✿ : : KOH-TA-LU : : ✿ ~ 3 วัน 2 วัน ~ เช้าสบาย สายสนุก สุขพอดี ที่ 'เกาะทะลุ' (May 10-12,2017)

'.. ร้อนระอุขนาดนี้ โดดน้ำสักทีเป็นไง ..'
คำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวทีไรเป็นอันต้องเดือดร้อนเงินในกระเป๋าทุกที
นักเที่ยวสายเกาะแบบเราจะไม่ไปเกาะนี้ก็คงจะไม่ได้
ม๊ะ ! เราจะพาทุกคนไปสุขส่งท้าย ปลายซัมเมอร์ กันที่ เกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์

เกาะทะลุ ตั้งอยู่ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จัดได้ว่าเป็นแหล่งดำน้ำที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย .. ในประเทศไทยของเราหากลอง search ใน google จะเจอเกาะทะลุด้วยกัน 3 ที่หลักๆ คือ

- เกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์

- เกาะทะลุ จ.ระยอง

- เกาะทะลุ จ.ชุมพร

แต่ที่เกาะทะลุทริปที่เราจะไปนี้ เป็นช่องทะลุที่ใหญ่ที่สุดค่ะ .. แถมก่อนเดินทางไม่กี่วัน ทราบข่าวว่า มีฉลามวาฬว่ายมาว่ายวนไปวนมาแถวๆเกาะทะลุด้วย ขอให้โชคดีได้เจอเถอะ เพี้ยง ! ขอเห็นเป็นบุญตาสักครั้ง เอาใจช่วย เค้าให้มีโชคได้เจอฉลามวาฬด้วยน๊า ..

วันแรกของการเดินทาง : 10 พฤษภาคม 2560

หลังจากหายหน้าหายตาจากวงการรีวิวไปพักใหญ่ ก็ขอมาเปิดทริปแรกของปีนี้ เพื่อให้สาวกได้บรรเทาความร้อนก่อนมุ่งสู่ฤดูฝนอย่างเต็มตัว (จะฝนได้สักกี่วันเชียว - -?) .. ด้วยความที่ว่า ปีนี้เป็นปีที่เริ่มต้นเรียน ป.โท ทำให้เรามีเวลาไปเที่ยวที่น้อยลง เราเที่ยวเสาร์อาทิตย์ไม่ได้ จึงต้องหันมาเที่ยววันธรรมดาแทน ตอบโจทย์ แคมเปญ ททท. เลยนะ 'วันธรรมดาน่าเที่ยว' .. ได้ฤกษ์งามยามดี ตรงวันหยุดนักขัตฤกษ์หนึ่งวัน ลาพักร้อนเพิ่มสองวัน ทริปสุดแสนพิเศษนี้จึงบังเกิดขึ้น .. จะพิเศษยังไง ติดตามต่อไปค่ะ อย่าเพิ่งเบื่อนะ ^0^

ทริปนี้ ขอเริ่มต้นทริปที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิตเลยแล้วกันนะ เราจะเดินทางกันด้วยรถตู้ด้วยวินของบริษัท มณฑ์สิริ แทรเวล จำกัด เดิมเราจะต้องไปขึ้นที่ขนส่งสายใต้ใหม่ แต่เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 60 วินนี้ได้เพิ่มจุดขึ้นรถมาอีก 1 จุด นั้นคือ ใต้สถานีบีทีเอสบางหว้า (ทางไปท่าเรือตากสินเพชรเกษม )

นับว่าเป็นโชคดีของเราที่ทำให้การเดินทางของเราสะดวกขึ้น เราจะไปตีตั๋วรถตู้กันที่นั่นค่ะ .. ไปค่ะพี่สุชาติ ~

เรามาถึงตรงบางหว้าประมาณ 6.30 น. แล้วฝนก็เทลงมาต้อนรับการไปเที่ยวของเราอย่างชุ่มฉ่ำ .. หากใครมาขึ้นที่วินตรงบางหว้า เราขอแนะนำให้โทรหาที่วินก่อนนะคะ เพราะ คนที่เค้าประจำโต๊ะซื้อตั๋วเค้าจะมาสาย ถ้าโทรไปก่อนเค้าจะได้จัดรถตู้มารับเราที่บางหว้า เราจะได้ไม่ต้องรอนาน ค่ารถตู้กรุงเทพ-ประจวบ คนละ 220 บาท หรือใครสะดวกไปขึ้นที่ขนส่งสายใต้ใหม่ ก็ติดต่อได้ที่ช่อง 4 ได้เลยค่ะ

