Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
    • Posts-1
    Nina •  February 03 , 2016

    Amari Hua Hin


    AMARI HUA HIN
    ที่ตั้ง : ทางไปเขาตะเกียบ
    https://www.facebook.com/amarihuahin
    http://www.amari.com/huahin

    :+: :+: :+: :+: :+: :+: :+: :+:

    แวะเที่ยว Camel Republic แวะทานมื้อกลางวันที่ Alpaca Restaurant แล้ว
    ก็ได้เวลาเดินทางสู่ที่พักค่ะ

    Amari Hua Hin - ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของแคมเปญ
    Discover "Hua Hin" The Amari Way
    ซึ่งมอบโอกาสให้เราเป็นผู้โชคดี 1 ใน 3 ของกิจกรรมนี้
    :)

    ส่วนตัวแล้ว เราไม่เคยเข้าพักโรงแรมในเครืออมารีมาก่อน
    เคยแต่ไปร่วมสัมมนาในโรงแรมอมารีที่กรุงเทพฯ

    และภาพของอมารีที่เราเคยเห็นผ่านตา ก็ถูกลบออกไป
    เมื่อย่างก้าวแรกที่มาถึงที่นี่ .... “อมารี หัวหิน”



    “อมารี สีสันและจังหวะแห่งเอเชียสมัยใหม่”
    คำจำกัดความนี้มีขึ้น
    หลังจากมีการ rebranding แบรนด์อมารีใหม่ในรูปโฉมที่ทันสมัยมากขึ้น

    และเราก็รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ
    เพราะภาพลักษณ์ที่เราเคยมีต่ออมารีได้เปลี่ยนไป จากการได้มาสัมผัสในครั้งนี้

    นอกจากนี้ อมารี หัวหินยังถือเป็นโรงแรมต้นแบบของโรงแรมอมารีสาขาอื่นๆ
    หลังจากการมีการ rebranding
    (อมารี หัวหินเป็นโรงแรมสร้างใหม่ เปิดได้ประมาณ 3 ปี)
    .
    .

    บริเวณโถงต้อนรับหรือ lobby เป็นเพดานสูงโปร่ง
    ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำเงิน-ขาว ให้ความรู้สึกของการมาเที่ยวทะเล

    ++ แอบมาเก็บภาพล๊อบบี้ยามดึก เพราะช่วงกลางวันคนเยอะตลอด ++


    ทราบมาว่า เนื่องจากอมารีหัวหินไม่ได้อยู่ติดชายหาด
    เลยพยายามนำสิ่งที่มีอยู่ใกล้ตัวรอบๆ นำมาประดับตกแต่งรวมไว้ในโรงแรม
    ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล
    (นึกภาพตามง่ายๆ แบบเดียวกับที่พระราชวังมฤคทายวันค่ะ)

    การตกแต่งแบบคลาสสิก
    หากแต่ดูไม่เก่า มีความทันสมัยแฝงอยู่ในตัวเอง

    ได้บรรยากาศบ้านพักตากอากาศของเมืองหัวหิน ซึ่งเป็นที่นิยมในอดีตกาล
    เท่าที่สังเกต รูปภาพติดผนังที่นี่ จะเป็นสีขาวดำทั้งหมด
    ไม่เว้นแม้แต่ภาพวาดที่ประตูลิฟต์



    และทั้งหมด เป็นภาพที่สื่อความหมายของเมืองชายทะเล
    เมืองที่มีเสน่ห์มนต์ขลังมานับตั้งแต่อดีตกาล
    - หัวหิน -


    .
    .

