รถไฟนำเที่ยวขบวนพิเศษ กรุงเทพ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

มาแล้ว! ทริปพิเศษ นั่ง “รถไฟลอยน้ำ” ชมเขื่อนป่าสักฯ เปิดวิ่ง 6 เที่ยว ม.ค. นี้ เท่านั้น

 

อ้าววววว ไปสิครัช รออะไร!!!!!!!!

> ปกติแล้วรถไฟนำเที่ยวขบวนนี้จะเปิดรอบปีละครั้ง ไม่ได้มีจัดตลอดทั้งปี เนื่องจากจะจัดช่วงที่มีดอกทานตะวันบาน นั่นคือประมาณเดือน พ.ย.-ธ.ค. แต่ปี 59 เลื่อนมาจัดช่วงเดือน ม.ค.60 แทน

> จัดให้มีเที่ยว 6 วันเท่านั้น 
วันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2560
วันอาทิตย์ 15 มกราคม 2560
วันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2560
วันอาทิตย์ 22 มกราคม 2560
วันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2560
วันอาทิตย์ 29 มกราคม 2560

 

> รถไฟออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 07.10 น. เที่ยวกลับจากเขื่อนป่าสักฯ เวลา 15.00 น. ถึงกรุงเทพ เวลา 18.30 น.

 

> รถไฟจะจอดที่สถานีกรุงเทพ สามเสน บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง อยุธยา สระบุรี แก่งคอย แก่งเสือเต้น เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และโคกสลุง

> ราคารถไฟลอยน้ำ : เป็นราคาเหมาต่อวัน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม
270 บาท (ไป-กลับ) สำหรับคนที่ขึ้นตั้งแต่สถานีกรุงเทพ – อยุธยา
110 บาท (ไป-กลับ) สำหรับคนที่ขึ้นสระบุรีและแก่งคอย
60 บาท (ไป-กลับ) สำหรับคนที่ขึ้นแค่ไปนั่งรถไฟลอยน้ำช่วงแก่งเสือเต้น และสันเขื่อน

 

(ขอขอบคุณข้อมูลจาก ทีมนั่งรถไฟ กับนายแฮมมึน และ ทีม พีอาร์ การรถไฟแห่งประเทศไทย)

 

 

.......ว่าแล้วก็เลือกที่จะไปช่วงปลายๆ เดือน เพราะคิดว่าวันแรกๆ โดยเฉพาะวันที่ 14 คนคงจะเยอะแน่นอน เนื่องจากตรงกับวันเด็กด้วย

 

......จึงรีบหยิบโทรศัพท์กดเบอร์ 1690 เพื่อจะจองที่ แต่ปลายสายแจ้งกลับมาว่าขณะนี้วันที่ 20/21/28/29 เต็มหมดแล้ว เหลือแค่วันที่ 15 ซึ่งตอนนี้มีว่าง 4 ที่ และวันที่ 14 ยังว่างอยู่ประมาณ ร้อยกว่าที่ ยิ่งไปกว่านั้น หากจะไป 2 วันนี้จะต้องไปซื้อตั๋วที่สถานีที่มีช่องจำหน่ายตั๋วเท่านั้น  หากจะจองในเวปหรือกับ call center ต้องจองล่วงหน้า 5 วัน 

 

......เอิ่มมมม นี่เพิ่งวันแรกที่เพิ่งเปิดจองเองนะ 13 ม.ค. และเป็นเวลา 15:00 น. เอาไงดีล่ะทีนี้ ตอนนี้ก็อยู่ในห้องประชุม จิตใจก็ว้าวุ่น จะรอจนเลิกประชุมหลังเลิกงานแล้วค่อยฝ่าการจราจรไปซื้อ ก็เกรงว่าจะไม่ทัน พี่เลยตัดสินใจลองเรียกใช้บริการอันทันสมัยในปัจจุบันนี้ คือการเรียกใช้บริการ messenger 

 

......เลยลองเรียกใช้บริการของ lalamove ให้คุณพี่ messenger ช่วยไปซื้อตั๋วให้ที 

 

......เอาล่ะ ตอนนี้ ตั๋วพร้อม คนพร้อม ใจพร้อม ลุย!!!!! ......