เราใช้เวลาเดินทางมาถึงวินที่ประจวบประมาณ 6 ชั่วโมง ฝนตกถนนลื่นมีอุบัติเหตุตลอดทางเลย ขับรถด้วยความระมัดระวังกันด้วยนะคะ

ถ้าใครอยากนั่งรถทัวร์ก็มีใครบริการที่ขนส่งสายใต้ใหม่ (กรุงเทพ - บางสะพาน) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5.30 ชั่วโมง

พอมาถึงเราก็มาซื้อตั๋วรถตู้ต่อมายังตลาดบางสะพานน้อย (ช่อง 9) เป็นวินของบริษัท ประจวบสามัคคีเดินรถ จำกัด

ราคาคนละ 120 บาท .. บอกเค้าว่ามาลงที่ตลาดบางสะพานน้อยนะคะ

รถรอบต่อไปของเราจะออกเวลา 13.30 น. ถ้ามีเวลาหาอะไรทานก่อนก็ได้ค่ะ ที่ท่ารถจะมีร้านอาหารและห้องน้ำไว้ให้บริการอยู่ ราคาไม่แพง

เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง รถตู้จะมาจอดส่งเราที่หน้าเซเว่นตรงตลาด เราจึงโทรให้ทางรีสอร์ทที่เราจองไว้มารับ แนะนำให้กดเงินสดและซื้ออะไรเข้ามาทานเลยนะคะ เช่น ของสด กุ้ง หอย ปู ปลา หรือขนมเครื่องดื่มอะไรแบบนี้ หากใครไม่มีรถส่วนตัวมา ค่อนข้างลำบากเวลาจะออกมาซื้อของค่ะ เพราะ rแถวรีสอร์ทเราไม่มีร้านสะดวกซื้อและตู้เอทีเอ็มเลย หรือถ้าใครเช่ามอเตอร์ไซด์ไว้ก็ไม่มีปัญหา สามารถขับมาตลาดได้ ประมาณ 7-8 กิโลเมตร จากตัวรีสอร์ท (ถ้าขับไหวนะ) ที่รีสอร์ทจะมีเตาปิ้งย่างให้ฟรีค่ะ สามารถให้แม่ครัวทำน้ำจิ้มซีฟู้ดให้ได้ .. ระหว่างทางก็จะมีที่ท่องเที่ยว อย่างเช่น วัดถ้ำเขาม้าร้อง , น้ำตกไทรคู่ แต่เราไม่ได้แวะ แต่เราสอบถามคนในพื้นที่มาให้เป็นข้อมูลสำหรับเพื่อนๆที่อยากไปค่ะ

ที่พักของเราชื่อ Sunrise Resort เป็นรีสอร์ทเล็กๆ ติดชายทะเล มีสระว่ายน้ำ ห้องอาหาร มีจักรยานและมอเตอร์ไซด์ให้เช่า 50 บาทต่อชั่วโมงหรือ 250 บาทต่อวันค่ะ ..

Sunrise Resort เป็นรีสอร์ที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าได้ดี จึงเป็นที่มาของชื่อรีสอร์ทนี้ ราคาห้องพักมีตั้งแต่ 1,300 - 2,000 บาท (ถ้ามาในช่วง Low Season ห้องพักก็จะราคาถูก)

ห้องที่เราได้เป็นห้องพักแบบ Superior Suite (sea view) 1,700.- ต่อคืน รวมอาหารเช้า พักได้สองคน วิวทะเล มีระเบียงหน้าห้องพัก .. ใครจะจองแยกหรือจองแบบแพคเกทมาก็ได้นะคะ ส่วนเราจองแบบแพคเกทที่พักพร้อมดำน้ำ 3 วัน 2 คืน จากบริษัทสีฟ้าทัวร์มาค่ะ ราคาสำหรับ 2 คนๆละ 2,100 บาท (เดี๋ยวเราให้รายละเอียดของแพคเกทอีกทีนะ)

ที่รีสอร์ทมีกิจกรรมให้ผู้เข้าพักได้เลือกเล่นหลายอย่างเลยค่ะ มีทั้ง วอลเล่บอลชายหาด เปตอง ปิงปอง ชักเย่อ หรือสามารถมาจัด outing เล็กๆริมทะเลได้ด้วยค่ะ


หรือใครอยากจะสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่พัก แพคเกทที่พักพร้อมดำน้ำเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ตามนี้เลย ...