    ครอบครัวเรามาถึงที่พักประมาณ 1600 น.
    ทำการเช็คอิน พร้อมด้วยผ้าเย็นและเครื่องดื่มเย็นที่ถูกเตรียมไว้ต้อนรับ

    โปรแกรมเดิมหลังจากมาถึงที่พัก คือจะมี Afternoon Tea เตรียมไว้ให้
    ที่ Coral Lounge ซึ่งอยู่ติดกับล๊อบบี้

    แต่เนื่องจากมาถึงค่อนข้างเย็นแล้ว
    ประกอบกับลูกหมีร่ำร้องอยากเล่นน้ำ ก็เลยเข้าห้องพักทันที

    ++ โถงหน้าลิฟต์ ++


    ตัวอาคารที่พักจะมีอยู่ 2 อาคารด้วยกัน
    และมีสระว่ายน้ำตรงกลาง

    ++ อาคารด้านซ้าย คือ ตึก 1 และอาคารด้านขวาคือ ตึก 2 ++


    ห้องพักที่นี่ แบ่งเป็น 3 แบบหลักๆ
    * Deluxe จำนวน 207 ห้อง
    * Family Suite จำนวน 8 ห้อง
    * Suite จำนวน 8 ห้อง
    (รวมเป็น 223 ห้อง)

    ////////////////////////////////////////////////////////

    • Posts-2
    Nina •  February 03 , 2016

    Family Suite

    :+: FAMILY SUITE :+:

    การเข้าพักครั้งนี้ เราได้ห้องพักแบบ Family Suite
    ซึ่งประกอบด้วย 1 ห้องนอนเล็ก + 1 ห้องนอนใหญ่ + มุมนั่งเล่น
    มี 1 ห้องน้ำ แต่จัดสรรพื้นที่ได้ดี และกว้างขวางค่ะ
    ซึ่งสามารถเข้าพักได้มากถึง 4 คน
    (พื้นที่โดยรวม 77 ตารางเมตร)

    ++ Master Bedroom ++


    ภายในห้องนอนเล็ก เป็นเตียงคู่ (twin bed)
    พร้อมโต๊ะทำงาน ซึ่งค่อนข้างจะเอนกประสงค์ทีเดียว
    นอกจากนี้ ยังมี stationery set เตรียมไว้ให้ด้วยค่ะ



    เราชอบไอเดียบานเลื่อนกระจกติดกับโต๊ะทำงาน
    เมื่อปิดบานเลื่อน ก็สามารถแทนโต๊ะเครื่องแป้งได้
    แต่เมื่อเปิดออก จะทะลุถึงโถงทางเดินทำให้มีพื้นที่ในการวางของมากขึ้น
    เมื่อเดินกลับเข้ามาในห้อง พร้อมสัมภาระจุกจิก

    ++ ยามเมื่อปิดบานเลื่อน ++


    ++ เมื่อเปิดบานกระจกออกและมองจากฝั่งด้านนอกเข้าไปยังห้องนอน ++


    ถัดไปยัง มุมห้องนั่งเล่น
    Welcome Fruits และโถขนมเล็กๆถูกจัดเตรียมไว้
    พร้อมกับเก้าอี้โยก



    ห้องนอนใหญ่เป็นเตียงเดี่ยวแบบ King Size
    พร้อมหมอนหนุนมากมายหลายใบ
    (อันนี้ก็ชอบเป็นการส่วนตัว เพราะสามีเป็นคนนอนหนุนหมอนสูงๆค่ะ)







    หัวเตียง ติดกับกระจกบานเลื่อนบานใหญ่ เปิดออกสู่ระเบียง
    ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทะเลได้ไกลๆ
    พร้อม iPod Dock ที่หัวเตียง

    ++ ระเบียงนี้ เป็นทั้ง sea view และ pool view ++


    ++ มุมระเบียง สามารถชมแสงแรกของวันได้ในยามเช้า ++


    ++ วิวจากด้านข้างระเบียง ++


    มีเครื่องเล่น DVD ให้ภายในห้องพัก



    ห้องน้ำแยกส่วนเปียก-ส่วนแห้งอย่างดี
    พร้อมอ่างล้างหน้า 2 อ่าง ตามประสาห้องใหญ่พักกันหลายคน



    ห้องอาบน้ำมีทั้งฝักบัว และ rain shower
    แต่ไม่มีอ่างอาบน้ำค่ะ

    อุปกรณ์ Bathroom Amenities ที่นี่ ใส่มาในขวดรูปทรงทันสมัย
    ทราบมาว่าเป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในสปา
    (แอบเสียดาย ที่ไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชม Breeze Spa เลย)

    ส่วนห้องสุขา สามารถเปิดบานเกล็ด เพื่อชมวิวทะเลได้
    และคำถามที่มักจะโดนถามอยู่บ่อยๆเมื่อเขียนรีวิวที่พัก
    “มีสายชำระหรือไม่?”

