หนีพายุ>>>ไปเกาะแห่งความสุข

หน้ามรสุมที่ไร ความรู้สึก ...เบื่อ...เซ็ง...เฟล เกิดขึ้นทู๊กที อยากไปไหนก็ได้ที่หลุดจากสภาวะ...ฝนตก>>รถติด = คนหยุบหยับ วันๆ นั่งเปิดหาข้อมูลการท่องเที่ยว อิอิ  เหมือนสวรรค์เปิดทาง!!!! งานเข้า....มีภารกิจต้องไปต่างจังหวัด โฮ๊ะโฮ๊ะโฮ๊ะ กระชุ่มกระชวยขึ้นในบัดนาว

จุดหมายคือเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ บี่ บี่ บี่ บี่ (เสียงเอคโค่ ^-^) อยากตะโกนกู่ก้องให้ทั่วฟ้า ปรารถนาข้าสมอารมณ์หมาย หมู่เกาะแห่งความสุขที่ฝันใฝ่ ลันตาไงไม่ช้าข้าไปเยือน 5555 แต่งกลอนได้เข้ากั้นเข้ากันตามแบบฉบับความมั่ว ซั่ว ของตัวเองห้ามลอกเลียนแบบ ^_^

จัดแจงเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ออกเดินทางคนเดียวด้วยสายการบินเวียดเจ็ท ตื่นเต้นตั้งแต่ตอนไปเช็คอิน เพราะตามระเบียบของสายการบินนี้ต้องมาเช็คอินที่เคาน์เตอร์ในสนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้น และต้องมาก่อนเวลาเครื่องออก 45 นาที หากมาช้าแม้จะยืนเข้าแถวอยู่ก็ต้องซื้อตั๋วในไฟล์ทบินเที่ยวถัดไป  สะดุดตากับชุดฟอร์มของแอร์โฮสเตสที่น่ารัก กับการเดินทางที่ออกตรงเวลาเป๊ะ เพลิดเพลินกันไป

ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 25 นาที แป๊บเดียวถึงท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ การไปเกาะลันตาไม่ใช่เรื่องยาก เพราะจะมีรถโดยสารไปส่งถึงรีสอร์ทมีทั้งรถตู้และรถสองแถว เพียงแค่แจ้งคนขับว่าจะไปรีสอร์ทไหน ราคาเหมารับ - ส่ง คันละ 2,500.- บาท แต่หากต้องการความชิลล์พร้อมเพื่อนร่วมทางใหม่ๆ ก็รอที่คิวรถตู้ สอบถามมาราคาต่อคน 200 -300 บาท แต่ราคาของรถสองแถวไม่ได้สอบถามมา หากจำผิดพลาดต้องขออภัย เพราะไปถึงที่สนามบินมีพี่ผู้จัดการจากรีสอร์ทที่พักมารับ อิอิ

เลือกพักที่ "ซี แซนด์ ซัน รีสอร์ท เกาะลันตา" (Sea Sand Sun Resort) สอบถามพูดคุยกับพี่ผู้จัดการทราบว่าช่วงนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่น (Low Season) ทำให้ลูกค้าน้อย บางรีสอร์ทก็ปิดทำการ ผู้คนไม่คึกคักเท่าช่วงไฮซีซั่น บรรยากาศจึงคล้ายๆ เป็นรีสอร์ทส่วนตัว อิอิ ช๊อบชอบ ^^ เราเดินทางผ่านตัวเมืองกระบี่ แวะกินขนมจีนเจ้าอร่อย อืม ก็อร่อยจริงๆ โดยเฉพาะเส้นขนมจีน ที่ สด..เหนียว..นุ่ม รสชาติดี บวกกับน้ำยาและผักสดที่มีให้เลือกหลากหลาย ทีแรกทำใจว่าต้องมากินอาหารรสชาติที่ หรอยแรง เด็ดสุด จี๊ดจ๊าด ต้องร้องห่มร้องไห้เสียน้ำตากันอย่างแน่นอน แต่..ที่ไหนได้ รสชาติกลางๆ คนไม่กินเผ็ด กินได้สบายๆ แต่ถ้าจะเอารสจัดเขาก็มีไว้ให้ งานนี้เลยโซ้ยไปหลายยก บวกกับชิมไปหลายน้ำยา อือหือ!!! กินเข้าไปได้ไงเนี้ย จนพี่เขาแซวว่าไปอดอยากมาจากไหน 555

ฝั่งตรงข้ามร้านขนมจีนโกจ้อย มีศาลเจ้า จ้อ ซู้ ก๋ง เป็นจุดที่สามารถจอดรถแวะพักทานขนมจีนได้ พออิ่มก็เดินย่อยถ่ายรูปกันต่อ สบายใจ ไทยแลนด์ มว๊ากกก ^^