สำหรับมื้อเย็นมื้อแรกสำหรับที่นี่ เราคงต้องพึ่งอาหารของทางรีสอร์ทค่ะ ราคาอาหารส่วนใหญ่อยู่ประมาณ 150-350 บาทต่อจาน เราว่าเป็นราคาปกติสำหรับที่ท่องเที่ยวนะคะ .. วันนี้มีกรุ๊ปมาลงมาลงด้วย เลยทำให้รออาหารค่อนข้างนานค่ะ หิวจนหายหิว สั่งตอนทุ่มนึง ได้ทานอีกทีสามทุ่ม กินข้าวท่ามกลางสายฝนโปรยปราย T^T .. ดีนะได้โรตีที่มาขายหน้ารีสอร์ททานรองท้องไป ธรรมดาใส่ไข่ 15 บาท เพิ่มกล้วย 30 บาทค่ะ

มาดูหน้าตาของอาหารมื้อนี้กันดีกว่าค่ะ อ้อ ! ค่าเสียหายมื้อแรก 840 บาท รสชาติอาหารไม่ขี้เหร่นะ จัดว่าอร่อย ยกนิ้วให้ ! มาเริ่มกันที่ ..

เมนูที่ 1 ยำวุ้นเส้นทะเล แต่วุ้นเส้นหมดเลยได้ยำทะเลมาแทน แต่แคชเชียร์คิดเงินของยำวุ้นเส้นให้ค่ะ ซึ่งราคา ต่างกัน 20 บาท .. ยำวุ้นเส้นทะเล 150 บาท ยำทะเล 170 บาท

เมนูที่ 2 ปลากะพงทอดน้ำปลา ตัวนี้ราคา 350 บาท o[]o"

เมนูที่ 3 ต้มยำกุ้งน้ำข้น แซ่บซี้ดซะใจ แต่ขาดเปรี้ยวไปหน่อยนึง (ปกติชอบทานเปรี้ยว ^^) ราคา 150 บาท

เมนูที่ 4 กุ้งชุบแป้งทอด ราคา 170 บาท

กินอาหารเย็นดึกไป ไม่ดีเลย นอนไม่หลับ กระเพาะทำงาน ประเด็นสำคัญเลย คือ 'อ้วน' Y-Y .. ขอตัวไปกลิ้งบนที่นอนก่อนนะ เจอกันวันที่สองของการเดินทาง .. ภาวนาให้พรุ่งนี้ฝนหยุดตก ท้องฟ้าแจ่มใส เพราะ พรุ่งนี้เรามีนัดไปดำน้ำ เย้ๆๆๆ \^O^/

วันที่สองของการเดินทาง : 11 พฤษภาคม 2560

เมื่อคืน ฝนตกทั้งคืนเลย แต่มาหยุดตกช่วงเช้าให้เราตื่นไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น แต่เราดันกดปิดนาฬิกาปลุกไป ตื่นมาอีกที 6.10 น. พระอาทิตย์โผล่ขึ้นพ้นขอบน้ำไปซะแหละ เลยได้ภาพมาแค่นี้เอง ..

ตามตารางวันนี้เรามีดำน้ำกันค่ะ เราเลยทำการเปลี่ยนชุด แพคของลง ocean pack เตรียมตัวไปดำน้ำ (เราไม่อาบน้ำแต่ล้างหน้าแปรงฟันนะ ซกมกจริงๆ .. ก็เดี๋ยวจะลงน้ำนี่เนอะ อาบทำไม ฮ่าๆ) .. รถของบริษัททัวร์จะมารับเราที่รีสอร์ทประมาณ 8.30 น. ค่ะ ตอนนี้เวลาเหลือก็เลยมาทานอาหารเช้ารองท้องสักหน่อย ไลน์อาหารที่รีสอร์ทเป็นแบบบุฟเฟต์นะคะ มีทั้งขนมปังปิ้ง น้ำส้ม ชา กาแฟ โอวัลติน ข้าวต้ม ผลไม้ หรือใครจะกินเป็นข้าว ทางรีสอร์ทก็จัดเตรียมไว้ให้เราสามารถตักได้เลยค่ะ .. (อย่าทานเยอะนะเดี๋ยวที่ทานไปจะกลายเป็นอาหารปลาไปซะหมด) ^^'

แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดก็มาเกิดซ้ำค่ะ ฝนตก!!!!! ตกแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด 'ทริปดำน้ำของช้านนน ~! ฉันจองมาร่วมสองเดือนเลยนะ ทำไมฝนมาทำกะฉันแบบนี้ มรสุมจะมาเข้าอะไรวันที่ฉันมาเที่ยวด้วยเนี่ย' แอบสบถในใจ แต่ก็ทำไงได้ล่ะ สภาพอากาศมันห้ามกันไม่ได้อ่าเน๊อะ =.=

นักท่องเที่ยวที่รีสอร์ท ผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกะฉัน ราวๆ 14 คน เริ่มมีทีท่ากระวนกะวาย เพราะ 9 โมงแล้วก็ไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากบริษัททัวร์ เราจึงต้องทำการโทรไปถามที่บริษัททัวร์ โดยให้ทางรีสอร์ทเป็นฝ่ายโทรไปให้ .. ได้รับคำตอบมาว่า ตอนนี้รอดูสถานการณ์ก่อนว่าฝนมีทีท่าว่าจะหยุดหรือไม่ เกรงว่าถ้าออกเรือไปจะเป็นอันตรายแก่นักท่องเที่ยว .. จุดนี้เราเข้าใจนะ แต่นักท่องเที่ยวบางกลุ่มเค้าต้องเดินทางกลับบ่ายนี้แล้วก็เริ่มถอดใจจะยก เลิกทริปดำน้ำบางส่วน (ได้รับเงินคืนไม่เต็มจำนวนนะ ถ้าเรายกเลิกเอง ต้องให้ทางฝ่ายบริษัททัวร์เป็นฝ่ายแจ้งยกเลิก) เราจึงกลับไปนั่งรอฟังข่าวที่ห้องพัก จนกระทั่งเวลา 11 โมง มีรถของสีฟ้าทัวร์มาแจ้งกับทางรีสอร์ท เค้าแจ้งว่า 'ขอยกเลิกทริปดำน้ำของวันนี้' ขอให้ลูกค้ารับข้าวกล่องและเงินคืนคนละ 350 บาท 50 บาทที่เหลือขอหักเป็นค่าข้าวกล่องแทน .. เหมือนโลกพังทลายเลยค่ะ ณ วินาทีนั้น มาถึงนี่ถ้าไม่ได้ดำน้ำก็รู้สึกว่านี่เรามาทำไมกัน รู้สึกเหมือนมาเสียเที่ยว เราตั้งใจมาดำน้ำจริงๆ จองมาล่วงหน้าสองเดือนเต็มๆ T^T .. เราลองคุยกับพี่ทางบริษัททัวร์ว่า ถ้าวันพรุ่งนี้อากาศดีขึ้นเราจะไปแจมพรุ่งนี้แทนวันนี้ได้ไหม ซึ่งเค้าโอเค แล้วก็ต้องมาลุ้นกันอีกทีค่ะว่าพรุ่งนี้เราจะได้ไปดำน้ำไหม .. ระหว่างนี้ ลองสั่ง cocktail ที่รีสอร์ทมาชิมย้อมใจซะเลย แก้วละ 120 บาท สั่งมา 2 แก้ว คือ ไหมไทยและมาการิต้า .. ถ้าเป็นน้ำผลไม้ปั่นจะแก้วละ 60 บาทค่ะ

ช่วงบ่ายเราไม่รู้จะทำอะไรเลยค่ะ ผิดแผนไปซะหมด เลยหากิจกรรมที่รีสอร์ททำ ดีนะที่เราเลือกรีสอร์ทที่มีสระว่ายน้ำ โดดสระแก้เครียดมันซะเลย ฮ่าๆๆ