    ขอตอบด้วยภาพๆนี้ละกันค่ะ
    (ชิงตอบก่อนเลย)
    v
    v


    Mini Bar ต่างๆ ตามมาตรฐานทั่วไป
    พร้อมกาต้มน้ำร้อน และชา-กาแฟบริการฟรี

    ในส่วนของตู้เสื้อผ้า ... ซึ่งน่าจะเรียกว่า Walk-in Closet มากกว่า
    มีอุปกรณ์ครบครัน ทั้งเตารีด, ที่รองรีด, beach bag, ร่ม, ชุดคลุมอาบน้ำ,
    ตู้เซฟ, ไฟฉาย, เครื่องชั่งน้ำหนัก, แปรงขัดรองเท้า, ฯลฯ
    (ของเขาเตรียมให้เยอะจริงๆ)
    พร้อมทั้งกระจกบานใหญ่





    พื้นที่กว้างขวาง และเอื้อต่อประโยชน์ใช้สอย
    มีที่วางกระเป๋าเดินทางพร้อม

    มีบานเลื่อนเปิด-ปิด เหมือนห้องเก็บของเล็กๆอีก 1 ห้อง
    เลยสนุกเด็กหมีเขาล่ะ ... เอาไว้เล่นซ่อนแอบ
    ^^”

    ++ จ๊ะเอ๋ !!! ++


    โดยรูปแบบการตกแต่งและการออกแบบประโยชน์การใช้สอยแล้ว
    ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานทุกอย่าง

    เดินเก็บภาพในห้องอย่างมีความสุข
    เพราะมีมุมสวยๆให้เก็บภาพเยอะมาก

    ++ รูปประดับภายในห้องพัก ก็ยังคงเป็นโทนสีขาว-ดำ ++


    เกือบ 1800 น. พนักงานยก afternoon tea set มาบริการให้ถึงห้อง
    เนื่องจากเตรียมไว้ให้แล้ว



    เล่นเอาอึ้งไปพักนึงกับความอลังการ เพราะดูน่าทานมาก
    มีทั้งเบอร์เกอร์, สโคน, เค้ก, เอแคลร์, ถุงทอง ฯลฯ
    เสิร์ฟพร้อมชาร้อนอีก 1 กา
    (เซ็ทนี้สำหรับ 4 คน ราคา 800.-บาทเน็ท)







    คุณลูกเล่นน้ำเสร็จ กลับมาถึงห้องปุ๊ป !
    เห็นเจ้าสิ่งนี้วางอยู่ในห้อง คว้าเข้าปากเลยทันที
    ^^”

    แต่แอบมีโวยวายค่ะ เพราะเบอร์เกอร์เป็นไส้ลาบหมู
    รสชาติออกเผ็ด คุณลูกบอกทานไม่ได้

    โปรแกรมสำหรับมื้อเย็นวันนี้
    เดิมทีคือที่ Shoreline Beach Club”
    แต่เนื่องจากช่วงที่เราเข้าพัก มีการปิดปรับปรุง
    เลยต้องเปลี่ยนสถานที่ ซึ่งทางผู้ดูแลเสนอเป็น”ร้านอยู่เย็น”

    เรามอง afternoon tea set ที่วางตระหง่านอยู่เบื้องหน้า
    เลยตัดสินใจโทรไปขอยกเลิกมื้อเย็นวันนี้
    เพราะที่มีอยู่ตอนนี้ ทานหมดก็อิ่มจุกล่ะ
    -.-“