ไปต่อกัน >>> ต้องใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงในการเดินทาง กับระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร และการรอคิวขึ้นแพขนานยนต์ จะใช้เวลามากน้อยขึ้นอยู่กับบุญวาสนา 555 หากโชคดีรถที่รอขึ้นแพอาจจะน้อย ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการรอนาน ว่าแล้วก็ สาธุ!!!! จงเร็ว จงด่วน จงรีบไปเจอทะเลไวไว 555 งานนี้มีของก็ต้องใช้ นิมนต์พระเกจิอาจารย์ดังๆ มาช่วยกันหน่อย ^-^

ค่าตั๋วขึ้นแพ เขาจะคิดค่ารถแยกกับผู้โดยสาร รถยนต์รวมคนขับคันละ 100 บาท  ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวคนไทยที่ไม่ใช่คนท้องถิ่น คนละ 20 บาท คนท้องถิ่น คนละ 10 บาท นักท่องเที่ยวต่างชาติ คนละ 50 

ลุ้นๆ ตอนรถกำลังขึ้นแพ เหมือนจะลงไปช่วยเข็น แต่พี่คนขับบอก น้องอยู่เฉยๆ แหละดีแล้ว 555

แพขนาดไม่ใหญ่เท่าเรือเฟอร์รี่ที่ไปเกาะสมุย แต่ก็บรรทุกรถได้เยอะ พี่ผู้จัดการบอก ตามกฎของแพ เมื่อเอารถขึ้นแล้วให้ดับเครื่องยนต์และคนก็ต้องลงจากรถไปยืน นั่งหรือถ่ายรูปในจุดที่กำหนดไว้ แต่เอาเข้าจริง อากาศร้อน รถบางคันสตาร์ทเครื่องยนต์ไว้ คนก็นั่งรอในรถ ก็แล้วแต่ เอาที่สบายใจคือไทยแท้ ^-^ ประมาณ 15 นาที ก็ถึงเกาะลันตา เราผ่านสะพานสิริลันตาเพื่อไปหาดคลองโขง ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตรจะถึงที่พัก "ซี แซนด์ ซัน รีสอร์ท"  ชอบบรรยากาศหาดส่วนตั๊ว ส่วนตัว ผู้คนไม่พลุกพล่าน เสียดายที่ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน แม้วันที่มาจะไม่มีฝน แต่กระแสน้ำจะพัดเอาเศษขยะที่เป็นเปลือกหอยและท่อนไม้ขนาดเล็กบ้าง ใหญ่บ้างเต็มชายหาด

มาถึงรีสอร์ท เหวี่ยงกระเป๋าไว้ในห้อง แล้วรีบวิ่งลงมาชายหาด ขอซึมซับกลิ่นไอทะเลสักนิดส์ ก่อนจะเปิดโน๊ตบุ๊ค (์Notebook) ทำงาน อารมณ์นี้ขอฟินไปกะบรรยากาศสักครู่เพื่อให้สมองโล่ง คิดงานออก แหม่ !!! สมใจอยากแล้ว กับการนอนดูคลื่นนิ่งๆ หรือจะนั่งโง่ๆ อยู่ริมทะเล ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ ใครใคร่อิจฉา จงอิจฉา 5555

มาในวันที่นักท่องเที่ยวน้อย นี้ฟินสุดๆ ห้องพักก็สามารถเลือกได้ พี่ผู้จัดการใจดี๋ ใจดี ให้เลือกเอาที่สบายใจ อยากนอนแบบไหน ห้องไหน ก็จัดไป ราคาเริ่มต้น 690.- บาท แต่ถ้านอนบังกะโล ราคาเริ่มต้น 790.- บาท เฉพาะช่วงหน้าโลว์ซีซั่นเท่านั้นนะ แต่ถ้ามาหน้า ไฮซีซั่นราคาจะสูงขึ้นตามประเภทห้องนะจ๊ะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่บอกอี๊กกก 5555

อยู่ที่นี้ อิ่มหน่ำไม่มีอด อยากกินอะไร อาหารอีสาน อาหารฝรั่ง หรืออาหารไทย น้องๆ พนักงานจะมาสอบถามและจัดเตรียมไว้ ราคาจับต้องได้ เหมือนญาติพี่น้องมาเยี่ยมเยือน 5555 ชอบการบริการของน้องๆ ทุกระดับประทับใจ ยิ้มรับตั้งแต่ลงจากรถ ขึ้นห้อง เล่นน้ำ จับปู ดูปลาและเข้าห้องนอน จนกลับ 5555

ขนมหวานก็มี 

มื้อเช้าที่ตื่นมาด้วยกลิ่นหอมของข้าวต้ม ไข่ดาว เบคอน และไส้กรอก อะไรมันจะฟินไปกว่านี้ หุหุหุ ^-^

จะลงเล่นน้ำในสระก่อนไปเล่นน้ำทะเล หรือเล่นน้ำทะเลแล้วมาลงสระก็ได้ทางรีสอร์ทขอให้ใส่ชุดว่ายน้ำและล้างตัวก่อนลงสระก็พอ ^^

บริเวณหน้าหาดช่วงบ่ายๆ น้ำจะลดเห็นหินผุดขึ้นมา ก็สวยไปอีกแบบ 

อาหารมื้อเย็น ทางรีสอร์ทจัดเป็นอาหารทะเลมาให้ โฮ๊ะโฮ๊ะโฮ๊ะ จัดไปคะ!!!! 