 

 

> ตอนซื้อตั๋ว เจ้าหน้าที่จะระบุตู้ขบวน และหมายเลขที่นั่งให้เลย เพราะฉะนั้นรับประกันว่ามีที่นั่งแน่นอน ไม่ต้องใช้วิธีแย่งกันขึ้น 

> แนะนำขอให้เลือกที่นั่งด้านขวาของรถไฟ เพราะจะได้เห็นวิวที่สวย ไม่มีสายไฟมารกตาและเฟรมภาพ

> เราเลือกขึ้นที่สถานีดอนเมือง เพราะใกล้บ้านและเห็นว่าเป็นสถานีหลักๆ และกะว่าจะมาซื้อของที่เซเว่นก่อน (แต่ปรากฏว่าไม่มีเซเว่นที่สถานีนี้จ้า) 

> ตามที่ได้เช็คข้อมูลมาแล้วว่า รถไฟจะมาถึงสถานีดอนเมืองประมาณ 7:50 เลยไม่ต้องรีบสักเท่าไหร่ก็ได้  เพราะเตรียมทำใจกับเวลาของรฟท. แล้ว แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันเด็ก และอยู่แถวสนามบิน, ทอ. ด้วยเลยกลัวรถจะติด จึงออกมาเร็วสักหน่อย และเมื่อมาถึงก็ได้เดินเข้าไปสอบถามพนักงานที่ช่องจำหน่ายตั๋วอีกที เพื่อถามข้อมูลให้แน่ใจว่ารถไฟขบวนนี้จะมาจอดที่นี้แน่นะจ้ะ

> 7:30 น. มาถึงก่อนเวลารถไฟมา ก็เผื่อเวลามาเดินถ่ายรูปเล่นบริเวณสถานี

 

> พอดีวันนี้ตรงกับวันเด็กพอดี เลยได้ดูเครื่องบินโชว์ไปด้วยระหว่างรอรถไฟ

> นอกจากนี้ทางสถานีฯ ได้มีไอศครีมมาตั้งแจกให้กับเด็กๆ ด้วย   > เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชม. พนักงานก็ประกาศว่ารถไฟขบวนนำเที่ยวนี้ยังไม่ออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เลย โอ้ว แม่เจ้าาา นี่ขนาดเผื่อเวลา และเตรียมทำใจเรื่องการเลทของ รฟท. มาแล้วนะเนี่ย ก็นั่งรอ ร๊อ รอ กันปายยยย  > 9:50 น. รถไฟขบวนนำเที่ยวกรุงเทพ - เขื่อนป่าสักฯ ก็มาาาาาาา หลังจากเลทไป 2 ชม.จ้าาา!!!! เบาๆ (จากเดิมเวลา 7:50)   > ภายในตู้รถไฟ จะมีผู้โดยสารที่ขึ้นกันมาแล้วจากต้นทาง และสถานีต่างๆ เราก็เดินหาหมายเลขที่นั่งของเราได้เลย 
> ขบวนนี้เป็นขวบนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่แล้วทั้งขบวน เบาะค่อนข้างนั่งสบายเลยทีเดียว แต่ถ้าใครไม่ชินก็อาจมีปวดหลัง กันบ้าง > เมื่อรถไฟเคลื่อนขบวนไปได้สักพัก หยุดจอดรับผู้โดยสารตามสถานีครบแล้ว ก็จะมีเจ้าหน้าที่เดินมาประกาศกล่าวต้อนรับและแนะนำเกี่ยวกับรถไฟขบวนนำเที่ยวพิเศษนี้   > และมีเจ้าหน้าที่มาตรวจตั๋ว เพราะฉะนั้น ที่เห็นที่นั่งว่างๆ จะไปเนียนไปนั่งไม่ได้นะจ้ะ   > เจ้าหน้าที่แจกเอกสารแนะนำโปรแกรมเที่ยว > ปล่อยใจ นั่งชิว ชมวิว รับลม กับสองข้างทางนอกหน้าต่าง > บางช่วงจะเห็นทุ่งทานตะวันยังพอหลงเหลืออยู่บ้าง > บางแปลงก็เตรียมพื้นที่ ที่รอให้เติบโตใหม่ > ด้วยขบวนนำเที่ยวพิเศษนี้ จะเป็นขบวนที่จะไม่มีการจอดระหว่างทาง (เว้นบางสถานีที่แวะจอดให้ผู้โดยสารซื้อตั๋วขบวนนำเที่ยวนี้ขึ้นเท่านั้น) ดังนั้น เหล่าแม่ค้า จะขึ้นได้แค่บางสถานีเท่านั้น ดังนั้น ถ้าใครจะหวังว่าจะมีของมาขายระหว่างทางตลอดเหมือนรถไฟขบวนอื่นๆ นั้น ไม่มีตลอดนะจ้ะ > ลุกเดินมายืดเส้น ยืดสาย ถ่ายรูปตรงประตูรถไฟ สักหน่อย   > เมื่อผ่านสถานีแก่งคอยและสถานีเขื่อนป่าสักฯ ก็จะเริ่มเคลื่อนขบวนไปตามทางที่ทอดยาวข้ามไปบนอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน 
**แนะนำให้จองนั่งฝั่งขวาจะได้วิวที่สวย ไม่ติดสายไฟ** > รถไฟลัดเลาะบนอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน ล่องลอยกลางน้ำ > 12:25 น. เมื่อมาถึงกลางเขื่อนฯ รถไฟจะจอดเพื่อให้นักท่องเที่ยวลงมาถ่ายรูปกันได้ ประมาณ 30 นาที > ทิวทัศน์ > ฟ้าโปร่ง เมฆสวย > รถไฟขบวนพิเศษนำเที่ยว เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์   > 13:00 น. เมื่อได้เวลา เจ้าหน้าที่ก็จะเรียกให้นักท่องเที่ยวขึ้นรถไฟ เพื่อเคลื่อนขบวนไปต่อที่สถานีปลายทาง โคกสลุง เพื่อทำการเปลี่ยนหัวจักรรถไฟ > มีเจ้าหน้าที่ขึ้นมาประชาสัมพันธ์โปรแกรมเที่ยวและกิจกรรมที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
- การแสดงวิถีชีวิตชุมชนไทยเบิ้ง
- จำหน่ายสินค้า OTOP
- พิพิธภัณฑ์โครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสักในพระราชดำริ
- นั่งรถตัวหนอนชมเขื่อน สักการะพระใหญ่ที่อยู่ในฟากของ อ.วังม่วง จ.สระบุรี
- สวนดอกทานตะวนในเขื่อน
- นั่งรถม้า ชมฟาร์มแกะ ฟาร์มแพะ   > เมื่อรถไฟเปลี่ยนหัวรถจักรเสร็จแล้ว ก้เริ่มออกจากสถานีโคกสลุงเพื่อลากรถไฟกลับไปแวะให้เที่ยวที่สถานีเขื่อนป่าสักฯ > ฟ้าใส เมฆสวย ทำให้คิดถึง "พ่อที่อยู่บนสวรรค์"     > 13: 40 น. รถไฟ ก็มาจอดที่สถานีเขื่อนป่าสักฯ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้พักรับประทานอาหาร และทำกิจกรรม หรือช้อปปิ้ง ได้ตามอัธยาศัย โดยให้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 2 ชม. รถไฟจะออกตอน 16:00 > สถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์   > ที่เขื่อนป่าสักฯ มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของฝากให้เลือกกันมากมาย > เมื่อเดินเข้ามาจะเห็นป้ายบอกทางต่างๆ   > มีเจ้าหน้าที่คอยประชาสัมพันธ์กิจกรรมภายในงาน > การแสดงของชาวไทยเบิ้ง > ร้านค้ามากมายให้ช้อป ชิม > เมื่อมาถึง เรารีบไปซื้อตั๋วเพื่อนั่งรถหนอนชมเขื่อนฯ ก่อน เนื่องจากใช้เวลาประมาณ 50 นาที เดี๋ยวจะไม่ทันรถไฟขากลับ แล้วค่อยมาทานข้าว  และจะได้ไม่ต้องชลมุนวุ่นวายแย่งสั่งอาหารตอนลงจากรถไฟมาด้วย 
> ราคาตั๋ว 25 บาท   > บรรยากาศภายในเขื่อนฯ แดดค่อนข้างร้อน > หน้าตารถตัวหนอนชมเขื่อนฯ