สำหรับบริษัททัวร์ที่เราจองแพคเกทที่พักพร้อมดำน้ำ ชื่อว่า บริษัทสีฟ้าทัวร์ มีแพคเกทให้เลือกเยอะแยะเลยค่ะ ทั้ง 2 วัน 1 คืน หรือ 3 วัน 2 คืน เลือกพักกับรีสอร์ทต่างๆได้เลย ลองเข้าดูทางเว็ปไซต์ของทางสีฟ้าทัวร์ได้เลยนะคะ วิธีการจองแพคเกทในเว็ปไซด์มีบอกหมดค่ะ

http://www.taludiving.com/ดำน้ำเกาะทะลุ-พักซันไรส์รีสอร์ท-3วัน-2คืน.html

หากใครไม่ได้จองกับแพคเกทกับสีฟ้าทัวร์ก็สามารถจองกับทางรีสอร์ทได้ คนละ 400 บาท มีสองบริษัทให้เลือกที่เราเห็นหลักๆนะคะ ที่มีรถมารับถึงรีสอร์ทเลย ก็จะมีบริษัทสีฟ้าทัวร์ และกิ๊กดำน้ำเกาะทะลุ ที่กิ๊กฯจะมีที่อาบน้ำจืดให้อาบแต่สีฟ้าทัวร์ไม่มี เลือกได้ตามชอบเลยค่ะ ลองเค้าไปสอบถามข้อมูลของสองบริษัทนี้ดูก่อนก็ได้นะคะ

มาต่อกันที่อาหารเย็นกันดีกว่า มื้อนี้ค่าเสียหายเราอยู่ที่ 640 บาท เราถ่ายรูปมาไม่ครบทุกเมนูนะคะ เผอิญฝนตก เราเลยต้องรีบย้ายโต๊ะหลบฝน เราสั่งไป 4 เมนูด้วยกัน คือ

เมนูที่ 1 กุ้งแช่น้ำปลา 170 บาท

เมนูที่ 2 แกงส้มกุ้ง 150 บาท

เมนูที่ 3 ไข่เจียวหมูสับ 60 บาท

เมนูที่ 4 หมูทอดกระเทียม 120 บาท

เพื่อนอยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะคะที่อายกล่าวไปตอนต้นว่า ทำไมทริปนี้จึงเป็นทริปสุดพิเศษ คำตอบอยู่ตรงนี้ค่ะ .. พรุ่งนี้เป็นวันเกิดครบรอบวัยเข้าเบญจเพสของอายพอดีเลยค่ะ .. วันนี้เลยมีเซอร์ไพรส์เล็กๆที่คนรู้ใจเตี๊ยมกะทางรีสอร์ทหอบเค้กมาร้องเพลง แฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้ก่อนล่วงหน้า 1 วัน .. ต้องขอบคุณพี่ๆที่รีสอร์ทและคนรู้ใจมากๆเลยค่ะ ที่ทำให้วันแย่ๆวันนี้ของเรากลับมามีความสุขและยิ้มได้กลบเรื่องที่ผิดแผนอด ดำน้ำไปอย่างสิ้นเชิง .. คืนนี้นอนหลับอย่างมีความสุข จะได้ตื่นมาลุ้นว่าจะได้ไปดำน้ำอย่างที่หวังก่อนเดินทางกลับกรุงเทพรึป่าว ~

วันสุดท้ายของการเดินทาง : 12 พฤษภาคม 2560

~ Happy Birthday ~ ใช่แล้ว วันนี้เป็นเกิดของเราเอง .. ของขวัญวันเกิดของเราในเช้านี้ คือ การได้ไปดำน้ำ เย้ๆๆ ถึงแม้ฝนจะยังมีตกบ้าง แต่ก็ตกๆหยุดๆ ไม่เหมือนเมื่อวาน ที่ตกไม่ลืมหูลืมตา .. พอถึงเวลา 8.30 น. รถสองแถวของสีฟ้าทัวร์ก็มาจอดรับพวกเราที่หน้ารีสอร์ท เพื่อไปสำนักงานสีฟ้าทัวร์

พอถึงที่สำนักงาน เราต้องไปเช็คชื่อ เพื่อเตรียมรับอุปกรณ์ดำน้ำ อันได้แก่ หน้ากากและเสื้อชูชีพ (รักษายิ่งชีพนะคะ) และจ่ายเงินส่วนที่เหลือ (หากจองล่วงหน้าจะต้องมัดจำ 60%).. หากใครกลัวเมาเรือ กินยาแก้เมาเผื่อไว้ได้เลยนะคะ ระหว่างรอคนอื่นๆเราก็สามารถกินขนมปัง กาแฟ โอวัลติน รองท้องได้ค่ะ เค้ามีให้บริการไว้ ..

