ไร่แสงอรุณ มาพักสักทีก็ดีเหมือนกัน

เมื่อไหร่ที่เราต้องการไปเที่ยวเพื่อเติมพลังหรือชาร์ตแบตให้ชีวิตอันคร่งเครียด วุ่นวาย

หลบไปพักใจพักกายแบบสบายๆ ไม่เร่งรีบ ชมบรรยากาศดีๆ นอนหลับเต็มที่ อาหารอร่อย

สถานที่ที่จะต้องถูกนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ ก็คือ “ไร่แสงอรุณ”

เราเชื่อว่าเพื่อนๆหลายๆคนน่าจะเคยได้ยิน เคยผ่านตากับรีวิวเยอะแยะมากมาย หรืออีกหลายๆท่านคงเคยไปพักที่นี่กันมาบ้างแล้ว แต่ด้วยความประทับใจกับ “ไร่แสงอรุณ” เราเลยขอหยิบที่พักดีๆแห่งนี้

มารีวิวเป็นข้อมูลเพิ่มเติมให้กับใครที่สนใจและอยากไปพักที่นี่

เผื่อจะได้มีความประทับใจดีๆ แบบเรากันค่ะ

ไร่แสงอรุณ อยู่อำเภอเชียงของ จ.เชียงราย เอ....แล้วมันอยู่ตรงไหนของเชียงของล่ะ

ที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ระหว่างทางจากเชียงแสนไปเชียงของ ตามรูปนี้เลย

(ที่มา : http://www.raisaengarun.com/ )

การเดินทาง: ถ้าต้องการแบบสะดวกจริงๆ ก็คงเป็นรถส่วนตัว เริ่มต้นจากเชียงราย สามารถวิ่งมาทางแม่สาย เชียงแสน เพื่อแวะเที่ยวท่าขี้เหล็ก สามเหลี่ยมทองคำ แล้วขับต่อไปเชียงของด้วยถนน 1290 เส้นเลียบโขง เข้าที่พักในช่วงบ่าย ระยะทางจากอ.แม่สายมาถึงไร่แสงอรุณ ประมาณ 80 กิโลเมตร ขับประมาณชั่วโมงครึ่ง หรืออาจขับยาวจากเชียงรายมาที่ไร่โดยตรง ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร ใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมง 45 นาที ตั้งพิกัด GPS ตามนี้ได้เลย ค่ะ

http://www.raisaengarun.com/index.php?raifile=location_map.php

แต่ถ้าไม่มีรถส่วนตัว ก็สามารถนั่งรถทัวร์มาลงตัวอำเภอเชียงของ แล้วนั่งรถสองแถวจากตลาดเชียงของไปยังไร่แสงอรุณ หรืออาจติดต่อให้ทางไร่มารับ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ต้องติดต่อสอบถามกับทางไร่ค่ะ

ที่พักที่บ้านไร่แสงอรุณมีหลายแบบ บรรยากาศแต่ละหลังก็แตกต่างกันไป ทั้งบ้านริมโขง บ้านแสงอรุณ บ้านเดือนแจ่ม บ้านเพียงออ และบ้านบึงบัว แต่ที่ฮิตๆติดลมบนก็คงเป็นบ้านริมโขง เพราะเดินไม่ไกลและได้บรรยากาศริมแม่น้ำโขง กับบ้านแสงอรุณ เพราะได้วิวภูเขากว้างๆ สุดสายตา ชอบแบบไหน เลือกจองและพักได้ตามอัธยาศัยเลยค่ะ แต่ถ้าอยากพักริมโขงต้องจองล่วงหน้านานๆหน่อย คิวเต็มเร็วกว่าเพื่อน

ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เรามาพักที่นี่ มารอบแรกช่วงหน้าฝน เลือกพักที่บ้านแสงอรุณ เก็บความประทับใจกลับไปมากมาย ครั้งที่สองนี้ ตั้งใจว่าจะลองเปลี่ยนบรรยากาศ พักบ้านริมโขงดูบ้าง แต่สุดท้ายก็คิดถึงวิวพาโนราม่าของทิวเขาและบ้านพักใหญ่ๆ เลยตัดสินใจจองบ้านหลังเดิมค่ะ “บ้านแสงอรุณ1"