    ส่วนตัวแล้ว เราเป็นคนชอบทานขนมหวาน
    ชอบบรรยากาศของ afternoon tea … ชอบนั่งชิลตามร้านกาแฟ

    ขอชมว่า เบเกอรี่ที่นี่อร่อยหลายอย่างเลยค่ะ
    และได้แอบดูราคาจากป้ายโฆษณาที่หน้าห้อง Coral Lounge
    เราว่าราคาก็ไม่ได้แรงมาก เรียกว่าจับต้องได้

    ////////////////////////////////////////////////////////

    • Posts-3
    Nina •  February 03 , 2016

    Lounge & Restaurant

    :+: CORAL LOUNGE :+:

    เอ่ยถึง afternoon tea set แล้ว ก็ขอพูดถึง Coral Lounge สักหน่อย
    เพราะจริงๆแล้ว เขาจะให้บริการที่ Coral Lounge ค่ะ

    Coral Lounge เป็น 1 ใน 5
    ส่วนบริการอาหารและเครื่องดื่มของอมารีหัวหิน
    ซึ่งอยู่ติดกับบริเวณ lobby



    ไม่ขอเรียกว่าห้องอาหารนะคะ (ตามชื่อของเขา คือ เลาจน์)
    เพราะห้องนี้เป็นแนวบริการขนมและเครื่องดื่ม มีทั้งชา-กาแฟ-ค๊อกเทล
    มีบริการขนมชิ้นเล็กๆ ในราคามิตรภาพ

    ภายในบริเวณ coral lounge เพดานสูงโปร่ง
    ประดับด้วยโคมไฟทรงปะการังสีแดง เข้ากับชื่อห้อง



    โดยรอบตกแต่งด้วยภาพม้า หมากรุก และปลาดาว
    (น่าจะ)สื่อความหมายถึงบรรยากาศชายหาดหัวหิน
    ที่เป็นถิ่นมีหอยและมีม้าเดินไปมา









    ////////////////////////////////////////////////////////

    :+: SHORELINE BEACH CLUB :+:

    ร้านอาหารริมหาด เน้นเมนูแบบบาร์บีคิว
    ซึ่งมีทั้งแบบพร้อมเสิร์ฟและปิ้งย่างด้วยตัวเอง

    เป็นที่น่าเสียดายว่า ที่นี่ปิดปรับปรุงเพื่อทำสระน้ำช่วงที่เราเข้าพักค่ะ
    เลยไม่มีโอกาสได้เห็นสถานทีจริง

    แต่ถึงกระนั้น โฆษณาก็ทำเอาน้ำลายหยดแหมะ
    เมนู BBQ Buffet ทุกคืนวันศุกร์
    ตั้งเป้าหมายว่า ถ้ามีโอกาสกลับไปหัวหินจะขอไปลองสักครั้ง !

    ////////////////////////////////////////////////////////

    :+: AQUA POOL BAR :+:

    บริการอาหารว่าง อาหารจานเดียวและเครื่องดื่มริมสระน้ำ
    แอบเสียดายเหมือนกัน ไม่มีโอกาสได้ลองใช้บริการ



    ////////////////////////////////////////////////////////

    :+: MOSAIC :+:

    สำหรับมื้อเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ เราฝากท้องเอาไว้ที่ห้องอาหารแห่งนี้ค่ะ
    ตกแต่งสวยงาม สีสันสดใส







    จากการเข้าพัก 3 วัน 2 คืน และทานอาหารมื้อเช้าที่นี่ 2 วันติด
    แอบสังเกตเห็นว่า เมนูอาหารบางอย่างมีการเปลี่ยนแปลงไม่ให้ซ้ำซากจำเจ
    จะคงไว้แต่เมนูหลัก อย่างแฮม เบคอน เมนูไข่ ฯลฯ

    ยกตัวอย่าง เช้าวันแรกมีเมนูโจ๊กและข้าวต้ม
    แต่วันถัดมาเป็นก๋วยเตี๋ยวค่ะ

    โดยรวมแล้วถือว่าหลากหลายใช้ได้ค่ะ
    โดยเฉพาะเมนูเครื่องดื่ม ซึ่งจะมีบางเมนูเปลี่ยนไปในแต่ละวันเช่นกัน