เมื่อพร้อมแล้วก็ขึ้นรถสองแถวเพื่อไปที่ท่าเรือได้เลยค่ะ .. เราใช้ท่าเรือร่วมกับเรือนำเที่ยวเกาะทะลุของเจ้าอื่นๆด้วย .. เรือของสีฟ้าทัวร์จะเป็นเรือไม้สองชั้นที่จะนำพวกเราออกสู่ทะเลอ่าวไทย เพื่อไปดำน้ำกันค่ะ ก่อนออกแอบติดสันดอนทรายนิดๆ แต่ก็ผ่านมาด้วยดี .. วันนี้คลื่นค่อนข้างสูง ลมแรง ไม่มีแดด ฝนตกปรอยๆ ทำเอาหลายคนเมาเรือกันง่ายๆเลย เทคนิคเล็กๆสำหรับคนที่เมาเรือง่ายนะ นั่งชั้นล่างของเรือ มองออกไปไกลๆ พยายามเอาหน้าตีลม ที่สำคัญควรกินยาแก้เมาเตรียมไว้ (เม็ดสีเหลืองเอาอยู่กว่าเม็ดสีฟ้านะคะ) จะช่วยได้เยอะเลยค่ะ ..

ตามโปรแกรมเรือจะมาจอดให้เราเซลฟี่กับช่องทะลุก่อนค่ะ แต่จอดตรงจุดนี้ไม่นานประมาณ 5 - 15 นาที ก็ต้องรีบออกแล้วค่ะ วันนี้คลื่นตรงนี้ค่อนข้างแรงทำให้เรือโคลงเคลงมากเลยค่ะ

เราไปกันต่อที่จุดดำน้ำจุดแรก นั้นก็คือ อ่าวเทียน .. ก่อนจะลงน้ำทางสตาฟจะมาสาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์ดำน้ำเป็นตัวอย่าง ควรฟังนะคะเพื่อความปลอดภัย

อ่าวเทียน เป็นจุดดำน้ำตื่นที่มีปะการังโขดค่อนข้างเยอะ ปลาตรงจุดนี้จะน้อย แต่จะมีจุดที่เป็นหาดทรายขาวที่เรายืนถึงด้วยค่ะ ทางสีฟ้าทัวร์จะให้เราว่ายไปตรงนั้นเพื่อถ่ายรูปให้จากกล้องโดรน (ถ้าฝนไม่ตกนะ) หากใครมาเป็นกลุ่มก็มีมีภาพแบบจับมือกันเป็นวงกลมสวยเชียวล่ะ .. ตอนยืนระวังเหยียบหอยด้วยนะคะ เปลือกหอยคมมาก เราได้มาแผลนึงอาทิตย์นึงยังไม่หายเลยค่ะ TT

ระยะทางจากเรือว่ายมาตรงจุดหาดทรายขาว ค่อนข้างไกล ใครว่ายไม่ไหวก็เกาะโฟมมาก็ได้นะคะ มีสตาฟคอยดูแลค่ะ .. เราจะอยู่จุดนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง ..

เวลาว่ายน้ำปะการังจะอยู่ใกล้เรามากๆนะคะ เราไม่ควรไปโดนหรือไม่เหยียบบนปะการังโดยไม่จำเป็น เพราะ อาจจะทำให้ปะการังเสียหาย หรืออาจทำให้ปะการังตายได้ .. ปะการังที่เราเห็นอาจไม่สวยเหมือนในสารคดีนะคะ ไม่อยากให้คาดหวัง เนื่องจากภาวะโลกร้อนทำให้อุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนไป ทำให้ปะการังเกิดการฟอกขาวค่ะ