รอบนี้เป็นการขับรถต่อมาจากน่าน เลยไม่ได้แวะเที่ยวที่ไหนเลยค่ะ ขับยาวมาถึงไร่แสงอรุณประมาณบ่ายสองนิดๆ  ที่นี่ยังคงให้กลิ่นอายแบบเดิม สดชื่น โปร่งตาโปร่งใจ แค่ย่างเท้าเข้ามา ก็รุ้สึกผ่อนคลาย เรากำลังจะได้เติมพลังกันแล้วค่ะ นี่ตั้งใจจะนอน กิน เดิน เล่นให้เต็มที่เลย

 

ไร่แสงอรุณมีถนนผ่านตรงกลาง ถ้ามาจากเชียงแสน โซนริมน้ำจะอยู่ซ้ายมือ เป็นส่วนร้านอาหาร  reception ห้องประชุมริมโขง และบ้านพักแบบริมโขง ส่วนทางขวามือจะเป็นโซนภูเขา ตามรูปค่ะ

(ที่มา : http://www.raisaengarun.com/ ) ระยะทางอีกยาวไกล

นอกจากจะมีวิวสวยๆบรรยากาศดีแล้ว ไร่แสงอรุณยังเป็นไร่สมกับชื่อที่พักอีกด้วย ที่พักนี้ทำการเกษตรสารพัดชนิด ทั้งปลูกข้าว ทำแปลงผัก ปลูกพืช ปลูกผลไม้ วัตถุดิบเกือบทั้งหมด จึงสะอาดปลอดสารพิษ ปลูกเองเก็บเองในไร่ คราวนี้มาหน้าหนาว จึงไม่ได้เห็นทุ่งข้าวเขียวขจี นาข้าวกำลังออกรวงสีทองและถูกเก็บไปเกือบหมดแล้ว 

ถ้าเป็นหน้าฝน รอบตัวจะเขียวชอุ่ม สดชื่่น

เดินขึ้นเขามาพอหอบๆ ก็ยังต้องเดินทางราบไปยังบ้านอีกค่ะ ไกลพอสมควร 

http://www.raisaengarun.com/images/line.gifทางไปบ้านพักหลังต่างๆ บ้านแสงอรุณอยู่ไกลสุดเลย

เดินมาประมาณ 20 นาที เกือบๆครึ่งชั่วโมงเลยค่ะ เดิบไปหอบไป 555 

สุดท้ายบ้านแสงอรุณ1 ก็มาอยู่ตรงหน้าค่ะ หายเหนื่อยน้า บอกเลย

 เข้าไปดูข้างในกันค่า ชอบดีไซน์ห้องน้ำสุดๆ ยังคงคอนเซปไม้ๆไว้อย่างครบถ้วน มีประตูสองชั้น แยกส่วนเปียกส่วนแห้ง

