านหน้าติดทะเลเลยค่ะ

เมื่อมาถึงให้เอาคูปองที่ได้ตอนมาเช็คอิน ยื่นให้กับพนักงานที่ยืนต้อนรับ แล้วก็ลุยเลยจ้าาา

อาหารเช้าที่นี่มีให้เลือกหลากหลายเลยค่ะ เดินตักเอาเลย เป็นบุฟเฟ่ต์ ทั้งอาหารและน้ำดื่ม

เช้านี้มีทั้งไทยและเทศ เลือกตักทานกันได้ตามอัธยาศัย นี่ถ่ายมาแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะ

ได้เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งกินข้าวกับทะเลแบบนี้ก็รู้สึกดีไปอีกแบบ . . .

ทานเสร็จ...เราก็เดินกลับเข้าห้องพัก นอนตีพุงกันสักแป๊ป มาถึงทะเลแล้วไม่เล่นน้ำ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง

อยาก . . . จะพาเธอนั้นไปลอยทะเล ~ แดดตอนเช้าแก่ๆแบบนี้ ยังพอได้วิตามินซีอยู่แหมะ 555555 คือแดดอะร้อนนะ แต่พอลงมาแช่น้ำเท่านั้นละ สบายเลย มีลมพัดตลอด

น้ำใสมากจริงๆค่ะ นี่เราเล่นน้ำอยู่หน้าหาดที่พักเราเลยนะ น้ำขึ้นมาเยอะมากๆ ต่างจากตอนเย็นของเมื่อวาน น้ำนี่ลดลงไปไกลมาก

มันสบายมาก ขนาดทิ้งตัวลงนอนแช่น้ำกันเลยหรอคะคุณ ?!!

อยู่เล่นกันเกือบชั่วโมงเห็นจะได้ เราก็ต้องรีบขึ้นฝั่ง เข้าที่พัก เก็บกระเป๋า เตรียมเช็คเอ้าท์ออกจากที่พักให้ทันเที่ยงค่ะ

ทะเลในตอนเที่ยง แดดเปรี้ยงดีเหมือนกัน แต่ฝรั่งชอบนะค่ะ มานอนอาบแดดกันเยอะมาก เอาให้เกรียมกันไปข้าง

กระดกน้ำตาลสดหวานเย็นชื่นใจ ดับกระหายคลายร้อนเลยล่ะ

ขวานช้างพาน้องๆ มาเดินเล่นกัน จะพามาอาบแดดก็ไม่บอก อิอิ

เช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก ให้เลี้ยวขวาแล้วขับขึ้นไปไม่ถึง 3 นาทีก็ถึงเลย จุดชมวิวหาดไก่แบ้

มาถึงจุดชมวิวหาดไก่แบ้ ถ้าไม่ได้ถ่ายคู่กับตู้ไปรษณีย์เกาะช้าง ก็เหมือนจะมาไม่ถึงอีกเช่นกัน

มีฉากถ่ายรูปเป็นตัวอักษร มาวางตั้งไว้เป็นฉากถ่ายรูปสวยๆ

ได้เวลากลับจริงๆจังๆแล้วค่ะ เราขับรถมายังท่าเรือ...เพื่อรอเรือบรรทุกรถข้ามทะเลไป

ถึงเวลา ... โบกมือลา เกาะช้างจริงๆแล้ว มีเวลาน้อยเหลือเกิน ไว้คราวหน้าจะกลับมาเก็บให้ครบ

 

Bye Bye . . . เกาะช้าง

ทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืน สดชื่นหัวใจจริงๆ ไปมานานแล้วความจำเรื่องค่าใช้จ่ายอาจจะจำไม่ได้ทั้งหมด เลยขอไม่ลงดีกว่า เอาเป็นว่าพกไปคนละ 3,000 เอาอยู่ค่ะ ที่พักที่กินจัดเต็มสองคน แต่เที่ยวครั้งหน้าจะกลับมาดำน้ำ ปลูกประการัง ทำอาหาร นวดสปา ปลูกป่า นั่งสมาธิ เห้ย เริ่มไม่ใช่ละ 5555555 กิจกรรมบนเกาะช้างถือว่ามีครบเลย มีครั้งแรกแล้ว ก็ต้องมีครั้งต่อไปแน่นอน ค้างคืนเดียวได้เที่ยวแค่นี้ ก็แฮปปี้มากๆแหละ ไว้จะกลับมาแก้ตัวใหม่รอบหน้า สัญญาเลย