    ที่นี่ไม่ได้มีแค่น้ำผลไม้
    แต่มีเครื่องดื่มประเภท smoothies เป็นน้ำผลไม้ปั่นกับโยเกิร์ตด้วยค่ะ


    ขอเอ่ยปากชมนิดนึง ... เราลงมาทานอาหารเช้าใช้เวลาไม่ถึง 1 ชม.
    เพราะคุณลูกหมีร่ำร้องจะไปว่ายน้ำเล่น เลยกลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้องพัก
    เข้าไปถึงแม่บ้านทำความสะอาดห้องไว้ให้เรียบร้อยอย่างรวดเร็วมาก
    ทั้งๆที่ไม่ได้แจ้งอะไรเป็นพิเศษเป็นการส่วนตัว
    ประทับใจกับการบริการที่ใส่ใจและรวดเร็วค่ะ
    ^^

    ////////////////////////////////////////////////////////

    :+: REEF DELI & WINE LOUNGE :+:

    อีก 1 ห้องอาหารที่มีโอกาสได้ใช้บริการ เป็นมื้อเย็นวันที่ 2 ค่ะ
    ส่วนตัวแล้ว ชอบการเล่น lighting แสงและเงาของห้องอาหารนี้มาก
    เลยเก็บภาพมาซะเยอะเลย











    นอกจากบริการอาหารแล้ว ห้องนี้ยังเหมือนแหล่งรวมไวน์ชั้นดี
    แต่ไม่ได้ลองอีกล่ะ เพราะไม่ดื่มไวน์
    ^^”

    สำหรับอาหารเมนูเด็ดที่ได้รับการเสนอจากการเข้าพักครั้งนี้
    ได้แก่ แพนงเนื้อแกะ ... รสชาติเข้มข้นทีเดียวค่ะ

    พ่อหมีเป็นคนชอบทานเนื้อแกะอยู่แล้วด้วย ถึงกับชมเลยทีเดียว
    เพราะกลิ่นเนื้อแกะไม่แรง แถมเข้ากันได้ดีกับเครื่องแกงอย่างแพนง
    v


    สะเต๊ะไก่ ... ที่เน้นการนำเสนอ
    ทำ presentation ได้ดูดีน่ารัก ไม่มากและไม่น้อยไป
    v


    ปลาหิมะนึ่งซีอิ๊ว ... เนื้อปลาสด อร่อย
    รสชาติกลมกล่อม
    v


    ข้าวอบสัปปะรด

    v


    เครื่องดื่ม Apple Lychee
    ซึ่งช่วงที่เข้าพัก เขามีกิจกรรมให้ร่วมผ่านทาง social network
    สามารถแลกรับเครื่องดื่มชนิดนี้ได้ฟรีค่ะ
    v


    ปิดท้ายด้วยของหวานแบบโมเลกูล่า Mango Caviar
    ซึ่งเขาจะใช้หลักวิทยาศาสตร์มาช่วยในการปรุงแต่งอาหาร
    (โดนคุณลูกหมีแย่งทานไอศกรีมหมดเลย)
    v


    ////////////////////////////////////////////////////////
     

    • Posts-4
    Nina •  February 03 , 2016

    Facilities

    จบเรื่องส่วนบริการอาหารและเครื่องดื่มทั้ง 5 แห่งไปแล้ว
    มาชม facilities ส่วนกลางกันต่อค่ะ


    :+: MAIN POOL :+:

    สระว่ายน้ำกลางแจ้ง มีความยาวกว่า 38 เมตร







    เนื่องจากที่พักไม่ได้อยู่ติดทะเลหรือชายหาด
    เขาจึงจำลองชายหาด มาไว้ที่สระว่ายน้ำส่วนกลางค่ะ



    โดยการให้ความรู้สึกของสีน่ำตาลแทนหาดทราย
    พื้นเทลาดลงสู่พื้นน้่ำ แทนการใช้ขั้นบันไดหรือมีขอบปูน
    กระเบื้องสีฟ้าไล่ระดับสี แทนความตื้น-ลึกของน้ำ



    ระแนงไม้ที่ยื่นออกไปในสระ
    ไห้ความรู้สึกเหมือนท่าเรือ (หรือเหมือนสะพานปลาดี??)