ส่วนเปียกเป็น open air เลยจ้า อาบลมห่มฟ้า รับอากาศสดชื่นกันเต็มๆ

บรรยากาศดีขนาดไหน ดูเลยค่ะ มองจากเตียงก็เห็นวิวภูเขาสุดสายตา  แค่ตื่นเช้ามา หันไปทางขวาจากเตียง ก็สุขสุดๆแล้ว  บนโต๊ะข้างเตียงมีสมุดบันทึกความทรงจำกับบ้านแสงอรุณให้เขียนด้วยค่ะ เราเขียนทั้งสองรอบเลย  นั่งอ่านความประทับใจของคนที่มาพักแต่ละคนแล้วอมยิ้มตามเลย  จุดขายของบ้านแสงอรุณอีกอันคือ ระเบียงกว้างมากๆไว้นั่งเล่นชมวิวดีๆ  เพราะต้องใช้พลังงานในการเดินมาถึงบ้านแสงอรุณมากกกกก ไอ้ครั้นจะเดินไปกลับเพื่อทานข้าวเย็นจึงเป็นความลำบากของเรา 555 เราเลยใช้บริการส่งอาหารเย็นมาทานที่ห้องพัก โดยแจ้งและสั่งอาหารไว้ที่ฟร้อนท์ตั้งแต่เช็คอิน บอกได้เลยค่ะว่าทานตอนกี่โมง คือ...พนักงานของไร่แสงอรุณตรงเวลามากๆค่ะ เรามาสองครั้งแจ้งว่าจะทานตอนหกโมงเย็นทั้งสองครั้ง พอเพลงชาติขึ้นในทีวี ก็มีเสียงกดกริ่งส่งอาหารตรงเวลาเป๊ะทั้งสองครั้งเลย ถ้าสั่งมาทานที่ห้องเค้าจะใส่ปิ่นโตสแตนเลสมาค่ะ พร้อมยาพ่นกันยุง เวลานั่งทานที่ระเบียงจะได้นั่งสบายๆ อาหารที่นี่อร่อยทู้กอย่าง ผักสดกรอบ วัตถุดิบใช้ของดี วันนี้สั่งมาสามอย่างค่ะ หมดเรียบบบ ยำคะน้ากุ้งสด นี่ติดใจเป็นพิเศษ มาสองครั้ง สั่งสองครั้งเลยผลไม้วันนี้เป็นสตรอเบอรี่สดๆจากไร่ของรีสอร์ทค่ะ ตอนมาเช็คอินมีขายพอดี เลยซื้อติดมือมาทานหลังข้าวเย็นด้วย บรรยากาศกลางคืนก็สวยค่ะ คืนนี้ได้นั่งเล่น คุยกันสบายๆ นอนมองดาว สูดอากาศดีๆ ริมระเบียง ใช้ชีวิตเพลินๆที่คงทำได้ยากในชีวิตประจำวัน ได้พักผ่อนอย่างแท้จริง ได้มีเวลาให้กันมากขึ้น ก็คุ้มค่ากับการเดินทางมาไกล  หลังจากได้นอนหลับเต็มที่ และมีฝนตกตอนกลางคืนเล็กน้อย ตอนเช้าเลยมีหมอกบางๆ ให้พอกรี๊ดกร๊าดกับวิวดีๆแบบนี้  จิบแฟ เสพย์วิว ฟินนน บ้านแสงอรุณยามเช้า มื้อเช้าสามารถเลือกทานที่บ้านพักเหมือนตอนเย็นก็ได้ค่ะ แต่เราอยากสัมผัสบรรยากาศริมน้ำโขง  เลยยอมเหนื่อยเดินไปทานข้างล่าง ระหว่างทางคุ้มกับที่ยอมเดินมาเลยค่ะ อากาศดีจริงๆ   หันไปทางไหนก็สดชื่น ชุ่มฉ่ำ  แปลงผักสวนครัวของรีสอร์ท มีครบเลย เขียวสด น่ากิน น้องเหมียว พนักงานตอนรับตัวเล็กประจำรีสอร์ท มารอบนี้ ผอมไปเยอะเลย บ้านริมโขง ไว้วันหน้าจะต้องลองมาพักให้ได้ค่ะ  เช้านี้นั่งทานเช้าตรงนี้ค่ะ อาหารเช้าง่ายๆ แต่อร่อย อาจจะเพราะทุกอย่างสดใหม่ และได้เห็นบรรยากาศดีๆ เลยช่วยให้เจริญอาหารมากขึ้น

 

น้ำสลัดโฮมเมด

ซุปผักถ้วยนี้ หวานอร่อยมากค่ะ ใส่ทั้งฟักทอง แครอท ข้าวโพด ข้างๆที่ทานข้าว ก็มีแปลงผักปลูกยาวไปจรดริมโขงเลยค่ะ สายน้ำ ไอหมอก ภูเขา 

ถึงแม้จะได้มาพักแค่เพียงคืนเดียว แต่ความประทับใจ ความสุขใจ ก็ได้รับกลับไปเต็มที่ ทำงานกับความเคร่งเครียด วุ่นวาย เจอรถติด สู้รบกับคนปวดหัว พอได้มาพักผ่อนสบายๆแบบนี้สักที ก็ทำให้มีแรงใจ พลังกาย กลับไปลุยอะไรต่างๆได้ดีทีเดียว  

ปิดรีวิวด้วยภาพนี้ "ไร่แสงอรุณ" มาพักสักทีก็ดีเหมือนกัน