มีเวลาอยู่ที่นี้ 3 วัน ขอสารภาพไม่ได้ไปไหนเลย เพราะ  เดิน นอน กิน เล่นน้ำอยู่ที่รีสอร์ท จริงๆ แล้ว เรามาทำงานนะ 555 ไม่มีเวลาเช่ารถมอเตอร์ไซด์ขี่รอบเกาะ หรือไปดำน้ำดูปะการัง เพราะเพียงแค่เราเอื้อนเอ่ยทางรีสอร์ทเขาจะจัดทริปให้ เรื่องราคาของแต่ละกิจกรรมต้อสอบถามกันเองนะคร้า ^^

ถึงเวลาต้องกลับแล้วสินะ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไฟล์ทออก 1 ทุ่มครึ่ง พี่ผู้จัดการจึงจัดทริปเล็กๆ เที่ยวในเส้นทางที่จะไปสนามบินให้ เริ่มจากการพาไปน้ำพุร้อน ที่แรกคุยกับพี่คนขับรถตู้ จึงรู้ว่า ที่นี้มี "น้ำตกร้อน - น้ำจืด" กับ "น้ำพุร้อน - น้ำเค็ม" เราก็เริ่มสับสนเพราะทีแรกเข้าใจว่าคือทีเดียวกัน แต่พี่คนขับรถตู้ถามอยากไปไหนครับ น้ำตกร้อนเคยไปแล้ว งั้นไปน้ำพุร้อนดีกว่า 555

การแช่น้ำพุร้อน ขอแนะนำว่าให้แช่ไม่เกินครั้งละ 5 นาที เพราะร้อนจริงไรจริง ร้อนทั้งน้ำและร้อนทั้งแดด 555 

เสร็จจากการเดินเล่น แข่น้ำเฉพาะขาแล้ว ยังมีเวลาไปวัดถ้ำเสือ จึงตั้งเป้าไปไหว้พระก่อนกลับ ตามเส้นทางเลยสนามบินกระบี่ประมาณ 10 กิโลเมตร ก่อนถึงวัดจะมีร้านขนมครก เจ้าอร่อย ขอบอกต้องแวะชิมนะคร้า แล้วคุณจะติดใจ 5555

  บริเวณภายในวัดถ้ำเสือกว้างมาก สามารถเดินเข้าไปชมในถ้ำ หรือจะเดินขึ้นไปบนเขาก็ได้ แต่รอบนี้ด้วยเวลาจำกัด จึงขอเดินไปดูในถ้ำนิดหน่อย แต่ไม่ขึ้นไปบนเขาเพราะเจ้าหน้าที่บอกต้องใช้เวลาในการเดินประมาณ 1.30 ถึง 2 ชั่วโมง แล้วแต่ความแข็งแรงของแต่ละคน กะการเดินขึ้นบันได 1,237 ขั้น

สนุกสนานกะการวิ่งไล่เจ้าจ๋อที่แอบมาขโมยขนม ของกินของนักท่องเที่ยว ถึงเวลากลับจริงๆ แล้วสินะ บ๊ายบาย เจ้าจ๋อ แห่งเมืองกระบี่ หากนางพูดได้คงร้องเพลงนี้ให้นักท่องเที่ยวฟัง "หากมีเวลา มาเยี่ยมกันหนา บ้างเน้อพี่เน้อ..." 555 ความน่ารัก ความซุกซนของลิงไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนไม่มียอมแพ้กันจริง ๆ แล้วค่อยกลับมาเจอกันอีกนะเจ้าจ๋อ ^-^

ค่าใช้จ่ายตลอดทริป>>> 3 คืน 4 วัน 

- ค่าแท๊กซี่ไป-กลับ สนามบิน - บ้าน   =    500.- บาท

- เครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ - กระบี่ =  1,430.-บาท 

- ค่าที่พัก                                        =  2,370.-บาท 

- ค่าอาหารกลางวัน - อาหารเย็น        =  2,500.-บาท

- ค่าขนม นมเนย (ระหว่างทาง)          =    550.-บาท

- ค่ารถรับส่ง จากสนามบิน - รีสอร์ท    =   600.-บาท

- ค่าเข้าน้ำพุร้อน                               =     20.-บาท

- ค่าของฝาก                                    =   500.-บาท 

ใครสนใจติดต่อ คุณนก ผู้จัดการรีสอร์ท ซี แซนด์ ซัน รีสอร์ทเกาะลันตา โทร. 08 4005 8877 , 08 1713 3999, 0 7566 7128