> รถจะพามาแวะไหว้พระสักการะ "พระพุทธรัตนมณีมหาบพิตรชลสิทธิ์มงคลชัย" ประมาณ 15 นาที

> มีธูปเสี่ยงโชค พอจุดธูปหมดแล้วจะมีตัวเลขขึ้นมา แต่ต้องกลับมาจุดที่บ้านนะ ถ้าจุดที่นี่ กว่ารอธูปหมด คงตกรถ

> ขับเลาะชมรอบเขื่อนฯ

> ที่เขื่อนฯ นอกจากจะมีรถตัวหนอนชมวิวแล้ว ยังมีรถกอล์ฟไว้คอยให้บริการขับเอง ราคาคิดเป้นชม.ละ 350 บาท 2 ชม.คิด 500 บาท 

> 15:00 ได้เวลาอันสมควร หลังจากนั่งรถชมเขื่อนเสร็จ ก็มาหาอะไรทานก่อนรอเวลาขึ้นรถไฟกลับ

> พนักงานต้อนรับของร้าน "น้องฟ้าใส" เชื่องและน่ารักมาก

> 15:30 น. รถไฟก็มาจอดรอเทียบท่า รอเวลาออกตอน 16:00 น.

> เมื่อขบวนเคลื่อน และแล้วก็ได้เวลาล่องกลับกทม.

> เสน่ห์อย่างหนึ่งและสิ่งที่จะได้จากการนั่งรถไฟ ต่างจากเครื่องบินหรือรถยนต์ นั่นคือวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่าง

> มุ่งหน้าสู่ปลายทางกทม.

> 18:00 น. รถไฟเทียบท่าสถานีดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ

 

: Never miss an opportunity to see something beautiful. :