ภาพใต้น้ำส่วนใหญ่เราถ่ายเป็นวีดีโอจาก Gopro 5 นะคะ แล้ว capture ด้วยโปรแกรมของ Gopro อีกที และด้วยสภาพอากาศที่ไม่ค่อยเป็นใจ ทำให้วันนี้ไม่มีแดด เลยทำให้การถ่ายภาพใต้ทะเลออกมาไม่สวยต้องขออภัยด้วยนะคะ คราวหลังจะขอแก้มือด้วยการถ่ายเป็นภาพนิ่งแทนการถ่ายด้วยวีดีโอค่ะ

พอขึ้นมาบนเรือทางสตาฟจองเตรียมน้ำดื่ม ขนมปัง และผลไม้ให้เรารับประทาน เราสามารถหยิบทานได้เลย พร้อมด้วยกัปตันจะแจกข้าวกล่องให้รับประทานเป็นอาหารกลางวัน วันนี้มีให้เลือกข้าวผัดกุ้งกับข้าวกระเพราหมูสับไข่ดาว เราเลือกอย่างหลังค่ะ .. ถึงแม้จะเป็นข้าวกล่องแต่รสชาติถูกปากมากค่ะ แถมภาชนะที่ใช้บรรจุไม่ใช่กล่องโฟมแต่เป็นกล่องข้าวแบบ Lock & Lock น่ะคะ ช่วยรักษาธรรมชาติด้วยการลดใช้กล่องโฟม .. พอถึงเวลาเราก็ไปต่อกันจุดดำน้ำที่สองกันเลยดีกว่าค่ะ .. อ่าวกรวด ซึ่งเคยเป็นจุดที่ฉลามวาฬเข้าเมื่อต้นเดือน พ.ค. ซึ่งพี่สตาฟเคเาบอกเราว่า ตั้งแต่ทำงานมา 8 ปี เพิ่งจะเคยเห็นระยะใกล้ๆแบบนี้ครั้งแรก อยากเห็นบ้างจัง แต่เราคงไม่โชคดีแบบนี้ TT

อ่าวกรวดนี้เป็นจุดดำน้ำที่ทุกคนจะได้เพลิดเพลินไปกับปะการังแบบเต็มๆ ปลาเยอะมากค่ะ โดยเฉพาะปลาสลิดหิน

แถมตรงนี้ยังเป็นแหล่งของกอดอกไม้ทะเลที่เป็นแหล่งหลบภัยของเจ้าปลาขี้ อาย อย่างเจ้านีโมตัวน้อย หรือปลาการ์ตูนนั่นเอง แต่เป็นปลาการ์ตูนสายพันธ์ อินเดียนแดง จะมีสีแดงเลือดหมูและมีลายคาดลำตัวสีขาว ปลาการ์ตูนจะมีลักษณะนิสัยจะว่ายอยู่แต่ในดอกไม้ทะเล เพราะดอกไม้ทะเลจะสามารถปกป้องปลาการ์ตูนได้ เนื่องจาก ดอกไม้ทะเลจะมีพิษกับปลาทุกชนิดมีแต่ปลาการ์ตูนเท่านั้นที่ไม่โดนพิษ จากดอกไม้ทะเล

แบบภาพเคลื่อนไหวก็มีมาให้ชมนะคะ .. เป็นลิงก์วีดีโอจากใน Facebook ของเราที่เราลงไว้

https://www.facebook.com/popeyeyaibaa/posts/10212791955051658:1

https://www.facebook.com/popeyeyaibaa/posts/10212801443248857:0

จุดดำน้ำจุดนี้ควรสวมชูชีพนะคะ เพื่อให้เราสามารถลอยตัวบนผิวน้ำได้ ไม่ให้เราว่ายไปชนกับปะการัง และยังช่วยป้องกันการว่ายน้ำของเราจะไปเตะโดนกับหอยเม่นด้วยค่ะ .. หอยเม่น ที่เกาะทะลุส่วนใหญ่จะชอบอยู่ตามปะการังโขด

ปลานกแก้ว ก็พบได้ทั่วไปตามแนวปะการัง .. เราว่าตัวนี้ที่เราถ่ายมาน่าจะใช่ปลานกแก้วนะ แต่ทำไมตัวสีดำ เคยเห็นในสารคดีตัวสีฟ้า สีแดง ไม่ใช่อ่อ ถ้าใช่ไม่ใช่ยังไงขออภัยไว้ด้วยนะคะ