    [ Shuttle Service ]
    ถึงแม้ที่พักจะไม่ได้ติดชายหาด
    แต่เขามีรถ Shuttle Service รับ-ส่งระหว่างตัวโรงแรมและชายหาด
    บริการฟรี สำหรับแขกที่เข้าพักที่โรงแรม

    รอบเช้าสุดตั้งแต่เวลา 0600 น.
    จนถึงรอบสุดท้าย รับกลับเวลา 2305 น.
    ให้บริการทุกๆ 30 นาที

    นอกจากนี้ ยังมีบริการรับ-ส่งจากโรงแรมไปยังหอนาฬิกาด้วยค่ะ
    วันละ 4 รอบเวลา
    สะดวกสำหรับคนที่อยากไปตลาดโต้รุ่ง
    แต่ไม่อยากขับรถไปเอง หรือเสียเวลาวนหาที่จอดรถ
    (แต่ถ้าอยากไปตลาดจักจั่นหรือ Cicada ก็เดินไปจากรร.ได้เลยค่ะ)

    ////////////////////////////////////////////////////////

    :+: KID’S POOL:+:

    อยู่ใกล้ๆกับ Aqua Pool Bar ค่ะ
    ลูกหมีไม่มาเล่นที่สระนี้เลย เพราะว่ายน้ำได้แล้วและชอบดำน้ำงมของ
    เลยเมินกับสระติ้นๆซะล่ะ



    ////////////////////////////////////////////////////////

    :+: FITNESS CENTER :+:

    ไม่ใหญ่มาก แต่ก็ถือว่าไม่ขาดหายค่ะ



    ////////////////////////////////////////////////////////

    :+: KID’S CLUB :+:

    อยู่ในบริเวณเดียวกันกับ Fitness Center
    ที่นี่จะมีห้องเด็กเล่น ที่ให้บริการฟรี มีของเล่นให้เลือกเล่นตามชอบ
    รวมถึงมีแผ่นการ์ตูนให้ดู



    กับส่วนกิจกรรมที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
    ตามตารางกิจกรรมในแต่ละวัน



    ซึ่งลูกหมีมีโอกาสได้ลองทำ”เทียนเจล” เป็นครั้งแรก
    เห็นลูกตั้งใจทำมาก ก็ดีใจค่ะ
    ได้ผลงานกลับบ้านไปอวดคุณปู่-คุณย่า



    .
    .

    เป็นอันว่าจบการพาทัวร์โรงแรมอมารี หัวหิน
    ซึ่งจริงๆแล้ว ยังถือว่าเราตกหล่นอยู่อีกหลายแห่ง
    ไม่ว่าจะเป็น ...
    * Breeze Spa - ที่ไม่มีโอกาสได้ลองใช้บริการ
    * Aqua Pool Bar - ไมไ่ด้ใช้บริการเช่นกัน
    * Shoreline Beach Club - เพราะปิดปรับปรุง

    ////////////////////////////////////////////////////////

    เต็มอิ่มกับที่พักสวยๆ บรรยากาศดีๆไปแล้ว
    แต่การเดินทาง 3 วัน 2 คืนของครอบครัวหมียังไม่จบค่ะ

    ตอนต่อไป จะพาไปเที่ยวใกล้ๆโรงแรม กับ"สวนน้ำ Vana Nava"
    ที่ใช้เวลาเดินทางไปจากที่พักไม่ถึง 10 นาที


    ปล. เด็กหมีคนนี้ชอบเล่นน้ำมากกกก
    แช่น้ำได้ทั้งวันเลยฮับ