หอยมือเสือ

ปะการังผักกาด

ตามจริงแล้ว ปะการังที่เราพบมีเยอะแยะมากายเลยค่ะ ทั้งปะการังโขด ปะการังสมอง ปะการังเขากวาง แต่เราเก็บภาพมาได้ไม่หมด TT

อ้อ ! ลืมบอกไปค่ะ ตรงจุดนี้จะมีให้บริการถ่ายรูปใต้น้ำให้เราด้วยนะคะ ฟรี! โดยพี่นัท ที่เป็นทั้งไกด์ ทั้งช่างภาพ และยังพูดคุยเป็นกันเองด้วย

ไฟล์ภาพที่พี่นัทถ่ายจะส่งให้ทางไลน์ค่ะ เราสามารถแอดไลน์แล้วแจ้งวันที่เราดำน้ำได้เลย แค่นี้เราก็ได้ภาพใต้น้ำสวยๆ ลงอวดเพื่อนๆได้แล้วค่ะ

หลังจากกลับมาถึงฝั่ง รถสองแถวก็มาส่งเราที่รีสอร์ท เราต้องรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อมาให้ทันรถตู้รอบ 3.20 น. เราทำเวลากันอย่างดี แล้วรีบบึ่งออกมารอรถตู้บริเวณจุดรอรถหน้าร้านดาราคัลเลอร์แล็บ ซึ่งก็มีพี่โชเฟอร์ใจดีจากทางรีสอร์ทมาส่ง .. รถตู้มารับเราตรงเวลามาก มาพร้อมกับฝนที่โปรยปรายส่งท้ายเรากลับบ้าน ราคาขากลับ 100 บาท ถูกกว่าตอนขานั่งมาอีก เค้าใช้เรทอะไรในการคำนวณระยะทางล่ะเนี่ย - -?

บอกเลยค่ะว่าการเลือกรถที่จะไปทริปของเรา ส่วนใหญ่เราจะเลือกไปโดยรถตู้ แต่การขึ้นรถตู้ของเราในครั้งนี้มันมีความพีคขั้นสุดค่ะ .. นอกจาก เราจะได้นั่งแถวหลังสุดแล้ว เราก็มีเพื่อนร่วมทางที่ไม่ใช่คนค่ะ แล้วก็ไม่ใช่ผี แต่มัน คือ !!!!!! o.O ไก่ชน .. โอ้ววว ไม่นะ ไม่จริงใช่ไหมเนี่ย ทั้งกลิ่น ทั้งเสียง ทำเราพูดอะไรไม่ออกเลยค่ะ ในใจคิดแต่ว่า เมื่อไหร่จะถึงท่ารถสักทีว้า ~ พอถึงท่ารถเรารีบตีตั๋วของบริษัทเดิมที่เรามาที่ช่องหมายเลข 4 ไปลงบีทีเอสบางหว้า ราคา 220 บาท

นี่แหละคะเรื่องราวการพักผ่อนที่เกาะทะลุของเรา เรียบง่ายเหมือนดังสโลแกนเกาะทะลุที่ว่า 'เช้าสบาย สายสนุก สุขพอดี ที่เกาะทะลุ'

ขอบคุณ SONY A6000 + Lens kit 16-50 / 50 F1.8 / 35 F1.8 และ Gopro HERO5
ที่ทำให้เราได้ภาพสวยๆตลอดทริปนี้

ขอขอบคุณภาพจากกล้องถ่ายใต้น้ำและโดรนจากพี่นัท บริษัทสีฟ้าทัวร์ ด้วยนะคะ ที่ให้ภาพมาใช้ประกอบรีวิวนี้

แต่งภาพโดยโปรแกรม Lr
(แต่เนื่องด้วยสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจทำให้ภาพใต้น้ำไม่สวยเท่านี้ควร ขออภัยตรงจุดนี้ด้วยนะคะ คราวหลังขอแก้มือในการถ่ายภาพใต้น้ำใหม่อีกครั้ง)

ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตาม หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ยินดีน้อมรับทุกคำติชม

สามารถติดตามเรื่องราวการเดินทางของเราได้อีกหนึ่งช่องทาง กดไลท์ได้เลย มีเรื่องราวดีดีรอคุณอยู่
PAGE : https://www.facebook.com/KeepGoingThailand

.. เจอกันการเดินทางครั้งต่อไป ..